อาชญากรรม

ออกหมายเรียก ‘ลูกชายนักการเมือง’ ทำร้าย-พยายามอนาจารเซเลบสาว เจ้าตัวยังเงียบ

โดย chutikan_o

13 ก.พ. 2567

136 views

เซเลบสาวแจ้งความลูกชายนักการเมืองชื่อดัง พรรคพลังประชารัฐ พยายามล่วงละเมิด ล่าสุดตำรวจออกหมายเรียกให้เข้ามาให้ปากคำแล้ว แต่ยังไม่ได้รับการติดต่อกลับ

เมื่อวานนี้ (12 ก.พ. 2567) นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และ น.ส.สุชาดา แทนทรัพย์ เลขาฯ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม ได้พาผู้เสียหายวัย 25 ปี มาติดตามความคืบหน้าที่ สน.ประเวศ ในคดีที่ถูกผู้ก่อเหตุอายุ 27 ปี ลูกชายของนักการเมือง พยายามใช้กำลังกระทำอนาจารที่บ้านพัก

น.ส.สุชาดา ในฐานะที่ผู้เสียหายไว้วางใจและรู้จัก จึงเล่าเหตุการณ์แทนผู้เสียหายว่า ผู้เสียหายพบกับผู้ก่อเหตุที่ร้านแห่งหนึ่ง ย่านทองหล่อ แล้วถูกชักชวนให้มานั่งโต๊ะเดียวกัน จากนั้นก็ถูกฝ่ายชายยึดโทรศัพท์มือถือ แล้วให้ดื่มเหล้าแบบกรอกใส่ปาก จนเธอเมา พอตอนที่ผู้เสียหายจะกลับไปหาแฟนหนุ่มที่อยู่อีกร้านหนึ่งใกล้ๆ กัน ผู้ก่อเหตุก็อ้างว่าจะพาไปส่ง แต่ปรากฏว่าพอขึ้นรถมารู้สึกตัวอีกที ก็มาที่คฤหาสน์หรูของผู้ก่อเหตุแล้ว และด้วยความเมาตอนลงจากรถก็ล้ม แล้วอาเจียน จึงเข้าไปล้างตัวในบ้าน พอออกมาเจอผู้ก่อเหตุเปลี่ยนเสื้อผ้า จึงขอตัวกลับทันที

น.ส.สุชาดา เล่าต่อว่า ผู้เสียหายพยายามวิ่งหนีถึง 3 รอบ เพื่อเอาชีวิตรอด แต่ก็ถูกฝ่ายชายไปตามกลับมา กระทั่งมีเด็กชายวัย 13 ปี ขี่มอเตอร์ไซค์ผ่านมา เธอจึงขอติดรถกลับออกมาจึงหนีมาได้อย่างปลอดภัย

เธอยังนำภาพบาดแผลที่เธอได้รับบาดเจ็บมาแสดง และเปิดแผลให้ดู จะเห็นว่าผู้เสียหายมีแผลทั้งแขน ขา เข่า มือ เต็มไปหมด ทั้งจากการล้ม และการถูกกระชากลากเข้าบ้านของผู้ก่อเหตุ พอหนีออกมาได้เธอต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล ก่อนจะตัดสินใจเข้าแจ้งความกับตำรวจ สน.ประเวศ เมื่อวันที่ 8 ก.พ.ที่ผ่านมา และเข้าร้องเรียนกับเพจสายไหมต้องรอด เพื่อขอความคุ้มครอง เนื่องจากคู่กรณีเป็นไฮโซและมีครอบครัวเป็นถึงนักการเมือง

ผู้เสียหายบอกว่าที่ออกมาแจ้งความเพราะไม่อยากให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับใครอีก อยากให้ตำรวจนำตัวผู้ก่อเหตุมารับโทษตามกฎหมาย ยืนยันว่าจะดำเนินคดีเอาเรื่องให้ถึงที่สุด พร้อมทั้งเชื่อมั่นว่า กระบวนการยุติธรรมในประเทศไทยจะสามารถให้ความเป็นธรรมกับเธอได้

ภาพวงจรปิดลำดับไทม์ไลน์ที่เกิดขึ้นในคืนวันที่ 4 ก.พ. 2567 เวลา 02.01 น. ฝ่ายชายขับรถเข้ามาจอดที่บ้าน โดยฝ่ายหญิงลงมาจากรถด้วยสภาพที่เมา จนยืนแทบไม่ไหว เพราะจะเห็นว่าเธอล้มลงกับพื้น จนฝ่ายชายต้องเข้ามาประคองไปนั่งที่บันไดหน้าบ้าน นั่งพักอยู่เกือบ 1 นาที ก่อนที่ฝ่ายชายจะประคองฝ่ายหญิงเดินเข้าไปในบ้าน

