อาชญากรรม
สาวร้อง 'หนุ่มหล่อติ๊กต็อก' หลอกจดทะเบียนสมรส กู้เงินเปย์-ดาวน์รถให้ สุดท้ายหนี ทิ้งหนี้ไว้ 2 แสน
โดย paweena_c
26 ธ.ค. 2566
132 views
แม่หม้ายสาว เขียนจดหมายถึงพี่หนุ่ม กรรชัย ขอความช่วยเหลือ หลังไปหลงรักหนุ่มหล่ออัพโปรไฟล์หรูในแอป tiktok จนตกลงปลงใจจดทะเบียนสมรสด้วย และทุ่มเท เปย์หมดหน้าตัก ดาวน์รถให้, กู้เงินซับพอร์ตจนเป็นหนี้กว่า 2 แสนบาท สุดท้ายฝ่ายชายขาดการติดต่อ ทิ้งหนี้ให้รับผิดชอบ
ทีมข่าวเที่ยงวันทันเหตุการณ์เดินทางไปพบกับนางสาวพี (นามสมมติ) อายุ 32 ปี กล่าวว่า หลังตนเองไปตกหลุมรักหนุ่มคนหนึ่งผ่านทางแอป tiktok จนตกลงปลงใจจดทะเบียนสมรสกันและเธอก็เป็นสาวเจ้าบุญทุ่ม ทุ่มเททั้งใจ และทุ่มเททั้งเงินทองทรัพย์สินต่าง ๆ เพื่อดูแล support ฝ่ายชาย จนกลายเป็นหนี้ จู่ ๆ ฝ่ายชายตีตัวออกห่างและขาดการติดต่อทิ้งหนี้ไว้ให้เธอรับผิดชอบเพียงคนเดียว
โดยนางสาวพีบอกว่า ตอนเดือนกันยายน 2564 เธอสมัครเล่นแอปติ๊กต็อกเป็นครั้งแรกและเลื่อนไป เลื่อนมา ไปสะดุดผู้ใช้ tiktok รายหนึ่ง ชื่อคุณชายปอ กำลัง Live สดอยู่ ซึ่งเป็นหนุ่มหน้าตาดี พูดจาไพเราะ โปรไฟล์หรู ดูดีไปหมดทุกอย่าง เธอจึงเข้าไปติดตามดูไลฟ์สดของคุณชายปอ ยิ่งทำให้รู้สึกประทับใจ จึงกดติดตามและส่งข้อความไปหาบอกว่า "น่ารักจัง"
หลังจากนั้นก็ทำความรู้จักกัน แลกไลน์และพูดคุยกันเรื่อยมา ก่อนตัดสินใจคบหาเป็นแฟนกัน ซึ่งฝ่ายชายก็ทราบว่าเธอเคยมีลูกติดมาแล้ว 2 คน แต่ฝ่ายชายบอกว่ารับได้ต้องการสร้างอนาคต ร่วมกัน พอคบกันได้เพียงเดือนเดียว เธอตัดสินใจดาวน์รถ Honda City มือสอง 15,000 บาทให้คุณปอ ต่อมาพฤศจิกายน - ธันวาคม 2564 คุณพีขายทองและกู้เงินมาอีกกว่า 120,000 บาท ใช้จ่ายด้วยกันและส่วนหนึ่งให้ฝ่ายชาย อ้างว่าจะลงทุนสร้างเนื้อสร้างตัวทำธุรกิจเกี่ยวกับรถ
คุณพี บอกว่าระหว่างนั้นก็คบหากันเป็นปกติ เดือนมกราคม 2565 เธอได้ซื้อโทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่ให้ฝ่ายชายเป็นของขวัญปีใหม่ หลังจากได้โทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่ ก็มีไลน์สาวปริศนาชื่อ "เจ๊ไก่" ทักมาหาคุณปอว่า "เบื่อเมียหรอ" คุณพีเห็นข้อความก็เลยงง และพยายามถามแต่ฝ่ายชายอ้างว่า เป็นญาติทักมาคุยปกติไม่มีอะไร เธอก็เลยปล่อยผ่านไม่อยากเซ้าซี้
จากนั้นอีก 1 เดือน ฝ่ายชายชวนเธอไปจดทะเบียนสมรส เพื่อให้เธอสบายใจ เธอจึงตกลง จดทะเบียนสมรสด้วยตอนเดือนกุมภาพันธ์ 2565 หลังจากจดทะเบียนสมรส คุณพีก็จับได้มาตลอดว่าฝ่ายชาย แอบคุยเล่นกับสาว ๆ ในโซเชียลอยู่เป็นประจำ
ที่หนักก็คือ ฝ่ายชายพาแฟนเก่ามาเช่าห้องอยู่ข้าง ๆ ติดกันกับห้องของคุณพี อ้างว่า เป็นญาติ บ้าง เป็นน้องสาวบ้าง ทำให้เสียใจเป็นอย่างมาก แต่ฝ่ายชายก็พยามปลอบใจ
บอกว่าแฟนเก่าก็คือแฟนเก่า ต่างคนต่างอยู่ คุณพีก็ให้อภัย คิดว่าฝ่ายชายจะ แก้ไขปรับปรุงตัวเองดีขึ้น แต่ก็ยังสร้างเรื่องให้ปวดหัวตลอด จนเธอทนไม่ไหว และขอเลิก แต่ฝ่ายชายไม่ยอม จนวันหนึ่งคุณพีลาออกจากงานและได้เงินมา 120,000 บาท ก็แบ่งให้ฝ่ายชายคนละครึ่ง หลังจากนั้นฝ่ายชายก็ทำตัวดีขึ้นมาได้พักหนึ่ง
