อาชญากรรม

ผัวเมียร้อง! ถูกเพื่อนบ้านรุมกระทืบ ผิดใจปมขยะ-ขี้หมา เพื่อนบ้านโต้ ไม่เคยขู่ฆ่า-ทำร้าย รับคำท้าสาบานพิสูจน์

โดย JitrarutP

28 ธ.ค. 2566

86 views

สองผัวเมียร้องกองปราบ ถูกเพื่อนบ้านยกพวกกระทืบจนสลบต่อหน้าลูก สาเหตุมาจากปัญหาเรื่องขยะและเรื่องขี้หมา มีปากเสียงทะเลาะกันจนบานปลายถึงขั้นทำร้ายร่างกายขู่ฆ่ายกครัว ขณะที่คู่กรณีโต้กลับเป็นหนังคนละม้วนไม่เคยทำร้ายร่างกายสองคนผัวเมีย

ก่อนหน้านี้ จ่าคิง สะพานใหม่ พาผู้เสียหาย สองสามีภรรยาแจ้งความร้องทุกข์ที่กองปราบฯ กรณีโดนเพื่อนบ้านรุมกระทืบต่อหน้า ลูก 7 ขวบ จนสลบ และฟันหัก แล้วเตะหัวซ้ำ จนสมองบวม หลงลืม จำความไม่ได้ และคู่กรณียังข่มขู่ จะฆ่าให้ตายทั้งบ้าน อ้างว่า ตร.สภ.คลองหลวง ทำอะไรพวกเขาไม่ได้หลอกเพราะเขารู้จักหมด ทุกวันนี้เครียดจนเกือบคิดฆ่าตัวตาย เพราะไม่กล้ากลับเข้าบ้าน ต้องออกมาเช่าโรงแรมอยู่หลายวัน ส่วนปมปัญหาเกิดจากการกระทบกระทั่งกันระหว่างปัญหาเพื่อนบ้าน เรื่องขยะ เรื่องขี้หมา จนบายปลายทะเลาะกันหนักหน่วง

โดย นางสาวเบนซ์ อายุ 41 ปี ภรรยาผู้บาดเจ็บ เล่าว่า ตนอาศัยอยู่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งใน ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี กับนายปัน อายุ 50 ปี สามี และลูกชายวัย 7 ขวบ พร้อมกับแม่สามี ซึ่งก่อนหน้านี้ยอมรับว่าครอบครัวตนมีปัญหากับเพื่อนบ้านฝั่งตรงข้าม ในเรื่องขยะหน้าบ้าน

ซึ่งแม่สามีเป็นคนชอบเก็บของเก่ามากองเอาไว้หน้าบ้านขวางถนนประมาณ 1 เลน ตนเองก็พูดอะไรไม่ได้มาก เนื่องจากแม่สามีเป็นคนเก็บ แต่ปัญหากองขยะดังกล่าวทำให้ตนเริ่มมีปัญหาระหองระแหงกับเพื่อนบ้านอยู่เป็นประจำ ซึ่งเพื่อนบ้านดังกล่าวประกอบอาชีพรับเหมาก่อสร้าง อาศัยอยู่กันในบ้านประมาณ 9 คน

กระทั่งเวลาล่วงเลยถึงวันที่ 9 ก.ย.ที่ผ่านมา ช่วงเวลาประมาณ 13.00 น.ในขณะที่ตนและสามี อยู่ที่บริเวณหน้าบ้านของตน ซึ่งติดกับช่องกลับรถภายในหมู่บ้าน วันนั้นกลุ่มเพื่อนบ้านอยู่กันประมาณ 7 คน ขณะนั้นได้มีหนึ่งในกลุ่มเพื่อนบ้านดังกล่าว เดินเข้ามาใกล้รถยนต์ของตน

จึงเข้าไปเตือนว่า อย่ามาเข้าใกล้รถ เพราะว่าก่อนหน้านั้น หนึ่งในเพื่อนบ้านดังกล่าวเคยมาระรานขูดรถของตนเองไปครั้งหนึ่งแล้ว เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2565 ซึ่งตนมีหลักฐานเป็นกล้องวงจรปิด เคยแจ้งความไปแล้วแต่คดีก็ไม่คืบอยู่ดี