จากนั้นทั้งคู่ก็เดินเข้าไปในบ้านโดยที่ฝ่ายชายเป็นคนถือกระเป๋าและจูงมือฝ่ายหญิงเข้ามา แล้วพาเข้าไปในห้องน้ำที่อยู่ภายในบ้าน ถัดมาอีกประมาณ 20 นาที ทั้งคู่เดินออกมา โดยที่ฝ่ายชายเปลี่ยนเป็นกางเกงขาสั้น แล้วโอบไหล่ฝ่ายหญิงเดินออกมา แล้วเดินออกไปนอกบ้านพร้อมกัน

กล้องวงจรปิดที่ประตูหน้าบ้านจะเห็นว่าทั้งคู่เดินออกมาตามปกติ ไม่มีอะไร ฝ่ายหญิงยังดูเมาๆ ก่อนที่จะไปรับกระเป๋าสะพายของฝ่ายชาย แล้วเดินออกมาที่ลานจอดรถ

พอออกมาฝ่ายหญิงเหมือนสะบัดแขนออกจากฝ่ายชาย ทำให้ฝ่ายชายเดินไปที่รถ เหมือนว่าจะขับรถไปส่ง แต่สุดท้ายทั้งคู่ออกมาคุยกันที่ลานจอดรถ คุยกันสักพักแล้วฝ่ายชายก็เดินออกไปส่งฝ่ายหญิงที่ประตูรั้วหน้าบ้าน

จากนั้นภาพตัดมาอีกทีตอน 02.57 น. ฝ่ายหญิงวิ่งออกมาจากหน้าบ้านไปยังป้อมยามหน้าหมู่บ้าน กระทั่ง 03.12 น. หญิงผู้เสียหายถูกฝ่ายชาย ฉุดกระชากกลับมาอีกครั้ง จนฝ่ายหญิงล้มลงไปกับพื้น แต่ฝ่ายชายก็ยังไม่ยอมหยุด ยังพยายามฉุดกระชาก และพาฝ่ายหญิงกลับไป

วานนี้ทีมข่าวสอบถามเรื่องนี้ไปยังนักการเมืองท่านหนึ่งที่ถูกพาดพิงว่า เป็นพ่อของผู้ก่อเหตุ และเป็นคนนำโทรศัพท์มือถือและของส่วนตัวผู้เสียหายไปคืน ยอมรับว่า เป็นคนนำมือถือให้กับหญิงคนดังกล่าวจริง เพราะโทรศัพท์ถูกทิ้งไว้อยู่ในห้อง ยืนยันว่าไม่มีอะไร พวกนี้เป็นแก๊งทำลายชื่อเสียง เรารู้ดี เรามีพยานหลักฐานอยู่แล้ว และมั่นใจในพยานหลักฐาน ขณะนี้กำลังวางแผนจัดการ ยืนยันว่าเรื่องพวกนี้ไม่มีความจริงเลย และหลังจากนี้ก็จะรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีกลับ

ในเรื่องนี้ น.ส.สุชาดา สวนกลับว่า ผู้เสียหายก็เป็นคนมีฐานะ ไม่มีความจำเป็นต้องทำลายชื่อเสียงใครเพื่อต้องการเงิน

ส่วนความคืบหน้าคดี พนักงานสอบสวน เปิดเผยว่า ออกหมายเรียกให้ผู้กระทำความผิดเข้าให้ปากคำ เบื้องต้นเข้าข่ายความผิด 3 ข้อหา ทำร้ายร่างกาย หน่วงเหนี่ยวกักขัง และอนาจาร แต่เนื่องจากอัตราโทษทางคดีสั่งจำคุกไม่เกิน 3 ปี และผู้ก่อเหตุมีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง จึงไม่สามารถออกหมายจับได้ และออกหมายเรียกแทน โดยมีกำหนดระยะเวลาว่าต้องเข้ามาให้ปากคำภายใน 7 วัน แต่เช้านี้ยังไม่มีการติดต่อกลับ ส่วนพยานที่เป็นเด็ก ซึ่งเป็นคนช่วยผู้เสียหายนั้น ทราบว่าทางอัยการจะนัดมาสอบปากคำร่วมกับสหวิชาชีพภายในวันศุกร์ที่ 16 ก.พ.นี้ ที่สำนักงานอัยการ

