อาชญากรรม

เปิดไทม์ไลน์ คดีบ้าน ‘อากู๋’ ฟ้อง 3 ครั้ง ก่อน ‘คุณนุ’ หนึ่งในห้าผู้ต้องหาคดีแรก เครียดจบชีวิตตัวเอง

โดย paweena_c

27 ก.พ. 2567

115 views

คดีครอบครองปรปักษ์เรียกว่ามหากาพย์ เพราะเป็นความกันมาตั้งแต่ ก.ย. 66 ยาวจนถึงปีนี้ สื่อและสังคมต่างให้ความสนใจ จนล่าสุดมีคนตัดสินใจผูกคอฆ่าตัวตาย

จากกรณีที่คุณซันและคุณอาย หลานของอากู๋เหมทัศน์ เข้าร้องขอความเป็นธรรมกับทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ว่า ตนเองและภรรยา ได้ของขวัญวันแต่งงานจากอากู๋เหม เป็นบ้านทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น ในซอยรามอินทรา 58 คุณซันและคุณอาย จึงเดินทางมาดูบ้านหลังดังกล่าว ปรากฏว่าถึงกับงง เพราะมีคนเข้าไปอยู่อาศัย คุณซันต้องถามย้ำกับอากู๋ว่า ภาพถ่ายที่ให้มาถูกต้องหรือไม่ อากู๋อาจจะจำบ้านผิดหลังหรือเปล่า เนื่องจากปัจจุบันไม่มีต้นกล้วยอยู่แล้ว และทำประตูใหม่ สร้างหลังคาที่จอดรถด้วย ซึ่งอากู๋ก็ยืนยันบ้านเลขที่ตรงกัน

หลังจากนั้นคุณซันและคุณอาย ก็ทำทีเข้าไปถามคนที่อยู่ในบ้านหลังนั้นว่า จะขอเช่า ก่อนจะแสดงตัวในภายหลังว่า เป็นหลานเจ้าของบ้าน ทำให้มีการโต้เถียงอ้างกรรมสิทธิ์ในบ้านหลังนี้ ซึ่งอากู๋ก็ยืนยันว่าไม่เคยขายบ้านหลังดังกล่าวให้กับใคร

จากนั้น ช่วงเดือนสิงหาคม 2566 คุณซันและคุณอาย มาออกรายการโหนกระแส คนที่เข้ามาอยู่ในบ้านหลังดังกล่าว อ้างว่าบ้านหลังดังกล่าวถูกปล่อยทิ้งร้างมากว่า 30 ปี จึงเข้ามาดูแลให้เฉยๆ ไม่ได้มีเจตนาจะบุกรุกหรือครอบครองปรปักษ์ และพยายามติดต่อขอซื้อหรือขอเช่ากับทางเจ้าของแต่ว่าติดต่อไม่ได้ จึงเข้ามาดูแลเรื่อยมาเกิน 10 ปี

ข้อสรุปในรายการวันนั้น ทางฝั่งคุณนุบอกว่าจะย้ายของและทรัพย์สินออกยกบ้านคืนให้กับเจ้าของบ้านตัวจริง คือ อากู๋ คุณซันและคุณอาย ปรากฏว่าผ่านไปไม่กี่เดือน พบมีการเข้าไปบุกรุกรอบ 2 รอบนี้ติดป้ายขายไก่ตะเกียบทอดน้ำปลาพร้อมเบอร์โทรศัพท์ และมีป้ายเป็นกระดาษ A4 ติดไว้ ระบุว่าบ้านหลังนี้ข้าพเจ้าได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์ตามกฎหมายบุคคลใดเข้ามากระทำการใดๆ ในบ้านและที่ดินและบ้านหลังนี้ถือว่ามีความผิดฐานบุกรุกจึงประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน ลงชื่อ นางสาวศรีพรรณ ซึ่งนางสาวศรีพรรณเป็นพี่สาวของคุณนุ ภานุมาศ

ทางทนายฝั่งอากู๋ก่อนหน้านี้ได้แจ้งความดำเนินคดีกับผู้บุกรุกรอบแรกไปแล้ว 5 คน ได้แก่ 1.นางสาวภานุมาศ 2.นางนิตยา 3.นายพลกฤษณ์ 4.นางมาลี 5.นางศรีพรรณ ทั้ง 5 คนอัยการเรียกพบเมื่อ 18 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แต่ทั้ง 5 คนได้ประกันตัวหลังจากนั้นทางฝั่งของซัน พร้อมทนายกุ้งและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เข้าไปตัดกุญแจที่บ้านพิพาทหลังดังกล่าว พร้อมติดป้ายห้ามบุกรุก

กระทั่งเมื่อวานนี้ (26 ก.พ. 2567) มีการแจ้งข่าวว่าพบศพ เจ๊นุผูกคอเสียชีวิตในบ้านพักหรูย่านรามอินทราและเกี่ยวข้องกับคดีบ้านปรปักษ์ของอากู๋

