อาชญากรรม

'แม่น้องชมพู่' เตรียมยื่นอุทธรณ์ 'ลุงพล' พยายามฆ่า ด้าน 'ป้าถอน' อดีตเพื่อนรัก ผิดหวังเคยเข้าข้างคนผิด

โดย paweena_c

21 ธ.ค. 2566

128 views

ครอบครัวน้องชมพู่เตรียมอุทรณ์ เพิ่มโทษลุงพล ฐานพยายามฆ่า ขณะเพื่อนสนิทอย่างป้าถอนบอกว่า หลังจากศาลตัดสินจำคุก 20 ปีลุงพล ทำให้รู้สึกเสียใจ

นางสาวิตรี วงศ์ศรีชา แม่น้องชมพู่ เปิดเผยว่าจากคำตัดสินของศาลก็พอใจแล้วรู้สึกตื้นตันใจ ขอขอบคุณศาลจังหวัดมุกดาหาร ขอบคุณกระบวนการยุติธรรมและขอบคุณตำรวจชุดคลี่คลายคดีที่ทำให้ความจริงปรากฎว่า น้องชมพู่ไม่ได้เดินขึ้นเขาไปเสียชีวิตเองมีคนทำให้เสียชีวิตและศาลก็ตัดสินมาแล้วว่า จำเลยที่ 1 คือ ลุงพล มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของน้อง

ซึ่งในส่วนของคดีที่จะมีการอุทธรณ์เพิ่มโทษนั้น ตนเองได้ปรึกษากับทนายแล้วว่าจะเพิ่มโทษในข้อหา 288 ฆ่าคนตายโดยเจตนาเล็งผล ตามที่อัยการได้มีการยื่นไปตอนแรก แต่เมื่อวานนี้ศาลได้มีการพิพากษาลงโทษจำเลยในข้อหากระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย

หลังจากนี้ก็น่าจะมีการหารือในรายละเอียดกับทีมทนายความให้ชัดเจนเพื่อดำเนินการตามกรอบระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด ส่วนจำเลยที่ 2 คือ ป้าแต๋น ตนเองเชื่อว่าก็มีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งกำลังอยู่ในขั้นตอนปรึกษาทนายว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป

ขณะที่นายอนามัย วงศ์ศรีชา พ่อน้องชมพู่ เปิดเผยว่ารู้สึกดีใจและขอบคุณกระบวนการยุติธรรมที่ให้ความเป็นธรรมกับน้องชมพู่แม้ว่าจะต้องรอคอยมานานถึง 3 ปี และที่ผ่านมา ตนเองก็ถูกสังคมบางส่วนและแฟนคลับของลุงพล โจมตีมาตลอดที่ไปสงสัยในตัวลุงพล พอถึงวันนี้ความจริงเริ่มปรากฏ ตนเองก็รู้สึกสบายใจขึ้น

ด้านนายพิสิษฐ์ ตรัยเจริญเมธากุล ทนายความแม่น้องชมพู่ เปิดเผยว่า ในส่วนของจำเลยที่ 1 ได้ลงโทษไป 2 ข้อหา จำคุกรวม 20 ปี ส่วนจำเลยที่ 2 ศาลยกฟ้อง อย่างไรก็ตามมีหลักฐานบางส่วนที่เรามองตามข้อเท็จจริง ถ้าตามความเป็นจริงเด็กอยู่บ้าน ไปถึงบนเขา 1.2 กม.

หากเราอุ้มเด็ก หรือเราสัมผัสเด็ก ทั้งลมหายใจ และการเต้นของหัวใจ เชื่อว่าทุกคนจะรู้ว่าเด็กมีชีวิตอยู่หรือไม่ และมีของเด็กเล่นไปตกอยู่บนเขาด้วย เราเชื่อว่ามีคนที่เอาเด็กไป และมีคนหยิบของเล่นเด็กไปด้วย นี่คือที่เรามองแตกต่างและจะใช้สิทธิตรงนี้ยื่นอุทธรณ์ต่อไป รวมทั้งจากแนวทางการสืบสวนสอบสวนเราก็เชื่อว่ามีการนำเด็กไปปล่อยโดยเจตนา

ทนายความยังบอกอีกว่า ตนเองจึงมองว่าพยานหลักฐานที่เรานำสืบมามีเพียงพอที่จะเปลี่ยนแปลงคำนิจฉัยได้ และคงใช้สิทธิอุธรณ์ต่อไป คดีนี้แม้ว่าจะไม่มีประจักษ์พยานก็ใช่ว่าจะไม่สามารถลงโทษได้ เพราะอาชญากรจะทิ้งร่องรอยไว้เสมอ คดีนี้จริงก็ยาก แต่ความร่วมมือทุกฝ่ายพยายามค้นหาความจริง เราจึงต้องใช้นิติวิทยาศาสตร์ และบุคคลพยานแวดล้อมต่างๆ

ขณะที่ตัวละครสำคัญอีก 1 คน คือ ป้าถอน ที่เป็นเพื่อนรักและเพื่อนสนิทของลุงพล ซึ่งตั้งแต่เกิดเรื่องน้องชมพู่หายตัวไปเพราะของจะคอยอยู่เคียงข้างลุงพลเสมอแม้กระทั่ง พ่อแม่ของน้องชมพู่สงสัยในตัวลุงพล โดยป้าถอน บอกว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาที่อยู่ใกล้ชิดกับลุงพล ตนเองเชื่ออย่างสนิทใจว่าลุงพลบริสุทธิ์ และลุงพลไม่เคยเผยพิรุธอะไรให้เห็นเลย กล้าไปวัด กล้าสาบานและก็เป็นคนติดต่อหาพระช่วยจัดการเรื่องงานศพน้องชมพู่

แต่มีอยู่ช่วงหนึ่งที่ตำรวจสอบปากคำชาวบ้านในหมู่บ้านกกกอก และไปสอบปากคำพ่อแบมพยานคนสำคัญ ที่ให้ไทม์ไลน์ช่วงเวลาที่พบเห็น ลุงพล ในป่ายาง ซึ่งใกล้เคียงกับช่วงเวลาที่น้องชมพู่หายตัวไปทำให้ตำรวจพุ่งเป้าสงสัยไปที่ตัวลุงพล

และลุงพลไม่พอใจ ในคำให้การของพ่อแบม ลุงพลเคยมาบ่นกับตนซึ่งก็ยังพูดเตือนไปว่า ใครจะให้การอย่างไรก็เป็นเรื่องของเขาเรามีคำให้การของเราก็พูดไปตามข้อเท็จจริง ซึ่งก็ไม่คิดว่าลุงพลจะเป็นคนทำ

จนมาถึงวันนี้ศาลตัดสินว่าลุงพลเป็นคนทำ ทำให้รู้สึกเสียใจมาก ไม่คิดว่าคนที่พูดมาตลอดว่ารักน้องชมพู่ จะเป็นคนลงมือทำกับน้องแบบนี้

ส่วนประเด็นที่ป้าถอน แยกตัวห่างจากลุงพล เพราะหลังจากที่ลุงพลเริ่มดังมีแฟนคลับมี youtuber ตามติดชีวิตทำให้ลุงพลเปลี่ยนไป และลุงพลก็จะให้ความสำคัญกับยูทูเปอร์และแฟนคลับ หลังจากนั้นทำให้ตนมีปากเสียงกับยูทูเปอร์ลุงพล และจึงตีตัวออกห่าง


รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/dgEt3s16fN0

คุณอาจสนใจ

Related News