แฉ! เพจดังเรียกค่าไถ่ ทักแชตขู่โจมตีขยี้ข่าว 'คลินิกใช้หมอกระเป๋า' ขอยืมเงิน 3 แสน แลกช่วยปิดข่าว

มูลนิธิเป็นหนึ่งพาเจ้าของโรงพยาบาลและคลินิกเสริมความงาม 3 เจ้า ร้องกองปราบฯ หลังถูกเพจดังทักข่มขู่แฉเคสและแผลเก่าของคลินิก เรียกเงินหลายแสน อ้างขอยืมและจะช่วยปิดข่าว

เพจ "เป็นหนึ่ง" พาเจ้าของคลินิกชื่อดังใน จังหวัดนครราชสีมา เข้าร้องที่กองบังคับการปราบปราม หลังถูกเพจดัง ทักเข้ามาข่มขู่ โดยส่งภาพเก่าเมื่อ 3 ปีที่แล้วที่คลินิกดังกล่าวทำผิด คือ ใช้หมอกระเป๋าฉีดวิตามินให้ลูกค้าและใช้คำลักษณะเลี่ยงบาลีขอยืมเงิน 300,000 บาท แลกกับการช่วยเหลือคลินิกปิดข่าว

โดยคุณเอ (นามสมมุติ) เจ้าของคลินิกในจังหวัดนครราชสีมา(ผู้เสียหาย) เปิดเผยว่า เธอเปิดคลินิกมากว่า 3 ปีแล้ว ซึ่งช่วงแรกถูกร้องเรียนและดำเนินการเอาผิดเรื่องใช้หมอกระเป๋าและคลินิกยังทำไม่ถูกต้องตามกฎหมายทั้งหมด จึงทำให้ถูกสั่งปิด ต่อมาได้มีการยื่นขออนุญาตเปิดคลินิกอีกรอบและดำเนินการทุกอย่างถูกต้องตามกฎหมายแล้ว

ปรากฏว่าเมื่อ 2-3 วันก่อน มีเพจดังเพจหนึ่งที่ชอบออกมาแฉคลินิกเสริมความงามและศัลยกรรม ทักมาหาเธอ โดยส่งภาพเมื่อ 3 ปีก่อนที่คลินิกของเธอ ใช้หมอกระเป๋าฉีดวิตามินให้กับลูกค้าและใช้ข้อความลักษณะว่า Admin ของเพจจะแฉเรื่องนี้ แต่ ทางเจ้าของเพจขอไว้เลยยังไม่ได้เปิด พร้อมส่งภาพที่ทาง Admin ของเพจทำไว้เตรียมโพสต์

จากนั้นแอดมินเพจ ก็ทัก คุณเอ มาอีกว่า ขอยืมเงิน 300,000 บาท และเร่งรัดให้รีบโอน ทันที ทักมาติดๆทุกนาที ซึ่งเจ้าของคลินิกโอนไปให้ก่อนบางส่วนแต่ทางเจ้าของเพจ บอกอีกว่ามันไม่พอ อีก 1 ชั่วโมงให้โอนมาเพิ่ม

ทางคุณเอ จึงรู้สึกว่าเธอถูกข่มขู่และบังคับขืนใจให้โอนเงินไปให้ ซึ่งทางเพจอ้างว่า จะช่วยเหลือคลินิก แต่เธอ ก็ไม่รู้และไม่ได้ถามว่าจะช่วยเรื่องอะไร วันนี้จึงตัดสินใจร้องขอความช่วยเหลือไปทางเพจเป็นหนึ่ง จึงทำให้ทราบว่ามี เจ้าของคลินิกอีกหลายแห่ง ที่โดนในลักษณะเดียวกัน

ขณะที่คุณอ้อ เจ้าของเพจเป็นหนึ่ง กล่าวว่า ตนได้รับเรื่องร้องเรียนจาก คุณเอ เจ้าของคลินิกในจังหวัดนครราชสีมา ก็นำเรื่องดังกล่าวมาโพสต์ลงเพจเป็นหนึ่ง ปรากฏว่า มีเจ้าของคลินิกเสริมความงามอีกหลายแห่งและโรงพยาบาลศัลยกรรม ที่โดนเพจดังข่มขู่รีดทรัพย์ เพื่อปิดปากไม่แฉความผิดของคลินิกในลักษณะเดียวกัน และยังมีการอ้างอีกว่า ทางเพจดังกล่าว ทำงานให้กับคนใหญ่ คนโตในกระทรวง กระทรวงหนึ่ง ส่งมาให้ทำหน้าที่ตรวจสอบคลินิกเสริมความงามต่างๆ

คุณอ้อ บอกว่า อยากถามกลับว่าเพจ ดังกล่าว ทำงานให้กับกระทรวงไหน และทำไมถึงมีหน้าที่มาตรวจสอบคลินิก