ทำให้วันที่ 9 ก.ย. ที่ผ่านมา ตนเข้าไปเตือนเพื่อนบ้าน ทำให้มีปากเสียงโต้เถียงกัน แล้วจู่ๆ มีชายคนหนึ่งในกลุ่มเพื่อนบ้านโมโห จอดรถทำทีท่าว่าจะวิ่งไปเอาปืนพร้อมกับขู่ว่าจะยิงให้ตายยกครัว ซึ่งภรรยาของชายคนนั้นก็ได้ห้ามปรามเอาไว้ ต่อมามีผู้หญิงคนหนึ่งในกลุ่มดังกล่าวจะเข้ามาทำร้ายร่างกายตน สามีจึงเข้ามาช่วยห้ามปราม ทำให้กลุ่มคนของฝั่งเพื่อนบ้านมาลากตัวสามีไปรุมทำร้ายร่างกายจนสลบในช่องกลับรถข้างบ้าน จนได้รับบาดเจ็บจึงรีบไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล

หลังเกิดเหตุทราบว่าตุ้มหูทองคำพลอยนพเก้าได้หายไป มีราคาประมาณ 15,000 บาท ส่วนอาการบาดเจ็บของสามีแพทย์ระบุว่า มีอาการเลือดคลั่งในสมอง แก้วหูทะลุ ฟันหน้าหัก 2 ซี่ ต้องเดินทางไปพบแพทย์ตลอด หลังเหตุการณ์เกิดขึ้นเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.คลองหลวง ซึ่งสายตรวจได้ลงพื้นที่มาเก็บพยานหลักฐานไปแล้ว พร้อมกับเรียกตนเองกับสามีให้ปากคำ

แต่ตอนนี้คดีความยังไม่คืบหน้าทุกวันนี้ผู้ก่อเหตุยังก่อกวน แหย่สุนัขของตนให้เห่าดังตอนตี 2 ซึ่งทางครอบครัวต้องทนทุกข์มาตลอด 4 ปี และก็แจ้งความไปแล้วหลายครั้งในเรื่องเสียงดัง ขูดรถ ปล่อยสุนัข มาสร้างความรำคาญ ขี้ เยี่ยวหน้าบ้านของตนอีก

ตนเครียดเคยคิดจะฆ่าตัวตาย คิดจะขายบ้านหนี แต่ว่า บ้านหลังนี้ก็อยู่มานานกว่า 20 ปีแล้ว ทุกวันนี้ต้องออกมาเช่าโรงแรมอยู่รายวันเพราะกลัวว่ากลับไปจะเจอกับคู่กรณี ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ครอบครัวของตนกังวลและกลัวเป็นอย่างมาก เนื่องจากกลุ่มผู้ก่อเหตุเป็นนักเลงมีพวกเยอะ ซึ่งขณะที่ทำร้ายร่างกายกลุ่มผู้ก่อเหตุก็ทำร้ายตนกับสามีต่อหน้าลูกชาย จึงคิดว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุไม่มีจิตสำนึกผิดชอบชั่วดี วันนี้จึงอยากมาร้องสื่อ อยากให้ตำรวจกองปราบช่วยเร่งรัดคดี

ส่วนที่คู่กรณีออกมาโต้กลับว่าไม่เคยทำร้ายร่างกายและฝ่ายของตนเองเป็นคนเริ่มทำร้ายร่างกายก่อน สองสามีภรรยาคู่นี้ท้าคู่กรณีให้สาบานเลย ถ้าไม่ถูกทำร้ายร่างกายสามีตนเองจะล้มหัวฟาดฟันหักเองหรือ

ด้านนายบดินทร์ และ น.ส.นุสรา เพื่อนบ้านคู่กรณี เปิดเผยว่า ก่อนหน้าวันที่จะเกิดเรื่อง กลุ่มตนประมาณ 4 คน ผู้หญิง 2 คน ผู้ชาย 2 คน เพิ่งกลับมาจากทำงาน แล้วฝั่งผู้ร้องเรียนก็บอกว่ากลุ่มตนเดินไปเฉี่ยวรถยนต์ของเขา ทำให้เขาไม่พอใจ ซึ่งยืนยันว่า ขณะนั้นกลุ่มของตนไม่ได้เข้าใกล้รถยนต์ของเขาอย่างที่เขากล่าวอ้าง

