เปิดใจ 'ดีเจมะตูม' จัดฉากรวบมิจฉาชีพ อ้างสนิทเจ้าตัว หลอกคนลงทุน สูญ 8 ล้าน

'มะตูม' เปิดร้าน จัดฉากล่อ มิจฉาชีพ ออกมาให้ตำรวจจับกุม หลังมะตูมและเน็ตไอดอล ถูกหลอกสูญเงินเกือบ 8 ล้านบาท เผยที่ออกมาเปิดเรื่องนี้ เพราะต้องการให้อุทาหรณ์ ไม่อยากให้มิจฉาชีพคนดังกล่าว ไปหลอกคนอื่น


จากการสอบถาม ดีเจ มะตูม เล่าว่า มีผู้หญิงคนหนึ่ง ชื่อวา วันหนึ่งผู้หญิงคนนี้มาที่ร้านเหล้าของมะตูม พร้อมกับสามี เป็นนักร้อง และเข้ามาทำทีตีสนิท แสร้งว่าเป็นแฟนคลับมะตูม และหลังจากนั้นก็ชวนเป็นพิธีกร ซึ่งมะตูมก็ตอบตกลง และวันต่อมาก็มีการนัดเจอกันคุยเรื่องงาน มะตูมก็เอาเลาขาฯมาด้วย สุดท้ายคุยไปคุยมา คุณวา ก็ไม่พูดเรื่องพิธีกร แต่ถามว่าสนใจเป็นพรีเซ็นเตอร์มั้ย มะตูมบอกสนใจ สุดท้ายก็ให้มะตูมทำเป็นเวลเนส หลังจากนั้นก็ให้ทำธุรกรรมเกี่ยวกับที่ดิน โดยให้เลขาฯของมะตูมเป็นคนติดต่อเรื่องที่ดิน ทุกอย่าง


หลังจากนั้นมีการติดต่อซื้อที่ดินย่านรามอินทราจำนวนเงิน 90 ล้านบาท วันที่ตกลงซื้อขาย ที่ดิน คนที่มาทำการตกลงซื้อขาย มีเพียงเลขาฯของมะตูม และเจ้าของที่ดิน ส่วนวา ไม่มาปรากฎตัวเลย สาเหตุที่วาไม่มา เพราะวาบอกว่ามีหน้าที่โอนเงินอย่างเดียว สุดท้ายก็ไม่ได้ซื้อที่ดินแปลงดังกล่าว และก็เบรกโปรเจคดังกล่าวไป เพราะกลัวเสียเครดิต


มะตูมบอกว่า หลังจากนั้นก็รู้สึกแปลก ๆ คิดว่าคงโดนหลอกแน่ ๆ จึงนำชื่อวา ไปเช็คว่าเป็นใครปรากฎว่าคนชื่อวา เมื่อก่อนชื่อวิไลลักษ์ และเปลี่ยนชื่อมาเป็นธารา พบมีคดีติดตัว 18 คดี ส่วนใหญ่เป็นคดีฉ้อโกง พบความเสียหาย 70 ล้านบาท หลังจากนั้นก็มีตัวละครเพิ่มเข้ามาอีก คือ ก้ง เน็ตไอดอล ซึ่งก้งทำธุรกิจ คอลลาเจน ซึ่งวา ได้แนะนำก้ง ให้รู้จักมะตูม และจะให้มะตูมร่วมลงทุนกับก้ง เกี่ยวกับธุรกิจคอลลาเจน แต่อยู่มาวันหนึ่ง ก๊งได้ติดต่อมายังมะตูม แล้วถามว่า รู้จักวาไหม


