อาชญากรรม

แจ้งความบ่ายนี้! กระบะส้มหัวร้อน แซงซ้ายไม่ได้ ลงมาทุบกระจกรถเมล์แตก ทำคนขับบาดเจ็บ

โดย chutikan_o

26 ม.ค. 2566

420 views

กระบะหัวร้อน พยายามแซงซ้ายรถเมล์ แต่รถเมล์ไม่ยอม กระบะจึงปาดหน้าและลงมาหาเรื่องปาของใส่กระจกรถเมล์แตก จนคนขับรถเมล์ได้รับบาดเจ็บ ล่าสุดคนขับรถเมล์เตรียมเข้าแจ้งความช่วงบ่ายวันนี้



จากกรณีคนขับรถกระบะสีส้มหัวร้อน เขวี้ยงปาสิ่งของใส่กระจกรถเมล์ ขสมก. สีฟ้าสาย 138 หลังโมโหที่คนขับรถเมล์ไม่ให้กระบะแซงซ้าย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 24 มกราคม 2566 เวลาประมาณ 19.15 น. บนทางด่วนช่วงหน้าเซ็นทรัลพระราม 3 ก่อนขึ้นสะพานพระราม 9 ในคลิปจะได้ยินเสียงพนักงานเก็บค่าโดยสาร ของรถเมล์สาย 138 ตะโกนบอกให้ขับตามไปเพื่อถ่ายทะเบียนรถ เพราะหลังจากที่เกิดเหตุปาสิ่งของใส่กระจกรถเมล์จนแตกรอบแรกแล้ว รถกระบะคันดังกล่าวยังไม่ยอมหยุด ขับมาปาดหน้าอีกและหาเรื่องจนคนขับรถเมล์ได้รับบาดเจ็บที่ฝ่ามือ



นายสมรักษ์ โสวภาค อายุ 52 ปี คนขับรถเมล์ กล่าวว่า ช่วงเวลาประมาณ 17.30 น. เขาได้ขับรถเมล์สาย 138 ส่งผู้โดยสาร แต่ระหว่างขับรถขึ้นทางด่วนหน้าเซ็นทรัลพระราม 3 ก่อนขึ้นสะพานพระราม 9 ระหว่างขับรถอยู่นั้น ได้มีรถกระบะอีซูซุสีส้มคันหนึ่งขับรถมาด้านหลัง และพยายามจะแซงซ้ายบริเวณไหล่ทาง แต่ขณะนั้น รถของเขาได้ขับอยู่ในเลนซ้าย ด้วยความเป็นรถเมล์คันใหญ่ ทำให้หนุ่มขับกระบะคนดังกล่าวแซงไหล่ทางไม่ได้



รถเมล์คันที่เกิดเหตุมีกล้องวงจรปิดทั้งด้านหน้าและด้านหลัง โดยกล้องวงจรปิดด้านหลังรถจะเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดตั้งแต่รถกระบะคันสีส้ม ขับมาจากเลนซ้ายและวิ่งตามไหล่ทางด้านซ้าย จากนั้นพยายามขับเบียดเข้าเลนปกติ แต่รถเมล์ไม่ยอม ทำให้กระบะไม่พอใจ ขับมาประกบข้างและตะโกนด่าด้วยถ้อยคำหยาบคายตามคลิปต้นเรื่อง ก่อนจะเขวี้ยงป่าสิ่งของใส่กระจกรถเมล์จนแตก



ระหว่างที่หนุ่มหัวร้อนพยายามขับรถหนี เขาได้พยายามขับรถตามเพื่อถ่ายทะเบียนรถไว้เป็นหลักฐาน แต่ระหว่างขับรถตาม ก็ถูกหนุ่มหัวร้อนขับรถปาดหน้า ก่อนจะลงมาจากรถรอบที่ 2 และเข้ามาทุบกระจกรถ และพยายามจะเข้ามาทำร้าย จนกระจกรถเมล์ที่แตกร่วงลงมาแทงมือของเขาบาดเจ็บ และหลังเกิดเหตุ หนุ่มหัวร้อนจึงได้ขับรถหลบหนีไป



จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เขาได้รับบาดเจ็บที่มือด้านขวา เย็บไป 10 กว่าเข็ม และต้องพักรักษาตัวอีกสักพักกว่าจะกลับไปทำงานได้ โดยอยากฝากไปถึงหนุ่มหัวร้อน ให้ช่วยกลับมารับผิดชอบสิ่งที่ตัวเองทำไว้ด้วย และอยากให้ขับรถใจเย็นๆ และยืนยันว่าไม่ได้แกล้ง แต่แซงซ้ายไหล่ทางก็ผิดกฎหมายอยู่แล้ว



หลังจากนี้จะรวบรวมหลักฐานทั้งหมดเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับคนขับรถกระบะด้วย ทั้งในส่วนคดีทำให้เสียทรัพย์ต้องใช้หนังสือมอบอำนาจจากทาง ผอ.เขตการเดินรถ เขต 5 ส่วนคดีทำร้ายร่างกายจะต้องใช้ใบรับรองแพทย์ประกอบการแจ้งความดำเนินคดี ซึ่งจะเข้าแจ้งความในช่วงบ่ายวันนี้ (26 ม.ค. 66)



ทีมข่าวเที่ยงวัน ทันเหตุการณ์ ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า รถกระบะ Isuzu d-max สีส้มคันที่เกิดเหตุ เจ้าของรถเป็นผู้หญิงมีอายุแล้ว อยู่ในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี ส่วนคนขับที่ก่อเหตุคาดว่าอาจจะเป็นคนรู้จักและนำรถมาใช้



ส่วนเรื่องคดี ตำรวจ สน.บางโพงพาง กล่าวว่า ตอนนี้รอให้คนขับรถเมล์ รวบรวมหลักฐานมาแจ้งความ ในช่วงบ่ายวันนี้ พร้อมยืนยันจะดำเนินคดีให้ตามกฎหมาย



รับชมได้ทางยูทูป :  https://youtu.be/50BAn37ttaA

คุณอาจสนใจ

Related News