หลังจากนั้น คุณพี พยายามหางานใหม่ทำ เงินที่ได้มาเริ่มหมด ความรักความสัมพันธ์กับฝ่ายชายก็เริ่มจืดจางลง
กระทั่งเดือนเมษายน 2566 คุณพีตัดสินใจทัก Facebook ไปหาคนชื่อ "เจ๊ไก่" ปรากฏว่าได้รู้ความจริงอีกว่า เจ๊ไก่ที่ฝ่ายชายอ้างว่า เป็นญาติ แท้จริงแล้วคือแฟนเก่าอีก 1 คน
ซึ่งคุณพีได้คุยกับเจ๊ไก่ ยิ่งรู้วีรกรรมของฝ่ายชายว่า ผู้ชายคนนี้ จะอยู่กับผู้หญิงที่มีเงินคอย support ให้เท่านั้น ซึ่งเจ๊ไก่ บอกเธอให้เลิกโง่ได้แล้ว คุณพี บอกว่า หลังจากเธอรู้ความจริง พยายามขอเลิก แต่ฝ่ายชายไม่ยอมเลิก
ขณะเดียวกัน ฝ่ายชายโพสต์เฟสบุ๊กว่า "เบื่อแล้ว CITY อยากขับ Mazda" คุณพีก็เลยบอกว่า ส่งรถคันเก่าให้หมดก่อน ฝ่ายชายแสดงท่าทีไม่พอใจ หลังจากนั้น
ฝ่ายชายไปออกรถใหม่ Mazda โดยที่ไม่บอกคุณพีและคุณพีก็ไม่รู้ด้วยว่า เอาเงินที่ไหนไปออกรถ รู้อีกทีคือ ฝ่ายชาย เอารถ CITY มาคืนและไม่ยอมผ่อนต่อ เหลือยอดอีก 200,000 กว่าบาท และเก็บเสื้อผ้าออกจากห้อง ไปอยู่ร้านคาร์แคร์ ที่ทำงาน
หลังจากนั้น ฝ่ายชายก็หายไปเลย ขาดการติดต่อ บล็อกทุกช่องทาง ทิ้งภาระหนี้สิน ต่าง ๆ ไว้ให้คุณพีรับผิดชอบเพียงคนเดียว ซึ่งคุณพีบอกว่าเธอเองรู้สึกเสียใจและผิดหวังในตัวผู้ชายคนนี้มาก ตอนนี้พ่อของเธอก็ป่วยเป็นมะเร็งลำไส้และเธอยังต้องเลี้ยงลูกอีก 2 คน อยากให้คุณปอ กลับมารับผิดชอบหนี้สินที่สร้างไว้ เธอบอกไม่ขออะไรมาก ขอแค่เงิน 80,000 บาทเท่านั้น และให้มาหย่ากัน
ด้านคุณปอ ฝ่ายชายที่ถูกกล่าวหา ยอมรับว่าตลอด 2 ปีที่คบกันมา ตนก็รักผู้หญิงคนนี้อย่างจริงจัง จึงพากันไปจดทะเบียนสมรส ส่วนเรื่องเงินยอมรับว่าฝ่ายหญิงกู้เงินมา จำนวนหลายบาท แต่ก็ไปเป็นการใช้จ่ายร่วมกัน
ซึ่งเงินเดือนทุกบาท ตนก็ยกให้ฝ่ายหญิงดูแลทั้งหมด, เรื่องรถ Honda City ฝ่ายหญิงดาวน์ให้จริง แต่ตนเป็นคนผ่อนมาตลอด 2 ปี ซึ่งชื่อก็เป็นชื่อฝ่ายหญิง ตอนนี้ตนซื้อรถคันใหม่แล้ว จึงเอา Honda City ไปคืนให้ฝ่ายหญิงแต่ก็บอกกับฝ่ายหญิงแล้วว่าถ้า ไม่เอาตนก็ยินดีที่จะรับผิดชอบผ่อนต่อ แต่ขอให้โอนชื่อมาเป็นของตน
ปัญหาที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่ทะเลาะกันก็มาจากเรื่องเงินที่ใช้จ่ายไม่พอ ตนก็ต้องดูแลพ่อแม่เหมือนกัน จึงขอแยกทางออกมา ซึ่งปัญหาที่ยังคาราคาซังคือเรื่องหนี้สิน ยอด 80,000 กว่าบาท ถ้าจะเอาเงินสด คุณปอบอกว่า ตนไม่มีให้ แต่ขอทะยอยผ่อนคืน ซึ่งที่ผ่านมาก็โอนคืนให้ทุกวันที่ 5 และวันที่ 20 โอนคืนไปแล้วประมาณ 10,000 บาท และพยายามขอให้ฝ่ายหญิงมาเซ็นใบหย่าแต่ฝ่ายหญิงไม่ยอม
ส่วนเรื่องแฟนเก่าที่มาเช่าห้องอยู่ข้าง ๆ คุณปอยอมรับว่า เป็นเรื่องจริง แต่เป็นแฟนเก่าที่เลิกกันไปนานแล้วไม่ได้คิดอะไรเกินเลยคิดเป็นแค่เพียงพี่น้องเท่านั้น
รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/dFG7xS3dOVA