เร่งล่า ด.ต.ฆ่ายกครัว เผยปม พ่อตา-ลูกเขย ขัดแย้งเรื่องที่ดินจนบานปลาย

เร่งล่า ด.ต.ยิงถล่มบ้านพ่อตา ฆ่าลูกชาย-เมีย รวม 6 ศพ เผยปมบาดหมางระหว่างพ่อตากับลูกเขย ขัดแย้งกันเรื่องที่ดินบนเขาหินพัด ทำเรื่องราวบานปลายจนฆ่ายกครัว

จากกรณี ด.ต.อรรถพร พานายธรรมรัตน์ พี่ชาย และนายมานพ รวม 3 คน ถืออาวุธปืนสงคราม บุกยิงถล่มบ้านนายธรรมรงค์ หรือ ผู้ใหญ่รงค์ พ่อตา ต.กะเปา อ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี จนมีผู้เสียชีวิต 4 คน คือ ผู้ใหญ่รงค์, เมียผู้ใหญ่รงค์, ผู้ใหญ่เกราะ ญาติของเมียผู้ใหญ่รงค์ และนายธรรมรัตน์ หนึ่งในผู้ก่อเหตุ

ต่อมา 21.00 น. ของวันที่ 9 เม.ย. 2566 มีคนพบศพนายอรรถพล หรือ บาส ลูกชายของ ด.ต.อรรถพร อยู่ในรถเก๋งฮอนด้าซิตี้ จอดอยู่ที่ลานจอดหน้าวัดไกรสรเขตราราม ต.เขาพัง อ.บ้านตาขุน สถานที่จัดงานศพนายธรรมรัตน์  ศพนอนที่เบาะข้างคนขับ สภาพเบาะถูกปรับนอน ถูกห่มด้วยผ้าขาวม้า ข้อมือทั้งสองข้างถูกมัดติดกันด้วยสายสิญจ์ คล้ายกับการมัดตราสังข์ มีบาดแผลถูกยิงที่ขมับขวา

จากนั้นช่วง 9.00 น. ของวันที่ 10 เม.ย. 2566 พนักงานงานรีสอร์ทแห่งหนึ่ง อ.คีรีรัฐนิคม พบศพ น.ส.พนิดา หรือตั๊ก ลูกสาวผู้ใหญ่รงค์ และเป็นเมียของ ด.ต.อรรถพร เสียชีวิตในห้องหมายเลข 1 สภาพเปลือย นอนคว่ำบนที่นอน มีแผลถูกยิงที่ปาก กระสุนฝังอยู่ที่คาง ใกล้กันพบหมอนมีกระสุนฝังอยู่ สภาพศพขึ้นอืด คาดว่าเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน ส่วนที่หน้าห้องพบรถเก๋งซูซูกิสวิฟท์ สีดำจอดอยู่ จากการตรวจสอบพบว่า เป็นรถที่ ด.ต.อรรถพร ยืมเพื่อนมา ตั้งแต่วันที่ 6 เมษายน จากภาพจากกล้องวงจรปิดที่รีสอร์ท พบว่า ด.ต.อรรถพร มาเปิดห้องพักที่รีสอร์ทตั้งแต่วันที่ 7 เม.ย. 2566 ที่ห้องหมายเลข 1 ห้องเดียวกันกับที่พบศพ น.ส.พนิดา ซึ่งขับไปรับ น.ส.พนิดา เข้ามาพักรีสอร์ทในคืนนั้น

ต่อมาวันที่ 8 เม.ย. 2566 วงจรปิดในรีสอร์ทจับภาพ ด.ต.อรรถพร ขับรถเข้ามาในรีสอร์ท แต่เปลี่ยนรถคันใหม่เป็นรถเก๋งฮอนด้าซิตี้สีบรอนซ์เทา ซึ่งเป็นรถของ น.ส.พนิดา และเป็นคันเดียวกับที่พบศพนายบาส โดยมีนายธรรมรัตน์ พี่ชาย นั่งมาด้วย จากนั้นได้เปิดห้องพักเพิ่มอีก 1 ห้อง เมื่อได้กุญแจห้อง ทั้งคู่ก็ขับรถไปจอดที่หน้าห้องพักหมายเลข 1 แล้ว ด.ต.อรรถพร ก็ลงจากรถ แล้วสลับให้นายธรรมรัตน์ ขับถอยหลัง เข้ามาจอดที่ห้องพักหมายเลข 7 ซึ่งเป็นห้องเปิดใหม่

กระทั่งตอนเที่ยง ด.ต.อรรถพร ทั้งคู่ขับรถออกจากรีสอร์ต ไปรับนายบาส มาทำหน้าที่ขับรถ ก่อนไปรับนายมานพ แล้วเปลี่ยนรถเป็นโตโยต้าวีออส จากนั้นก็พากันไปถล่มยิงที่บ้านผู้ใหญ่รงค์

เมื่อช่วงเที่ยงวานนี้ (10 เม.ย. 2566) ตำรวจสามารถตามจับกุมนายมานพ หนึ่งในผู้ก่อเหตุไว้ได้ ขณะหลบหนีไปที่ อ.อทับปุด จ.พังงา พร้อมอาวุธปืนเอ็ม 16 จำนวน 1 กระบอก ต่อมา พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ลงพื้นที่ติดตามความความคืบหน้าคดี และสอบปากคำนายมานพ

