อาชญากรรม

เปิดใจตำรวจ จับกุมเด็ก 14 เคยเข้าอบรมรับมือกราดยิง เมื่อได้รับแจ้ง รีบลุยฝนไประงับเหตุทันที

โดย chutikan_o

4 ต.ค. 2566

263 views

ทีมข่าวอาชญากรรมมีโอกาสได้สัมภาษณ์ ผู้กอง ธัญอมร หนูนารถ รองสารวัตรป้องกันและปราบปราม สน.ปทุมวัน 1 ใน 3 ตำรวจที่เข้าควบคุมสถานการณ์ บอกว่า เคยเข้าอบรมหลักสูตรควบคุมสถานการณ์ฉุกเฉิน ทำให้สามารถประเมินหน้างานได้

ร้อยตำรวจเอก ธัญอมร เผย ตนเป็นชุดปฏิบัติการ Active Shooter ของ สน.ปทุมวัน หลังวานนี้ได้รับแจ้งจากวิทยุว่า มีเหตุยิงกันในสยามพารากอน จึงรีบเดินทางไปทันที ซึ่งภารกิจที่เขาต้องรับผิดชอบต้องทำยังไงก็ได้ที่จะระงับเหตุและหยุดคนร้ายให้เร็วที่สุด มิเช่นนั้นอาจจะเกิดความสูญเสียขึ้นได้ โดยได้นำอาวุธปืนสั้น ปืนเล็กยาว และปืนช็อตไฟฟ้า ไปด้วย

หลังจากที่ไปถึงจุดเกิดเหตุ ก็ได้ประสานตำรวจนายอื่นที่เข้าระงับเหตุ และเดินเข้าไปตรวจตราตามชั้นต่าง ๆ ของห้างในลักษณะของการแยกการตรวจค้น ซึ่งได้ยินการข่าวว่า ผู้ก่อเหตุอยู่บริเวณโซนใต้ ชั้น 3 จึงแยกไปจุดดังกล่าวร่วมกับตำรวจ สน.สำราญราษฎร์อีก 2 นาย เมื่อมาถึงโซนใต้ของชั้น 3 ก็พบเห็นเด็กผู้ก่อเหตุยืนอยู่ในร้านเฟอร์นิเจอร์ ในลักษณะมือหนึ่งถืออาวุธปืน และอีกมือหนึ่งกำลังถือโทรศัพท์พูดคุยเจรจากับวิทยุผ่านฟ้า

ซึ่งทางวิทยุผ่านฟ้าได้พยายามเกลี้ยกล่อมให้เยาวชนผู้ก่อเหตุวางอาวุธ พอเด็กเห็นตำรวจ ก็พูดว่า "ตอนนี้มากันเยอะมาก มีอาวุธปืน เขาต้องสู้และยอมตาย หากไม่มีทางอื่นที่หนีรอดหรือสู้ไม่ได้ ก็จะฆ่าตัวตาย" สังเกตเห็นเลยว่าเด็กหวาดระแวงมาก ตอนนั้นเขาก็อ่านเกมออกว่า เป็นการวัดใจระหว่างเขาและเด็กที่ก่อเหตุ รวมทั้งประเมินหน้างานแล้ว เห็นว่าเด็กคนนี้มีความเชี่ยวชาญด้านอาวุธปืนพอสมควร เพราะรู้จักใช้เข็มขัดเส้นนอกในการมารัดเพื่อเก็บแขวนอาวุธปืนและกระสุนปืน รวมทั้งลักษณะการยิง

ทำให้เขาแสดงศักยภาพของตนเองให้ผู้ก่อเหตุเห็นว่า เขาเหนือกว่าเขา โดยการแสดงอาวุธปืนเล็กยาว เพื่อให้เยาวชนผู้ก่อเหตุเกรงกลัว ไม่สู้กับ ผู้ก่อเหตุได้ยืนฉุกคิดระยะหนึ่ง ก่อนที่จะตัดสินใจเขวี้ยงอาวุธปืนลง จึงสั่งให้ผู้ก่อเหตุกลับหลังหันและชูมือขึ้นไว้ไว้ที่ศีรษะ แล้วสั่งให้ผู้ก่อเหตุค่อย ๆ เดินถอยหลังเข้าหาตำรวจ ก่อนจะสั่งให้ผู้ก่อเหตุคุกเข่าลง พร้อมกำชับตำรวจอีก 2 นายว่า ค่อย ๆ ย่องเข้าไป เพราะไม่มั่นใจว่าตัวเยาวชนจะมีอาวุธปืนอื่นอีกหรือเปล่า ก่อนจะแบ่งหน้าที่ให้แต่ละนายเข้าจับกุมเยาวชนและเคลียร์พื้นที่เกิดเหตุ

หลังควบคุมสถานการณ์ได้ ตัวของผู้กอง ธัญอมร ไม่ได้พูดคุยกับผู้ก่อเหตุโดยตรง แต่เป็นตำรวจอีกรายที่เข้าไปพูดคุย ปลอบใจ พุดคุยด้วยความนิ่มนวล เพื่อแจ้งข้อหาและแจ้งสิทธิ์ตามกฎหมาย แต่ผู้กองบอกว่า จากการสังเกต พบว่าเด็กผู้ก่อเหตุมีลักษณะว่าไม่รับรู้ มีท่าทีนิ่งเฉย เหมือนคนครุ่นคิด และมีลักษณะยอมจำนน ไม่มีอาการคุ้มคลั่งหรือขัดขืน อาจจะด้วยความกลัวเพราะเห็นว่าตำรวจมีอาวุธและจริงจัง แต่ดูแล้วยังมีสติดีเพียงแต่ไม่ค่อยพูด ไม่ได้พูดร้องขออะไรเป็นพิเศษแม้กระทั่งพบเจอผู้ปกครอง กระทั่งผู้บังคับบัญชาเดินทางมาถึง ก็เป็นอันที่สุดหน้าที่ของเขา

ผู้กอง ธัญอมร ยอมรับว่า ตอนนั้นกดดันอย่างมาก เนื่องจากเป็นพื้นที่ห้างที่เปิดโล่ง ซึ่งไม่อาจคาดการณ์ได้ว่า แต่พยายามปฏิบัติตามขั้นตอนของยุทธวิธีที่ฝึกมา แต่สถานการณ์จริงแตกต่างจากสถานการณ์ที่ได้ฝึกซ้อมมาพอสมควร จึงต้องระมัดระวังตนเองสูง เพราะอาจจะเกิดเหตุไม่คาดฝันได้

ผู้กองธัญอมร บอกว่า ยุทธิวิธีที่เข้าควบคุมสถานการณ์ครั้งนี้ เป็นหลักสูตร Active Shooter อบรมเมื่อ 2 ปีก่อน หลังเกิดเหตุกราดยิงที่นครราชสีมา ซึ่งยุทธวิธีที่ได้รับการฝึกฝนระหว่างอบรมจะช่วยให้ผู้ปฏิบัติงานด้วยกันสามารถปฏิบัติการได้โดยไม่เกิดความสับสนและสามารถปฏิบัติการได้อย่างเป็นระบบ รวมทั้งสามารถยุติสถานการณ์ไม่ให้เกิดความสูญเสียเลือดเนื้อไปมากกว่านี้ได้



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/Cji-y2gIGZ0


คุณอาจสนใจ

Related News