ส่อคดีพลิก! ตร.เผย ปม 'ดาราสาวไต้หวัน' อ้างถูกรีดเงิน รอพยานหลักฐานครบ ค่ำวันนี้ชี้แจงทีเดียว

ความคืบหน้ากรณีเน็ตไอดอลสาวชาวไต้หวัน โพสต์อ้าง ถูกตำรวจไทยรีดเงิน 27,000 พันบาท ช่วงกลางดึกวันที่ 4 มกราคมที่ผ่านมา ขณะนั่งรถกลับจากที่เที่ยวเพื่อกลับห้องพัก ล่าสุดตำรวจบอกค่ำวันนี้ น่าจะชัดเจน รอพยานหลักฐานครบจะชี้แจงทีเดียว


จากกรณี เพจหนีห่าวไต้หวัน ฉันมาแล้ว โพสต์คลิปการสัมภาษณ์ของเน็ตไอดอลสาวคนหนึ่งที่มีชื่อว่า อันยู๋ชิง แปลข้อความว่า "วันที่ 4 มกราคมที่ผ่านมา ก่อนกลับไต้หวัน 1 วัน ขณะอันยู๋ชิงอยู่ในรถแท็กซี่กับเพื่อนๆ เพื่อกลับโรงแรมราว ตี 1 กว่า และถูกตำรวจที่ตั้งด่านเรียกให้รถหยุดและขอค้นตัว ค้นกระเป๋า ถามถึงเรื่องวีซ่า


เมื่อเธอยื่นหนังสือเดินทางให้ดูและบอกว่าได้ของวีซ่าVOAเข้ามา แต่ตำรวจบอกว่า ต้องใช้เป็นวีซ่าจริง ๆ ที่มีตราและพิมพ์เท่านั้น ก่อนจะคุมตัวเธอไปที่สถานีตำรวจ เธอพยายามร้องขอและเจรจาอยู่นาน จนแทบจะกราบ สุดท้ายผ่านไป 2 ชั่วโมง ตำรวจคนหนึ่งพาเธอไปเจรจาในที่ลับ แล้วบอกว่า ต้องจ่ายเงิน 27,000 บาท เพื่อแลกกับการปล่อยตัว และเธอยังบอกด้วยว่านอกจากนี้ยังมีกลุ่มสาวเกาหลีอีก 5 คนที่โดนเหมือนกัน


เมื่อวานนี้ (26 ม.ค.) พลตำรวจตรี สำเริง สวนทอง รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เรียกตำรวจ สน.ห้วยขวาง 6 นาย ปฏิบัติหน้าที่ในวันนั้นมาสอบถาม รวมถึงรองผู้กำกับป้องกันและปราบปรามด้วย เพื่อให้เล่ารายละเอียด โดยใช้เวลาราว 1 ชั่วโมงครึ่ง


รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ออกมายอมรับว่า วันเกิดเหตุมีการตั้งด่านจริง และได้เรียกตรวจรถของนักท่องเที่ยวชาวไต้หวัน ขอเรียกตรวจสอบหนังสือเดินทาง แต่นักท่องเที่ยวไต้หวันคนนี้มึนเมา และอ้างว่าไม่ได้พกพาหนังสือเดินทางติดตัวมาด้วย แล้วจะให้เพื่อนนำมาให้จากที่พัก ทว่ามีข้อจำกัดเรื่องภาษา สื่อสารไม่เข้าใจกัน ก่อนจะมีปากเสียงกัน สุดท้ายหลังจากรอสักพักใหญ่ตำรวจก็ปล่อยให้เธอกลับไป โดยไม่ได้พาตัวไปไหน ไม่มีการจับปรับ หรือถูกเนื้อต้องตัว ส่วนสาเหตุที่ปล่อยเพราะใกล้ช่วงเวลายกเลิกจุดตรวจด้วย แต่ก่อนไปได้ตักเตือนเธอว่าบุหรี่ไฟฟ้า สำหรับในไทยถือว่าเป็นของผิดกฎหมาย


ส่วนที่ สน.ห้วยขวาง เช้าวันนี้(27ธ.ค.) พลตำรวจตรี อัฏธพร (อัด-ทะ-พอน) วงศ์ศิริปรีดา ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 เปิดเผยว่า อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลจากพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ได้แก่ กล้องวงจรปิด นำมาเชื่อมโยงข้อมูลกันกับข้อมูลคำบอกเล่าจากพยาน ซึ่งดำเนินการไปได้กว่า 80%


