สุนัข K9 ดมกลิ่นช่วยค้นหา 'เด็ก 8 เดือน' จนท.ทำงานต่อเนื่อง ปูพรมเน้นป่ารกร้าง แต่ยังไร้วี่แวว

ตำรวจส่งสุนัข K9 ดมกลิ่นแกะรอยช่วยค้นหาเด็กวัย 8 เดือน ค้นซ้ำอย่างละเอียดรอบที่ 2 ในจุดที่คาดว่าจะมีเบาะแส แต่ก็ยังไร้วี่แวว


โดยเมื่อวานนี้ ตำรวจยังปูพรมทั้งทางบกและทางน้ำ เพื่อค้นหาร่างเด็ก 8 เดือนที่หายตัวปริศนา โดยทางบกได้นำสุนัขตำรวจ K9 จำนวน 2 ตัว ถูกส่งมาจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล เพื่อช่วยในภารกิจการค้นหาดังกล่าว


ขณะเดียวกันค้นหาทางน้ำของตำรวจน้ำ ก็ยังค้นหาทั้งใต้น้ำและผิวน้ำ ตั้งแต่บริเวณปากคลองท่อม แม่น้ำท่าจีนไปจนถึงท่าเรือวัดศิลามูล ควบคู่ไปกับการแกะรอยทางบก


โดย พันตำรวจเอก พัลลภ สุริยกุล ณ อยุธยา รอง ผู้บังคับการตำรวจภูธร จังหวัดนครปฐม เปิดเผยว่า การนำสุนัขตำรวจ K9 มาช่วยดมกลิ่นแกะรอย ถือว่าเป็นครั้งที่ 3 ตั้งแต่ที่น้อง 8 เดือนหายไป แต่เพื่อการค้นหาอย่างละเอียดจึงนำมาค้นหาซ้ำอีกในจุดเดิมหลักๆ 3 จุด คือ ที่บ้านของเด็ก 8 เดือน, บริเวณหลังบ้าน ซึ่งมีบ้านร้างอยู่ 2 หลัง เจ้าหน้าที่นำสุนัขตำรวจไปดมค้นหาซ้ำ ตามบ่อเกลอะ โพรงหญ้า และ อีกจุดคือ บริเวณริมคลองจุดที่แม่เด็ก อ้างว่า นำเด็กมาโยนทิ้งและค้นหาต่อเนื่องไปตามแนวป้าด้วย แต่ก็ยังไม่พบร่างเด็ก 8 เดือน


อย่างไรก็ตาม รอง ผู้บังคับการตำรวจนครปฐม เปิดเผยว่า ในทางคดีถือว่า มีความคืบหน้า ไปมาก ประชุมสรุปความคืบหน้ากันทุกวัน ซึ่งรายละเอียดไม่สามารถเปิดเผยได้


ส่วนคำให้การของแม่เด็ก เนื่องจากเป็นเยาวชน ต้องสอบต่อหน้าสหวิชาชีพ การจะสอบปากคำซ้ำจะต้องประสานหลายหน่วยงาน แต่จากคำให้การครั้งล่าสุดของแม่เด็ก ตำรวจไม่ได้ปักใจเชื่อ จึงต้องค้นหาพยานหลักฐานมายืนยันตามคำให้การดังกล่าว


ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการใต้น้ำ มูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์ นครปฐม นำกำลังเกือบ 20 นาย พร้อมเรือ และอุปกรณ์ดำน้ำ เดินทางมายังสะพานคลองท่อ จุดที่แม่ของเด็ก 8 เดือน อ้างว่านำลูกมาทิ้งไว้


ต่อมาเวลาตี 3.30 น. ซึ่งเป็นเวลาตามคำให้การของแม่เด็ก ว่าได้นำเด็กมาทิ้งในช่วงเวลาดังกล่าวและเพื่อเป็นการทดสอบให้ได้ข้อมูลในอีกมุมหนึ่ง ทางเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิวินวิน ประสาน กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานในพื้นที่ เพื่อขอทำการทดสอบโดยนำผงสีฟ้า หรือ บลูซี


ซึ่งเป็นผงสีที่ปรับสภาพน้ำให้มีสีใกล้เคียงสีน้ำทะเลตามธรรมชาติ การทดสอบนี้เพื่อดูทิศทางการไหลของน้ำและกระแสน้ำว่าในช่วงเวลาดังกล่าวกระแสน้ำไหลออกไปในทิศทางใด และจะได้จำกัดรัศมีการค้นหาให้แคบลงได้


จากการทดสอบ ปรากฏว่า ผงสีฟ้ามีการไหล ออกไปปากคลองท่อ ลงสู่แม่น้ำท่าจีน โดยที่กระแสน้ำในเวลาดังกล่าวไม่ได้มีการไหลกลับเข้าไปยังสะพาน แล้วเป็นลักษณะค่อย ๆ ไหลออกอย่างช้า ๆ


ด้าน รองศาสตราจารย์ นายแพทย์ วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ กล่าวว่า การทดสอบดังกล่าว เป็นวิธีสากลที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย ที่สามารถบอกได้ถึงทิศทางการไหลของน้ำเท่านั้น


แต่มีข้อจำกัด หากเทียบกับขนาดและน้ำหนักของตัวเด็ก ซึ่งมีความแตกต่างกัน การทดสอบนี้จะไม่สามารถบอกได้ถึง ช่วงเวลาการจม หรือ ลอยของศพ หากจะให้ใกล้เคียงที่สุดจะต้องใช้สัตว์ทดลองในการโยนลงน้ำ


สำหรับบรรยากาศช่วงเช้า ที่ผ่านมาบริเวณสะพานข้ามคลองท่อ ซึ่งถูกใช้เป็นศูนย์บัญชาการในการค้นหาร่างน้อง 8 เดือน ตอนนี้ ชาวบ้านบางส่วนที่ กำลังช่วยกันดันผักตบชวาที่ไหลเข้ามาในคลอง หลังจากเมื่อคืนที่ผ่านมาเจ้าหน้ากู้ภัย ระดมกำลังช่วยกันดำน้ำเพื่อค้นหาร่างของน้อง แต่สุดท้ายก็ยังไม่พบ


โดยช่วงบ่ายวันนี้ ชาวบ้านจะช่วยกันลงพื้นที่บริเวณคลองท่อ บริเวณหลังบ้านของน้อง 8 เดือน เพื่อค้นหาต่อ เนื่องจากพบว่าจุดนี้มีความผิดสังเกต หลังพบว่าบริเวณจุดนั้นมีปลามารุมตอดกินอะไรบ้างอย่างก่อนหน้านี้


ขณะเดียวกันวันนี้ แม่เด็ก 8 เดือน เตรียมเดินทางไปที่สถานพินิจฯเพื่อรายงานตัว ส่วนตำรวจจะประชุมวางแนวทางปูพรมค้นหาอีกรอบ โดยเน้นป่ารกร้างและพื้นที่ในพื้นที่หมู่บ้าน เนื่องจากช่วงดึกที่ผ่านมา ตำรวจได้ประสานกู้ภัยให้ตรวจคลองท่ออย่างละเอียดทั้งหมดแล้วแต่ก็ยังไม่พบ

รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/CJyMPcIOvsU