อาชญากรรม

แม่ร้อง ลูก 14 ถูกแก๊ง ผช.ผู้ใหญ่บ้านไล่ทำร้ายดับ ตร.ทำคดีเป็นอุบัติเหตุ ซ้ำโยนเด็ก 13 เป็นแพะรับผิดแทน

โดย paweena_c

9 ส.ค. 2566

353 views

ทนายรณรงค์พาครอบครัวพาผู้บาดเจ็บถูกวัยรุ่นทำร้าย ยื่นหนังสือขอเปลี่ยนพนักงานสอบสวน หลังถูกอิทธิพลในพื้นที่เปลี่ยนแปลงสำนวนคดี จากทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต กลายเป็นคดีอุบัติเหตุ จนทางครอบครัวผู้เสียหายต้องวิ่งหาหลักฐานเอง ซ้ำให้เด็กอายุ 13 ปี ที่เป็นเยาวชน เป็นแพะรับคดีแทน

ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พาผู้ปกครองของเยาวชนอายุ 14 ปี มายื่นหนังสือถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเพื่อขอให้เปลี่ยนคณะพนักงานสอบสวนและขอความเป็นธรรมเกี่ยวกับคดีที่กลุ่มของเยาวชน ทั้ง 5 คนถูกผู้มีอิทธิพล ที่เป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน พร้อมพวกขับรถกระบะไล่ชน ยิงปืนใส่และทำร้ายร่างกายจนเยาวชนเสียชีวิต 1 รายและบาดเจ็บสาหัสอีก 2 ราย ซึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นตั้งแต่ 2 มิถุนายน 2566 ทนายรณรงค์บอกว่าคดีดูเหมือน ไม่ซับซ้อนแต่ปรากฏว่าด้วยอิทธิพลหรืออำนาจมืดอะไรไม่ทราบ ทำให้มีการปั้นแพะเป็นเยาวชนอายุ 13 ปีเข้ามารับเป็นผู้ต้องหาแทน

โดย นางสาวนันทิชา แม่ของน้องหงา อายุ 14 ปี ฝั่งเยาวชนที่เสียชีวิต ไล่เรียงเหตุการณ์ดังกล่าวให้ฟังว่า เหตุเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 66 เวลา 23.00 น. บนถนนสายหมู่บ้านโสรยา-หนองเหล็ก ตำบลเมืองลีง อำเภอจอมพระ จังหวัดสุรินทร์

โดย นางสาวนันทิชา บอกว่า น้องหงา ลูกชายตนเองพร้อมด้วยเพื่อน ๆ มีเด็กชายเล็ก อายุ 14 ปี (ผู้เสียชีวิต) เด็กชายหรั่ง อายุ 14 ปี เด็กชายยักษ์ อายุ 13 ปี และนายเด้ง อายุ 18 ปี ทั้งหมดรวม 5 คน นั่งพูดคุยจับกลุ่มกันอยู่หน้าบ้านของตนเอง ก่อนที่เด็กชายเล็ก ผู้เสียชีวิต และเพื่อน ๆ ทั้ง 4 คน พากันขี่มอเตอร์ไซค์ 2 คัน รวม 5 คน เพื่อไปเอาเสื้อที่บ้านแฟนสาวของเด็กชายเล็ก ซึ่งอยู่อีกหมู่บ้าน ห่างออกไปประมาณ 4 กิโลเมตร

ระหว่างขี่รถจักรยานยนต์ ผ่านเข้าไปหน้าหมู่บ้าน ได้เจอนายจำลอง (ขอสงวนนามสกุล) ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ทันทีที่เห็นกลุ่มลูกชายของตน นายจำลอง ใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่กลุ่มลูกชายของตน จนแตกกระเจิง จากนั้นได้สั่ง ให้วัยรุ่นในหมู่บ้านนับ 10 คน ขึ้นรถกระบะ ที่มีนายตุ๊ต๊ะ เป็นคนขับ ไล่ตามไปติด ๆ

พอยักษ์กับเด้ง เพื่อนลูกชายเห็นท่าไม่ดี เลยขี่รถจักรยานยนต์หนีเข้าไปหลบในป่า ส่วนน้องหงา น้องหรั่ง และน้องเล็ก (ผู้ตาย) ทั้ง 3 คน ถูกรถกระบะพุ่งชนจนล้มลง ก่อนที่กลุ่มวัยรุ่นที่ตามมา ร่วมกันใช้อาวุธมีด และไม้ กระหน่ำ รุมตี น้องหงาลูกชายตนเอง จนสมองบวม ใบหน้าเละ กระดูกคอหัก 2 ท่อน ต้องนอนอยู่ในห้อง ICU

ส่วนน้องหรั่ง เห็นท่าไม่ดี จึงรีบกัดลิ้นตัวเองจนเลือดไหล แล้วทำท่า แกล้งตาย แต่ก็ยังไม่วายถูกกลุ่มวัยรุ่นลูกน้องผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เตะกระทืบไปอีกหลายทีทั้ง ๆ ที่แกล้งตาย โดยทั้งหมดพูดว่า "พวกเรากลับกันได้แล้ว รอให้ตำรวจมาเก็บงานมัน"