ขนาดแค่จะเดินผ่านหน้าบ้านเขา กลุ่มของพวกตนยังเดินถนนเลนตรงข้ามเลย ต่อมาวันเกิดเรื่อง ซึ่งตนก็ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ ตนทราบจากที่กลุ่มเพื่อนที่อยู่ในเหตุการณ์ว่า ช่วงบ่ายโมง ขณะที่กลุ่มเพื่อนกำลังจะออกไปทำงาน

ขณะที่เพื่อนของตนเองจะออกไปทำงาน นายปัน ผู้ร้องเรียน ได้เดินถอดเสื้อแล้วมากระโดดขวางหน้ารถ พร้อมกับตะโกนโวยวายว่า พวกมึงมากรีดรถกู ไม่ให้กลุ่มเพื่อนออกไปทำงานได้

จากนั้นก็เกิดการปะทะโต้เถียงกัน ซึ่งตนยอมรับว่าพูดจริง ที่บอกว่าเดี๋ยวได้แดกลูกปืน แต่ก็เป็นแค่การพูดโต้เถียงท้าทายกันเพราะฝั่งของผู้ร้องก็พูดว่า กูก็มีเหมือนกัน จึงทำให้มีเรื่องชกต่อยกันตามมา แต่ไม่ใช่เป็นการรุมกระทืบอย่างที่ผู้ร้องกล่าวอ้าง

นายบดินทร์ และ น.ส.นุสรา บอกอีกว่า ที่ผ่านมามีปัญหากระทบกระทั่งกับกันมาโดยตลอดแต่ส่วนมากกลุ่มของตนจะเป็นฝ่ายเงียบเสีย มากกว่า ส่วนเรื่องกองขยะหน้าบ้านของผู้ร้องเรียน ยอมรับว่าเป็นปัญหาสะสมยาวนาน เนื่องจากมีรถเข้าออกเยอะ ซึ่งกองขยะกับรถยนต์ของผู้ร้องเรียนจอดขวางไปแล้วหนึ่งเลน ทุกคนที่อาศัยอยู่ในซอยดังกล่าวต่างเข้าออกลำบากกันทั้งสิ้น ซึ่งอาจจะมีรถบางคันขับไปเฉี่ยวรถของผู้ร้องเรียนจนเกิดเป็นรอยดังกล่าวก็ได้

เรื่องกองขยะกลุ่มพวกตนไม่เคยเข้าไปคุยหรือต่อว่าแม่ของผู้ร้อง แต่ยอมรับว่า รู้สึกไม่โอเคกับการที่เอากองขยะ ของเก่ามาวางเอาไว้บริเวณหน้าบ้านแบบนี้ ซึ่งทุกบ้านได้รับผลกระทบโดยตรง ดูได้จากบ้านหลังติดกันกับผู้ร้องเรียนที่ประกาศขาย คาดว่าเขาคงจะอยู่ไม่ได้เช่นกัน

ส่วนเรื่องที่ผู้ร้องเรียนอ้างว่ากลุ่มตนปล่อยให้สุนัขออกมาขี้เยี่ยวหน้าบ้านของเขานั้น ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง อาจจะเป็นสุนัขของบ้านอื่นก็ได้ใครจะรู้ ซึ่งเวลาตนเองจะพาสุนัขออกไปนอกบ้านจะมีสายจูงไปด้วยและมีถุงสำหรับเก็บขี้หมาตลอด ถามคนอื่นในหมู่บ้านได้เลย

ส่วนเรื่องที่เขาอ้างว่ากลุ่มพวกตนไปแหย่สุนัขให้เห่าเสียงดังในตอนเวลากลางคืนนั้น ใครจะแหย่สุนัขตนเองให้เห่าเสียงดัง ที่สุนัขเห่าเป็นเพราะว่าพวกตนเลิกงานดึก มันคิดถึงเจ้าของมันก็เลยเห่าแค่นั้นเอง

สุดท้ายเรื่องที่ผู้ร้องเรียนอ้างว่ากลุ่มตนรู้จักกับตำรวจ สภ.คลองหลวงนั้น ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง ไปพูดให้ข่าวแบบนี้ตนเองและตำรวจก็เสียหาย ใครจะรับผิดชอบส่วนที่ท้าสาบานตนเองพร้อมรับคำท้า แล้วมาดูกันว่าใครพูดจริงใครโกหก


รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/STh9sWeYnic


คุณอาจสนใจ

Related News