อาชญากรรม
'ทวี' เตรียมบินอินโดฯ รับตัว 'แป้ง นาโหนด' กลับเข้าคุกไทย สิ้นสุดทางหนี 222 วัน
โดย JitrarutP
31 พ.ค. 2567
53 views
หลังหลบหนีไปได้ถึง 222 วัน สุดท้าย "แป้ง นาโหนด" นักโทษหลบหนีก็ถูกตามจับได้ที่บาหลี ประเทศอินโดนีเซีย หลังหลบไปเที่ยวกับสาว แต่เกิดทะเลาะวิวาทกันทำให้สาวแจ้งตำรวจจับ และพบว่าเป็นคนในหมายจับที่ไทยต้องการตัว
วันที่ 6 พฤษภาคม 67 ภาพกล้องวงจรปิดในคอนโดมิเนียมหรูแห่งหนึ่ง ที่เมืองเมดาน ประเทศอินโดนีเซีย จับภาพผู้หญิงคนหนึ่งวิ่งมาตามทางเดินด้วยความเร่งรีบ ก่อนจะหลบหนีเข้าไปตรงบันไดหนีไฟ จากนั้น 56 วินาทีต่อมา นายเชาวลิต ทองด้วง หรือ เสี่ยแป้ง นาโหนด วิ่งกุลีกุจอพร้อมกับรีบสวมเสื้อผ้าตามมา และพยายามวิ่งตามหาผู้หญิงคนนี้สักพักก่อนจะกดลิฟต์ แล้วเดินเข้าไปดูตรงบันไดหนีไฟ และออกมากดลิฟต์อีกครั้ง ก่อนจะหายไปจากหน้ากล้องวงจรปิด
คลิปนี้มีความยาว 1 นาที 17 วินาที ตามรายงานของชุดสืบสวนระบุว่า ผู้หญิงในภาพเป็นคนอินโดนีเซียมาพบ แป้ง ที่คอนโดนี้บ่อยครั้ง แต่วันที่เกิดเหตุมีปากเสียงกัน และแป้ง ลงมือทำร้ายร่างกายฝ่ายหญิง ทำให้ฝ่ายหญิงต้องหนีออกมา และมีพลเมืองดีที่อาศัยอยู่ภายในคอนโดฯ โทรศัพท์แจ้งตำรวจว่ามีการทำร้ายร่างกายกันเกิดขึ้น เมื่อตำรวจมาตรวจสอบจึงรู้ว่าเป็นคนร้ายหลบหนี ที่ทางการไทยต้องการตัว แต่จังหวะนั้น แป้ง ได้ไปเที่ยวที่บาหลีพอดี ทำให้ตำรวจอินโดนีเซีย ต้องไปตามจับตัวได้ที่นั่น
11 โมง 25 นาที ของวันที่ 30 พฤษภาคม คือ วินาทีที่เจ้าหน้าที่ของอินโดนีเซียจับตัวแป้งได้ และพยายามสอบถามเขา แต่เขาไม่ตอบคำถามใด ๆ ตามข้อมูลของพันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม บอกว่า แป้ง แกล้งเป็นใบ้ พูดไม่ได้ เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกจับได้ว่า ปลอมตัวเป็นคนอาเจะห์
จากนั้นตำรวจอินโดนีเซียได้ถ่ายภาพนิ่ง แป้ง โดยให้ถอดเสื้อ จะเห็นรอยสักทั้งตัว เพื่อยืนยันอัตลักษณ์บุคคลเพื่อให้ชัดเจนว่าจับถูกตัวไม่ผิดคน จากการสังเกตพบว่า สภาพของแป้ง อ้วนท้วนสมบูรณ์ หน้าตาแทบจะไม่ต่างจากช่วงเดือนพฤศจิกายน 2566 ที่เขาอัดคลิปแฉกระบวนการยุติธรรม ลงในโลกออนไลน์
พันตำรวจเอกทวี ให้ข้อมูลว่า "แป้ง นาโหนด" ปลอมแปลงหนังสือเดินทางอ้างตัวเป็นคนอาเจะห์ ประเทศอินโดนีเซีย และเคยถูกตำรวจอินโดนีเซียจับกุมแล้วหลายครั้ง แต่แกล้งเป็นใบ้ เพราะพูดภาษาอาเจะห์ไม่ได้ ซึ่งตลอดการหลบหนีอยู่ที่อินโดนีเซีย แป้ง กบดานอยู่ที่คอนโดหรูในเมืองเมดัน (Medan) เกาะสุมาตรา และมักมีผู้หญิงไทยหลายคนบินไปหา จากข้อมูลพบว่า ไม่ใช่คนในครอบครัว หลังจากนี้จะต้องขยายผลต่อ
เมื่อวานพันตำรวจเอก ทวี ได้วิดีโอคอลสอบปากคำ แป้ง เขายอมรับว่าจนมุมแล้ว ไม่เคยคิดว่าจะถูกจับ เพราะคิดว่าเป็นยุคที่เขาปลอดภัยที่สุด ก็เลยไปเที่ยว แต่ดันไปทำร้ายร่างกายผู้หญิงอินโดนีเซีย จึงโดนจับได้