จากคำให้การของผู้เสียหาย ระบุว่า คืนเกิดเหตุเธอไปเที่ยวสถานบันเทิงกับเพื่อน ภายในซอยทองหล่อ 4 ลึกจากถนนทองหล่อประมาณ 50 เมตร ตั้งอยู่บนศูนย์การค้าแห่งหนึ่ง ซึ่งสถานที่แห่งนี้เป็นจุดที่ผู้เสียหายและผู้ก่อเหตุได้พบกัน ก่อนที่จะมีการดื่มสังสรรค์ และร้านที่เธอบอกว่าจะไปหาแฟนที่อยู่ซอยทองหล่อ 13 ซึ่งทั้ง 2 ร้านห่างกันแค่ 750 เมตร ขับรถไม่เกิน 3 นาที แต่ปรากฎว่าถูกผู้ก่อเหตุพามาที่บ้านซึ่งอยู่ไกลออกมา ที่ต้องขับรถนานกว่าครึ่งชั่วโมง

เมื่อทีมข่าวไปตรวจสอบพบว่า บ้านผู้ก่อเหตุอยู่ภายในซอยสาธารณะย่านศรีนครินทร์ มีรั้วรอบขอบชิดสูงมาก คนภายนอกไม่สามารถมองเข้าไปได้ แต่วันนี้บ้านถูกปิดเงียบ ไม่พบความเคลื่อนไหวใดๆ

ทีมข่าวอาชญากรรมพูดคุยกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในบริเวณบ้านที่เกิดเหตุ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่กะดึกเล่าให้ฟังว่า มีเสียงทะเลาะวิวาทดังมาก แต่จับใจความไม่ได้ว่าทะเลาะกันเรื่องอะไร และพบเห็นหญิงชายวิ่งออกมาจากบ้านหลังเกิดเหตุตามที่ปรากฏในคลิปวงจรปิด ก่อนที่จะวิ่งกลับมาที่บ้านเข้าใจว่าเป็นแฟนทะเลาะกัน และอาจจะเมาเหล้าด้วย

ส่วนสาเหตุที่ไม่ออกไประงับเหตุเพราะกลัวอิทธิพลใช่หรือไม่ รปภ. ยอมรับว่า ก็อาจจะมีเกรงกลัวอิทธิพลบ้าง และตอนที่ออกไปตรวจก็ไม่เห็นทั้งคู่แล้ว จึงไม่รู้ว่าฉุดกระชากกัน กระทั่งเห็นวงจรปิดตอนที่ตำรวจมาขอ ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยเจอเหตุการณ์ลักษณะนี้ ทราบแค่ว่าบ้านที่เกิดเหตุเป็นบ้านของนักการเมืองใหญ่ และอยู่มานาน ที่ผ่านมาก็ไม่ค่อยยุ่งสุงสิงกับเพื่อนบ้านในละแวกพื้นที่ มักจะเก็บตัวเงียบอยู่ในบ้าน

เช่นเดียวกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในจุดอื่นๆ ก็ให้ข้อมูลกับทีมข่าวเหมือนกันว่า ได้ยินเสียงดังคล้ายชายหญิงทะเลาะวิวาท แต่ไม่สามารถจับใจความได้ว่าทะเลาะกันประเด็นเรื่องอะไร และไม่ได้ออกมาดูเพราะเข้าใจว่าเป็นแฟนทะเลาะกัน

ทีมข่าวเที่ยงวันทันเหตุการณ์ โทรศัพท์สอบถามคุณเดียร์ เพื่อนสนิทของผู้เสียหาย กล่าวว่า จากการพูดคุยกับเพื่อนสาว บอกว่าตอนนี้จิตใจย่ำแย่มาก หลังจากที่มีข่าวออกไป ฝ่ายชายยังไม่มาขอโทษ ไม่ยอมรับว่าสิ่งที่ทำนั้นเป็นเรื่องที่ผิด มีเพียงพี่ชายของฝ่ายชายเท่านั้นที่พยายามติดต่อมายังคนใกล้ชิดของฝ่ายหญิงเพื่อขอเคลียร์ ในเรื่องราวที่เกิดขึ้น เรื่องนี้ต้องดำเนินคดีไปตามกฎหมาย ไม่ยอมความแน่นอน เพราะไม่อยากให้สิ่งที่ฝ่ายชายกระทำนั้นเห็นว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดา



รับชมผ่านยูทูบ :  https://youtu.be/k8B71zcrTuw

คุณอาจสนใจ