นายมานพ กล่าวว่า ไม่ทราบว่า ด.ต.อรรถพรจะชวนไปก่อเหตุดังกล่าว คิดว่าจะพาไปเป็นสายยาเสพติด ส่วนที่ต้องหนีออกนอกพื้นที่ เพราะหลังก่อเหตุ ขณะที่ ด.ต.อรรถพร และนายบาส ขับรถไปส่งที่บ้าน ด.ต.อรรถพร มีอาการสติแตก ควบคุมตัวเองไม่ได้ จึงกลัวว่าจะถูกตามฆ่า จึงต้องหลบหนี

ตำรวจไม่ปักใจเชื่อคำให้การ เนื่องจากนายมานพ มีประวัติเป็นมือปืนรับจ้างระดับพระกาฬ เคยมีคดีฆ่าคนตายในพื้นที่สุราษฎร์ธานี ถูกจำคุก 14 ปี จนได้รู้จักกับนายธรรมรัตน์ พี่ชาย ด.ต.อรรถพร ที่ต้องโทษคดียาเสพติด ถูกจำคุกในเรือนจำกลางสุราษฎร์ธานีมาด้วยกัน และทั้ง 2 คน ก็เป็นญาติกันจนชักชวนมาก่อเหตุครั้งนี้

ทั้งนี้ สั่งตรวจสอบไปที่ สภ.คีรีรัฐนิคม ซึ่งเป็นต้นสังกัดของ ด.ต.อรรถพร ให้รายงานการเบิกจ่ายอาวุธปืน มีส่วนที่คนร้ายนำไปใช้ก่อเหตุหรือไม่ ขณะเดียวกัน พลตำรวจโท สุรพงษ์ ถนอมจิต ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ได้มีคำสั่งย้าย พันตำรวจเอก เกรียงไกร เกตุแก้ว ผู้กำกับการ สภ.คีรีรัฐนิคม ไปช่วยราชการที่ ศปก.ภ.8 พร้อมสั่งตั้งกรรมการสอบสวน กรณีเกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามลอบยิงผู้ใหญ่รงค์ มาก่อนหน้านี้แล้ว 1 ครั้ง แต่ไม่ติดตามคนร้าย เพื่อยุติความขัดแย้ง โดยอ้างว่าผู้เสียหายไม่ติดใจเอาความ ซึ่งตำรวจอยู่ระหว่างสืบสวนว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์วันนี้หรือไม่

ส่วนการติดตามตัว ด.ต.อรรถพร ตำรวจตามไปเจอรถเก๋งโตโยต้าวีออส คันที่ใช้ก่อเหตุคันแรกแล้ว โดยพบถูกจอดทิ้งไว้ที่รีสอร์ทแห่งหนึ่ง ใน ต.เขาพัง อ.บ้านตาขุน โดยคนที่รีสอร์ทบอกว่า ด.ต.อรรถพร เป็นคนขับรถคันนี้เข้ามาเปิดห้องพัก แต่ไม่รู้ว่าหลบหนีไปทางไหน จากการตรวจสอบคาดว่า รถคันนี้เป็นรถที่เช่ามาจากเต็นท์รถมือสอง

มีรายงานล่าสุดเรื่องปมขัดแย้งระหว่างพ่อตากับลูกเขยรายนี้ว่า แต่เดิมผู้ใหญ่รงค์เป็นคนชักชวนให้ ด.ต.อรรถพรเข้ามาอยู่ในบ้านของตัวเอง ตั้งแต่ยังไม่เป็นลูกเขย กระทั่งต่อมาได้เลิกรากับเมียคนที่ 2 แล้วมาจดทะเบียนสมรสกับ น.ส.พนิดา ต่อมามีนักการเมืองท้องถิ่น ถูกใจที่ดินของผู้ใหญ่รงค์ บนเขาหินพัด ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของ อ.คีรีรัฐนิคม จึงติดต่อมาทาง ด.ต.อรรถพร แต่ยังไม่มีพูดคุยว่าจะซื้อขาย

กระทั่งวันที่ 31 ธ.ค. 2565 ผู้ใหญ่รงค์ถูกลอบสังหาร แต่รอดมาได้ทำให้ผู้ใหญ่รงค์ระแวงในตัวลูกเขย ว่าร่วมมือกับคนอื่นมาฆ่า แล้วจะฮุบที่ดินหรือไม่ จนมีปากเสียงแล้วไล่ลูกเขยออกจากบ้าน ต่อมา ด.ต.ไปได้ยินข่าวลือมาว่า ผู้ใหญ่รงค์ไปจ้างมือปืนมายิงตัวเอง จึงชิงวางแผนลงมือสังหารพ่อตาเสียก่อน

ล่าสุดเช้าวันนี้ (11 เม.ย. 2566) ตำรวจในพื้นที่ตั้งด่านตรวจ เพื่อตามหาตัว ด.ต.อรรถพร ที่กำลังหลบหนี โดยช่วงบ่ายจะไปค้นบ้านนายมานพ หาหลักฐานเพิ่มเติม และจะพานายมานพไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่บ้านผู้ใหญ่รงค์

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/Wksv2HMZQzQ