ซึ่งหากได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้เสียหายที่ไปใช้บริการคลินิกเสริมความงามหรือโรงพยาบาลศัลยกรรม ก็ควรพาไปร้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ใช่ข่มขู่เรียกเงินแต่เลี่ยงบาลีด้วยการใช้คำว่า "ยืม" และทักมาทวงฝั่งเจ้าของคลินิกทุกนาที

ด้านนายสิรวิทย์ ช่วงเสน ฝ่ายกฏหมายของกลุ่มเป็นหนึ่ง เปิดเผยว่า วันนี้ทางผู้เสียหายจะแจ้งความดำเนินคดีกับอดีตพนักงานชายด้วย ที่เป็นคนก่อเหตุ ส่งข้อมูลต่างๆให้ทางเพจชื่อดัง และจะยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหากับเพจชื่อดังเพราะความผิดยังไม่สำเร็จ แต่พฤติการณ์ดังกล่าวเข้าข่ายการรีดทรัพย์ หรือ ข่มขืนใจแน่นอน

จึงอยากให้ตำรวจได้ทำการตรวจสอบเพจดังกล่าวนี้ เพราะมีลักษณะรีดทรัพย์กับผู้เสียหายหลายราย โดยอ้างว่าจะยืมเงิน แต่มีลักษณะข่มขู่ มีคนเคยเสียเงินมากถึง 1 ล้านบาท เข้าข่ายเป็นภัยสังคม

ขณะที่นิกกี้ ได้ชี้แจงถึงประเด็นดังกล่าวว่า เรื่องทั้งหมดมาจากก่อนหน้านี้ ตนได้โพสต์ในเพจของตน คือนิกกี้ขยี้ข่าว เกี่ยวกับคลินิกเสริมความงามแห่งหนึ่งในจังหวัดนครราชสีมา ว่าสนิทกับตำรวจยศใหญ่โต และ คนใหญ่คนโตในจังหวัด

โดนจับครั้งแรกเรื่องเงียบสนิท ปัจจุบันเปิดคลินิกปลอม ยาปลอม เจ้าของลงมือฉีดเอง #ไฮโซโคราช ซึ่งเป็นการโพสต์ถึงคลินิกทั่วไป เพราะที่โคราช มีคลินิกเสริมความงามหลายแห่ง ไม่ได้เจาะจงไปที่คลินิกของใคร

ต่อมานุ่น ซึ่งเป็นคนที่ตนเคยช่วยเหลือจากการไปทำหน้าอกที่คลินิกแห่งหนึ่งแล้วเกิดปัญหา ได้ติดต่อมาหาตน บอกว่ามีคนชื่อโบว์ ซึ่งเปิดคลินิกเสริมความงามอยู่ที่โคราชอยากคุยด้วย และอยากให้ช่วยเหลือ เพราะได้รับผลกระทบจากโพสต์ของตน

ซึ่งตอนนั้นตนได้บอกนุ่นไปว่าไม่สามารถช่วยได้ เพราะกำลังยุ่ง เนื่องจากต้องหาเงินไปใช้ทำธุระ นุ่นจึงไปคุยกับโบว์ ซึ่งนุ่นกับโบว์ มีความสนิทสนมกันเพราะนุ่นเปิดร้านทำเล็บ และโบว์ก็เป็นลูกค้าประจำของนุ่น

จากนั้นโบว์ก็ติดต่อมาหาตน และคุยในลักษณะว่าอยากจะช่วยเหลือโดยให้เงิน 1 แสนบาท โดยตนได้ปฏิเสธที่จะรับเงินจำนวนนี้ แต่ได้พูดต่อว่าจะขอยืมเงิน 3 แสนบาทเพื่อไปทำธุระ โดยวันจันทร์ (วันนี้ 8 ม.ค. 67) หากทำธุระเรื่องที่ดินเรียบร้อยก็จะคืนเงินให้ ซึ่งโบว์ก็รับปากจะให้ยืมเงิน แต่ตอนหลังก็เงียบหายไป

ตอนนั้นตนต้องรีบใช้เงิน จึงส่งข้อความและโทรศัพท์ไปทวงถาม แต่โบว์ก็ไม่สามารถมาให้ตนได้ จนสุดท้ายเพื่อของตนให้ยืมเงิน ตนจึงบอกโบว์ไปว่าไม่ต้องหาเงินมาให้แล้ว ซึ่งตนมีหลักฐานว่าเงิน 3 แสนบาท เป็นการขอยืม ไม่ได้เป็นการข่มขู่รีดเงิน

ส่วนที่ในวันนี้ ทางเพจเป็นหนึ่ง พาคุณโบว์ ไปแจ้งความที่กองปราบปราม ตนไม่หนักใจ และตนพร้อมที่จะตาต่อตาฟันต่อฟัน เพื่อชี้แจงเรื่องทั้งหมด และจะฟ้องกลับคนที่ทำให้ตนเสียชื่อเสียงด้วย

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/DontdezrMjs