ขณะที่ข้อมูลจากฟากของตำรวจระบุว่า 1 ในเบาะแสสำคัญที่ทำให้ชุดจับรู้ที่กบดานของแป้ง นาโหนด คือ ตำรวจหญิงคนหนึ่งที่อยู่ในขบวนการค้ายาเสพติดของแป้ง คดีนี้ต้องย้อนกลับไป วันที่ 11 พฤษภาคมที่ผ่านมา สมาชิกในขบวนการค้ายาเสพติดของแป้ง ไปอุ้มตัวชาวอินโดนีเซีย 3 คนมาเรียกค่าไถ่ โดยนำตัวไปขังไว้ที่บ้านพักของแป้งในจังหวัดพัทลุง บังคับให้ติดต่อญาติโอนเงินค่าไถ่มา 2 ล้าน 3 แสนบาท แต่ทางญาติเหยื่อโอนมาแค่ 8 แสน และทางญาติได้ประสานตำรวจจนสามารถติดตามจับขบวนการอุ้มได้ทั้งหมด
1 ในแก๊งเรียกค่าไถ่ที่โดนจับ มี "ตำรวจหญิง" 1 นาย รวมอยู่ด้วย และเธอคนนี้ เคยเป็นหน้าห้องรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ทำให้รู้ความเคลื่อนไหวในการติดตามตัวของแป้งมาตลอด และเชื่อว่าน่าจะคอยแจ้งเบาะแสให้แป้งด้วย จากการตรวจสอบประวัติพบว่า เธอเดินทางเข้าออกประเทศอินโดนีเซียบ่อยครั้ง และเป็นหนึ่งในขบวนการค้ายาเครือข่ายแป้ง ซึ่งเธอคนนี้ คือ กุญแจสำคัญที่ชี้เป้าที่อยู่ของเสี่ยแป้งว่าหลบหนีอยู่ที่ไหนในอินโดนีเซียจนนำมาสู่การจับกุม
ส่วนเหยื่อชาวอินโดนีเซียทั้ง 3 คน ตำรวจได้สอบสวนถึงชนวนเหตุจึงทราบว่า ทั้ง 3 คน เป็นสมาชิกของขบวนการค้ายาเสพติด ที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายค้ายาของอินโดนีเซีย และเคยค้าขายยาเสพติดกับเครือข่ายของเสี่ยแป้ง สาเหตุที่บินมาไทยเพราะมาทวงยาเสพติดที่จ่ายเงินแล้วไม่ได้ แต่ขบวนการค้ายาของแป้งอ้างว่า ส่งยาไปแล้วไม่ได้เงิน จึงต้องจับตัวมาเรียกค่าไถ่ ตอนนี้ชาวอินโดทั้ง 3 คน ถูกคุมตัวไว้ที่ศูนย์กักตัวผู้ต้องกักตรวจคนเข้าเมือง พื้นที่ อ.รัตภูมิ จ.สงขลา
วันนี้ทีมข่าวได้โทรศัพท์คุยกับพันตำรวจเอกทวี ถึงการรับตัวแป้งกลับมาดำเนินคดีในไทย ระบุว่า เมื่อวานนี้ได้ส่งทีมงานชุดแรก ซึ่งประกอบด้วย ดีเอสไอ, ตำรวจ, ป.ป.ส. ไปที่อินโดนีเซีย เพื่อประชุมในการขอรับตัวแป้ง มาดำเนินคดีในไทยแล้ว และพันตำรวจเอก ทวี จะเดินทางไปอินโดนีเซียในวันเสาร์นี้ เพราะมีกำหนดการจะไปประชุมเรื่องยาเสพติด จากนั้นจะไปประชุมและรับทราบความคืบหน้าในเรื่องนี้อีกครั้ง ส่วนจะนำตัวแป้ง กลับมาไทยวันไหนคงต้องสรุปกันกับทางการของอินโดนีเซียอีกครั้ง แต่คงใช้เวลาไม่นาน
ขณะนี้แป้ง ถูกทางการอินโดนีเซีย ดำเนินคดีในความผิดฐานลักลอบหลบหนีเข้าประเทศอินโดนีเซียโดยผิดกฎหมาย ส่วนการปลอมแปลงบัตรประชาชนของคนอื่น เบื้องต้นทราบว่าได้ปลอมบัตรประชาชนของชายชาวอาเจะห์ ซึ่งเป็นเขตปกครองพิเศษ ซึ่งอยู่ที่ทางการอาเจะห์ว่าจะดำเนินคดีอย่างไร และหากนำตัวแป้งกลับมาแล้วจะไปคุมขังที่เรือนจำไหน อยู่ที่กรมราชทัณฑ์จะเป็นผู้พิจารณา
พลตำรวจโท ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. ซึ่งเป็นหนึ่งในรายชื่อของคณะที่จะเดินทางไปเจรจากับทางการอินโดนีเซีย เปิดเผยว่า
วันอาทิตย์ที่ 2 มิถุนายน จะมีเครื่องบินของกองทัพบก 1 ลำ ออกจากท่าอากาศยานดอนเมือง แต่ยังไม่ทราบเวลา เพื่อไปเตรียมรับคณะทำงานพร้อมกับนำตัวแป้ง กลับมาดำเนินคดีที่ประเทศไทย จากนั้นจะนำตัวแป้งไปลงบันทึกประจำวันที่ สน.ดอนเมือง จะส่งตัวไปที่ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นหน่วยงานท้องที่ตามหมายจับ จากนั้นนำเข้าเรือนจำ แต่จะเป็นเรือนจำไหน อยู่ที่ดุลยพินิจของคณะผู้บริหารกรมราชทัณฑ์
รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/NkP128PL4WE