พยานแวดล้อม คือ รถสาธารณะ จะมี 2 ส่วน คือ รถ Grab มาสด้า ที่ขับพาดาราสาวเข้ามาในจุดเกิดเหตุ ซึ่งได้เรียกตัวคนขับมาให้ข้อมูลแล้ว อีกส่วนคือ คนขับแท็กซี่ ที่รับดาราสาวออกจากจุดเกิดเหตุไปส่งโรงแรม ขณะนี้อยู่ระหว่างติดตามเชิญตัวมาให้ข้อมูล เพื่อนำข้อมูลมาเชื่อมโยงกันกับข้อมูลที่ได้จากตำรวจในจุดเกิดเหตุด้วยคาดว่าไม่เกิน 1-2 วัน ข้อเท็จจริงจะกระจ่าง


เมื่อทีมข่าวถามย้ำว่า ยืนยันหรือไม่ว่า ตำรวจไม่ได้เรียกรับเงิน ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 ระบุว่า ยังอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน และเมื่อถามต่อว่า คดีนี้จะพลิกหรือไม่ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 กล่าวว่า ให้รอความคืบหน้า ตำรวจกำลังเร่งหาพยานหลักฐาน วันนี้ค่ำๆ อาจจะชัดเจนขี้น


ส่วนข้อมูลของเน็ตไอดอล เป็นการประสานงานติดต่อโดยโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งจะมีการส่งต่อข้อมูลมาที่ สน.ห้วยขวาง เพื่อประมวลผลร่วมกับข้อมูลอื่นๆ เมื่อข้อมูลสมบูรณ์ ก็จะแถลงข่าวให้ชัดเจนอีกครั้ง


ขณะที่ในกลุ่มของกองบัญชาการตำรวจนครบาล แจ้งความคืบหน้าในเรื่องนี้ว่า จากการตรวจสอบภาพวงจรปิด เป็นกล้องของกรุงเทพมหานคร ซึ่งอยู่ด้านหน้าสถานทูตจีน และจับภาพด้านหลังจากจราจรบริเวณสะพานลอยปากซอยรัชดาภิเษก 3 โดยเป็นภาพระยะไกล เบื้องต้นตอนนี้ทาง สน. ได้ทำหนังสือขอภาพกล้องจากสถานทูตจีนแล้ว ยังอยู่ระหว่างรอติดต่อกลับ พร้อมทั้งได้ติดตามพยานคนขับ Grab มาสอบพยานแล้ว ซึ่งเป็นรถคันที่พาเข้ามาที่ด่าน


และมีรายงานว่า การสอบปากคำคนขับรถแกร๊บ ให้การว่ารับนักท่องเที่ยวขึ้นรถมา 4 คน เป็นชาย 3 คน หญิง 1 คน จาก RCA ทุกคนเมาและเอะอะโวยวายในรถ ซึ่งปลายทางไปส่งที่สถานบันเทิงย่านห้วยขวาง แต่มาเจอด่านก่อน


ทีมข่าวลงพื้นที่ขณะที่ทีมข่าวลงพื้นที่มาบริเวณถนนรัชดาภิเษก ด้านหน้าสถานทูตจีน แม่ค้าร้านข้าวมันไก่ที่เปิด 24 ชั่วโมง ก็บอกว่า ถ้ามีตำรวจมาตั้งด่าน จะตั้งอยู่ที่บริเวณปากซอยรัชดาภิเษก 3 ก่อนถึงสถานทูตจีน ส่วนมากลูกค้าก็จะเข้ามาบอกว่ามีด่านอยู่ปากซอย แต่ก็มีไม่บ่อย นานๆ ทีเท่านั้น


ขณะที่เพจดาวแปดแฉก ระบุว่า กล้องวงจรปิดชัดเจนตั้งแต่ลงจากรถมาสด้า 2 สีแดง ตำรวจไม่ได้แตะตัว ไม่ได้ล้วงกระเป๋า ไม่ได้พาเดินเข้าซอย จนกระทั่งโบกเรียกรถแท็กซี่กลับเอง #เน็ตไอดอลสาวชาวไต้หวันอ้างตำรวจเรียกเงิน


ขณะที่เน็ตไอดอลสาว เมื่อวานนี้ (26 ธ.ค.) ให้สัมภาษณ์กับสื่อหลายสำนัก ยืนยันว่า เธอโดนตำรวจเรียกจับและเอาเงินไป 27,000 บาท จริง ซึ่งทางเพจหนีห่าวไต้หวันฉันมาแล้ว บอกว่า ตอนนี้สื่อไต้หวันได้กลับมานำเสนอข่าวนี้อีกครั้ง และนำข่าวของไทยไปแปลเป็นภาษาจีน ซึ่งหวังว่าจะไปตามสัมภาษณ์เน็ตไอดอลสาวคนนี้เพิ่ม เพื่อให้ชี้แจงกรณีที่ตำรวจไทยออกมาปฏิเสธการกระทำตามที่ถูกกล่าวหา


รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/RtEnjV41AMs