ด้านย่าของน้องเล็ก ผู้เสียชีวิต กล่าวว่า เสียใจ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลังจาก คู่กรณี ก่อเหตุจนหนำใจแล้วทั้งหมดได้หลบหนีไป นายยักษ์กับนายเด้ง ที่ขี่รถเข้าไปแอบอยู่ในป่าจึงออกมาจากป่าหญ้าและมาดูเพื่อน ๆ ทั้ง 3 คน ก็พบว่า น้องเล็กเสียชีวิตคาที่อยู่ในจุดเกิดเหตุ ส่วนน้องหงากับน้องหรั่ง บาดเจ็บสาหัส จึงร้องตะโกนให้คนช่วย ระหว่างนั้นได้มี รองนายก อบต.ชุมแสง ขับรถผ่านมา และทราบเรื่อง จึงนำทั้งหมดส่งโรงพยาบาลจอมพระ จังหวัดสุรินทร์

หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองลีง มาตรวจสอบที่เกิดเหตุ เก็บพยานหลักฐานต่าง ๆ เสร็จ พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีกลับลงบันทึกประจำวันว่าเป็นอุบัติเหตุรถชนกันมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตญาติ ๆ ของเด็กกลุ่มนี้ ยิ่งแปลกใจมากเพราะลูกชายบอกว่า ถูกทำร้ายจากวัยรุ่นลูกน้องผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านนับ 10 คน จนเสียชีวิตและบาดเจ็บ

ย่าน้องเล็ก บอกอีกว่า ตนเองต้องออกไปช่วยกันหากล้องวงจรปิดและนำมายืนยันกับตำรวจด้วยตนเอง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงยอมเปลี่ยนแปลง แก้ไขบันทึกประจำวัน เป็นข้อหาใหม่ "ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตายและได้รับบาดเจ็บสาหัส"

แต่คดีนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ จับเด็กชายอายุ 13 ปี ได้เพียงคนเดียว โดยเด็กชายคนดังกล่าวก็ยืนยันว่า ไม่ได้ร่วมก่อเหตุลงไปทำร้าย เพียงแต่อยู่บนหลังรถปิคอัพเท่านั้น

ส่วนคนที่ทำร้าย ร่างกาย จากในกล้องวงจรปิดมีทั้งอาวุธมีด-อาวุธปืน-อาวุธไม้ เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถจับกุมตัวได้เลย ตนคิดว่าคู่กรณีน่าจะมีอิทธิพล ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงไม่กล้าดำเนินคดี แถมยังพูดให้พวกตนเจ็บใจว่า ทำไปคดีก็ไม่คืบยกฟ้องหมดแหละ ตนหมดหนทางที่จะพึ่งพา จึงต้องเดินทางไกลมาจากจังหวัดสุรินทร์เพื่อมาร้องทนายรณรงค์ให้ช่วยเหลือในด้านคดีด้วย

ขณะที่ นางสาวอ่อน แม่ของเด็กชาย วัย 13 ปี ที่เป็นแพะ ถูกจับเป็นผู้ต้องหาแทน ยืนยันว่าลูกชายตัวเอง แค่นั่งซ้อนท้ายกระบะไปด้วย โดยรุ่นพี่ที่ชื่อ ตุ๊ต๊ะ ชวนไป แล้วน้องก็ไม่รู้ว่าชวนไปทำอะไร พอไปถึงที่เกิดเหตุน้องก็ไม่ได้ลงจากรถไปร่วมทำร้ายคู่กรณีด้วย

แต่สุดท้ายนายตุ๊ต๊ะ บอกให้น้องรับผิดแทน และบอกว่าอีกว่าน้องยังเป็นเยาวชนรับโทษไม่หนัก โดยขอให้น้องรับ ว่าเป็นคนขับรถกระบะคันดังกล่าวไปชน ทั้งที่ความจริงแม่ของน้องยืนยันว่าน้องขับรถไม่เป็น

ทนายรณณรงค์ กล่าวว่าเรื่องนี้ จริงๆไม่มีอะไรซับซ้อนเป็นเรื่องของกลุ่มวัยรุ่น ทะเลาะวิวาทกันและมีผู้เสียชีวิตแต่เบื้องหลัง เชื่อว่ามีอิทธิพลของ ต้องมีการตรวจสอบให้ละเอียดก่อนว่าเรื่องราวมันเกิดอะไรขึ้นก่อนจะเกิดเหตุปะทะกันจนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บสาหัส

ส่วนที่ทางแม่ของน้องผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม จากทางพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ซึ่งได้ทำเรื่องไปยังผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ไปแล้ว ก็สามารถยื่นเรื่องขอเปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวนได้ จึงต้องพาผู้เสียหายมายื่นเรื่องร้องขอความเป็นธรรมกับทาง ผบ.ตร.หรือ รอง ผบ.ตร.

ซึ่งเรื่องราวที่เกิดขึ้นมีทั้งคนเจ็บ คนเสียชีวิตเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องออกมาชี้แจงเรื่องราวให้ชัดเจนตรงไปตรงมา อย่างกรณีนี้ชื่อเจ้าของรถกระบะที่ชนน้องจนเสียชีวิตเป็นอีกชื่อหนึ่งแต่กลับมีการให้เยาวชนอายุ 13 ปี มาแสดงตัวว่าเป็นคนขับ เรื่องนี้ต้องมีการตรวจสอบถึงคนที่ใช้ให้เด็กออกมารับผิดแทนจะต้องถูกดำเนินคดีด้วย ในข้อหาให้การเท็จต่อเจ้าหน้าที่พนักงาน คดีนี้ไม่ได้จบแค่คดีเดียวแต่ยังมีอีกหลายคนที่ต้องถูกดำเนินคดีด้วยตำรวจต้องทำอย่างตรงไปตรงมา


รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/oecscX-WaI4

คุณอาจสนใจ

Related News