ขณะที่ทนายวัฒนา เรืองแก้ว ทนายความผู้ตาย กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ คุณภานุมาศเคยโทรมาเล่าระบายถึงความเครียดให้ฟัง เกี่ยวกับเรื่องของคดีอาญาที่ถูกฟ้อง และปมสาเหตุหนึ่งที่นำไปสู่การฆ่าตัวตาย เกิดจากสื่อต่างๆ ที่แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้น ซึ่งผู้ตายก็ไม่ได้อยากมีคดีตั้งแต่ต้นแล้วก็อยากจะไปซื้อบ้านหลังดังกล่าว ไม่อยากมีข้อพิพาทกับใคร ผู้ตายเป็นคนดี

ทนายวัฒนา กล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้ คุณภานุมาศก็เคยโทรศัพท์ไปหาร้อยเวรเจ้าของคดี เพราะเครียดของกรณีที่เกิดขึ้น อยากคุยกับทุกฝ่าย ตอนแรกเข้าใจว่าเจ้าตัวสบายใจแล้ว เพราะไม่ได้มีการนำเสนอข่าวเรื่องนี้แล้ว และช่วงวันมาฆบูชา เข้าใจว่าเจ้าตัวไปปฎิบัติธรรม และหลังวันหยุดกลับมา คงจะได้พูดคุยกันเรื่องความคืบหน้าทางคดี แต่กลับมาด่วนตัดสินใจไปเสียก่อน ซึ่งหลังจากทราบข่าวรู้สึกเศร้าและคาดไม่ถึง ยอมรับว่าก่อนหน้านี้คุณภานุมาศ เคยบ่น ในช่วงที่นักข่าวมาทำข่าวเยอะๆ ว่ารู้สึกเครียด ถึงกับอยากฆ่าตัวตาย ซึ่งทุกคนก็ทราบอยู่ ทุกคนก็พยายามประคับประคอง

ต่อมานางสาวอำนวยพร มณีวรรณ์ หรือ ทนายกุ้ง ทนายความของฝั่งอากู๋ หลังทราบข่าวได้เดินทางมาเพื่อติดตามสถานการณ์ที่ สน.คันนายาว พร้อมให้สัมภาษณ์ว่า อากู๋ทราบข่าวก็ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นจึงยังไม่รู้ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป

สำหรับคุณภานุมาศ ผู้เสียชีวิตในครั้งนี้ เป็นหนึ่งในห้าผู้ต้องหา ที่ถูกทางเจ้าของบ้านตัวจริงฟ้องข้อหาบุกรุก ในคดีแรก เมื่อวันที่ 17 ก.ย. 2566 ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับคดีฟ้องครอบครองปรปักษ์ และที่ผ่านมาตัวผู้ตายก็ไม่เคยเข้าไกล่เกลี่ยกับทางทนายเดชาหรือทนายกุ้ง

คดีนี้หากเรียงตามลำดับเกิดขึ้นหลังจากที่เจ้าของบ้านตัวจริงแจ้งฟ้อง 5 ผู้ต้องหาฐานบุกรุก โดยมีตัวผู้เสียชีวิตในครั้งนี้ร่วมอยู่ด้วย ซึ่งในคดีนี้นัดเจรจากันที่ สน. แต่ตอนนั้นไม่สามารถตกลงเรื่องค่าเสียหายได้จึงยุติการดำเนินการไป และส่งมอบตัวบ้านคืนพร้อมรับทราบข้อหา มีกำหนดส่งฟ้องต่อศาลในวันที่ 6 มีนาคมที่จะถึงนี้

ต่อมาเจ้าของบ้านตัวจริงได้รับหมายศาลว่ามีหนึ่งในผู้ต้องหาในคดีบุกรุกคดีแรก ยื่นฟ้องที่ศาลมีนบุรีเพื่อครอบครองปรปักษ์บ้านดังกล่าว ซึ่งเธอในฐานะทนายความเห็นว่ากลุ่มคู่กรณียังไม่สามารถดำเนินการฟ้องครอบครองปรปักษ์ได้ เพราะบ้านมีการส่งมอบคืนเป็นที่เรียบร้อย และไม่ได้ครอบครองครบตามเงื่อนไข รวมถึงไม่ได้ครอบครองไว้เพื่อใช้ประโยชน์ในการพักอาศัย จึงส่งคำร้องคัดค้าน และฟ้องเรียกค่าเสียหายในคดีแพ่งไปกับทางตัวคุณศรีพรรณ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ต้องหาคดีบุกรุกคดีแรก และเป็นคนที่แจ้งฟ้องครอบครองปรปักษ์ ทำให้คุณศรีพรรณโดนดำเนินคดีข้อหาบุกรุกรอบที่ 2 เพิ่มเติมไปอีก



รับชมผ่านยูทูบ :  https://youtu.be/ntUmeTuSCMI

คุณอาจสนใจ

Related News