เหี้ยม! คนร้ายบุกฆ่า ‘ตา-ยาย’ วัยเกือบ 90 ปี ทิ้งศพหมกบ่อน้ำข้างบ้าน ตร.พุ่งเป้าชิงทรัพย์

สุดโหดเหี้ยม คนร้ายบุกฆ่าโหด 2 ตา – ยาย วัยเกือบ 90 ปี ทิ้งศพหมกบ่อน้ำข้างบ้าน เรื่องมาแดงตอนลูกหลานมารดน้ำวันสงกรานต์ ถึงพบเป็นศพ ตำรวจพุ่งเป้าชิงทรัพย์ หลังตายายขายที่ได้หลักล้าน ล่าสุดเรียกสอบพยานหลายปาก

เหตุเกิดที่บ้านไม้ยกสูง ในพื้นที่หมู่ 10 ตำบลนาพญา อำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร ผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คนเป็นพี่น้องกัน ชื่อ นางสาวล้วน อายุ 89 ปี และ นายเจือง อายุ 85 ปี ถูกฆ่าทิ้งศพในบ่อน้ำ ซึ่งอยู่ห่างจากตัวบ้านประมาณ 5 เมตร

ผู้ที่พบศพคือญาติ ๆ ของผู้เสียชีวิต ที่มาจากต่างพื้นที่ ตั้งใจมารดน้ำดำหัวในวันสงกรานต์ แล้วไม่เจอตัว เมื่อเดินหากลับพบแมลงวันตอมที่บ่อน้ำ และมีกลิ่นเหม็น จึงแจ้งตำรวจ สภ.หลังสวน มาตรวจสอบ ก็พบร่างนางสาวล้วน ทับร่างนายเจือง อยู่ที่ก้นบ่อ ลึกประมาณ 4-5 เมตร จึงประสานกู้ภัยมาช่วยนำร่างขึ้นมา โดยต้องใช้รถแบคโฮขุดดินรอบๆ ปากบ่อให้กว้างขึ้น ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง จึงนำร่างทั้งคู่ขึ้นมาได้

สภาพศพของคู่ไม่สวมเสื้อผ้า โดยนายเจือง มีบาดแผลที่หน้าผากเหนือคิ้วขวา ถูกตีด้วยของแข็งเป็นรอยยาวไปถึงขมับ และที่ท้ายทอยอีก 2 แผล ส่วนนางสาวล้วน แขนซ้ายถูกของแข็งตีจนหักผิดรูป คาดว่า เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 3-4 วัน

ส่วนการตรวจสอบบริเวณบ้าน พบว่า ที่โคนเสาหน้าบ้านด้านขวา มีกองเลือดแห้งเกรอะกรังจำนวนมาก โดยที่ข้างบันไดบ้านพบมีดพร้า 1 เล่ม ส่วนที่เตียงนั่งเล่นใต้ถุนบ้าน มีคราบเลือดกระเซ็นหลายจุด ที่พื้นใกล้เตียงมีขวานวางอยู่ 1 เล่ม และยังพบร่องรอยคล้ายกับการลากศพเป็นทาง จากเตียงนั่งเล่นไปทิ้งที่บ่อน้ำ ส่วนบนบ้านพบร่องรอยการรื้อค้นสิ่งของกระจุยกระจายไปทั่ว

จากการสอบสวนทราบว่า ทั้งคู่อยู่บ้านเดียวกันมานานแล้ว โดยนายเจือง เคยมีภรรยาและลูก 2 คน แต่ได้เลิกรากันไปกว่า 20 ปีแล้ว ซึ่งภรรยาพาลูกไปด้วย และไม่เคยไปมาหาสู่กันเลย ทั้งนี้พบว่าเมื่อ 2 ปีก่อน นายเจืองได้ขายที่ดินไปกว่า 10 ไร่ ได้เงินมากว่า 2 ล้านบาท และนำเงินเข้าฝากไว้ในบัญชีของนางสาวล้วน ทั้งคู่ใช้ชีวิตแบบไม่สนใจ ไม่สุงสิงกับใคร และมีปัญหากับเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้กันหลายคน

นายจรัญ อายุ 57 ปี หลานผู้เสียชีวิต บอกว่า ได้นัดญาติจากหลายพื้นที่ ทั้งอำเภอหลังสวน อำเภอละแม ของจังหวัดชุมพระ รวมถึงญาติจากสุราษฎร์ธานี และกระบี่ กว่า 10 คน ตั้งใจมาเยี่ยม และมาไหว้ขอพรนางสาวล้วน และนายเจือง ซึ่งมีศักดิ์เป็นน้าเป็นอา โดยได้ซื้อของมาฝากด้วย ซึ่งที่ผ่านมากว่า 10 ปีแล้ว ไม่เคยได้มาเยี่ยมหาทั้งคู่เลย วันนี้ไม่รู้อะไรดลจิตดลใจ ให้ทุกคนอยากมากราบไหว้ขอพร เนื่องในวันสงกรานต์

เมื่อมาถึงก็พบว่า ประตูหน้าบ้านเปิดอ้าอยู่ จึงได้เรียกตะโกนหา นึกว่าทั้งสองคนอยู่ในสวน แต่พอมาสังเกตเห็นคราบเลือดติดหลายจุด ทั้งเสาบ้าน รองเท้าแตะ บนเตียงนั่ง จึงเชื่อว่าต้องเกิดเรื่องไม่ดีแน่ จึงช่วยกันตามหาทั้งบนบ้าน ในสวน และข้างบ้าน กระทั่งมาถึงบ่อน้ำข้างบ้าน ซึ่งมีฝาบ่อปิดอยู่ พบแมลงวันบินตอมว่อน แถมตอนเข้าใกล้ก็ได้กลิ่นเหม็นคล้ายซากศพโชยมา จึงโทรแจ้งตำรวจมาตรวจสอบ

ด้าน นางมะลิวรรณ อายุ 54 ปี หลานอีกคนของผู้เสียชีวิต บอกว่า ตนเองมาหาทั้งคู่บ่อย เพราะเป็น อสม.ในพื้นที่ โดยจะคอยนำยามาให้ตามหมอสั่ง หรือหากมีใครไม่สบาย ก็จะโทรศัพท์มาเรียกให้พาไปหาหมอ โดยเจอทั้งคู่ครั้งสุดท้าย เมื่อกลางเดือนมีนาคม ส่วนเรื่องปัญหาของทั้งคู่ ตนเองไม่ทราบ เพราะไม่มีใครเคยเล่าอะไรให้ฟัง รู้แค่ว่าทั้งคู่ไม่ชอบไปสุงสิงกับใคร และไม่ไว้ใจใคร จะเรียกใช้ตนเองเท่านั้น

ขณะที่ นางกนิษฐา พัฒลำภู ผู้ใหญ่บ้าน บอกว่า ทั้งสองคนอาศัยอยู่ที่นี่มานานแล้ว ตายายมีที่ดินที่นี่ประมาณ 10 กว่าไร่ และยังมีที่ดินอยู่ต่างหมู่บ้านอีก แต่ที่ดินที่สร้างบ้านอยู่ในปัจจุบัน เป็นที่ดินตาบอด ต้องอาศัยที่ดินของเพื่อนบ้านเข้าออก ซึ่งตายายมักจะมีปัญหากับเจ้าของที่ดินรอบข้างบ่อยๆ และมีเรื่องถึงโรงถึงศาลมาแล้ว ส่วนชนวนเหตุครั้งนี้ตนเองก็ไม่รู้ว่าเกิดจากเรื่องอะไร

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/0GSe6s8r-x8