เขาหลอกเอาเงินก้งไป 8 ล้านบาท โดยวันที่มาเอาเงินมีเลขาฯมะตูมไปกับวา ไปเอาเงินจำนวนดังกล่าวด้วย มะตูมก็บอกว่าเลขาฯมะตูมไม่เกี่ยว ซึ่งหลังจากนั้นทำให้มะตูมต้องจัดฉาก เปิดร้านเหล้าแล้วชวนวา และก้งมาที่ร้าน โดยให้ตำรวจ ทั้งในและนอกเครื่องแบบมารอที่ร้าน สุดท้ายวาก็โดนจับ หมายจับคือเป็นคดีอื่น คือคดีฉ้อโกง ถุงมือยางอนามัย และATK


ซึ่งมะตูม บอกว่า ที่ออกมาพูด เพราะต้องการให้เป็นอุทาหรณ์ และไม่อยากให้คนชื่อวา ไปหลอกใครอีก


ด้านคุณ ก้ง ผู้เสียหายอีกราย บอกว่า ตนเองถูกหลอกเงินทั้งหมดไป 7,425,900 ล้านบาท ซึ่งมิจฉาชีพคนดังกล่าวใช้ ชื่อ วาวา ตนเองเจอกันที่ ร้านเหล้าแห่งหนึ่งย่านทองหล่อ เดินมาพร้อมกับพี่มะตูม และอ้างว่ารู้จักและสนิทสนมกับพี่มะตูม หลังจากนั้นตนเองได้ขอตัวกลับก่อน


ต่อมามีการติดต่อมาที่เพจไลฟ์สดขายของของตนเอง บอกว่าจะขอออเดอร์สินค้าจำนวน 20,000 กล่อง ซึ่งเป็นออเดอร์ใหญ่ โดยอ้างว่าจะให้พนักงานที่ออฟฟิศมีรายได้เสริม


วันต่อมาจึงมีการนัดพูดคุยกันโดยทีการนัดตนเองไปพบที่ธนาคารสำนักงานใหญ่แห่งหนึ่ง ครั้งแรกที่ไป คุณวา แจ้งว่าจะมาถอนเงินจำนวน 600 ล้านบาท มีการประทับตรา ที่นิ้วโป้ง แขวนป้าย VIP และยังมีตู้เซฟอยู่ที่นั่นและมีทรัพย์สินอยู่จำนวนมากในตู้เซฟ หลังจากนั้นมีการแอบอ้างว่ารู้จักพี่มะตูมมา 4-5 ปี แล้ว เวลาที่พี่มะตูมล้ม ตนเองเป็นคนคอยช่วยเหลือ และให้พี่มะตูมยืนขึ้นได้


นอกจากนี้ คุณวา ยังอ้างว่ามีธุรกิจหลายๆอย่าง มะตูมได้มาลงทุนกับวาแล้ว ประสบความสำเร็จ แถมยังอ้างอีกว่า เป็นเจ้าของ บริษัท อาร์เค กรุ๊ป (ไทยแลนด์) จำกัด และบริษัท เดอะวัน ชิปปิ้ง จำกัด บริษัทส่งออกสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย


นอกจากนี้ ยังแนะนำว่าตนเองเป็นดีลเลอร์คอลลาเจนผิวขาวที่ต่างประเทศ ซึ่งจะมีการติดต่อสั่งของเข้าประเทศไทยจำนวนมากกว่า ล้านออเดอร์


ขณะเดียวกันยังมีการทำธุรกิจ ลงทุนทองคำ อ้างว่ามีการซื้อทองคำล็อตละจำนวนมาก ๆ 1,000 กิโลกรัม ได้มาราคาถูก 1 บาท 25,000 บาท แต่จำเป็นต้องซื้อมาก ๆ เท่านั้น ซึ่งมีคนคนร่วมทุนหลายคน รวมถึงมะตูมด้วย


ซึ่งก้ง บอกว่า ตนเองลงทุนทอง ไปจำนวนทั้งหมด 250 บาท จำนวนเงิน 6,250,000 ล้านบาท จ่ายเงินไป แต่ไม่ได้รับทองคำ ซึ่งคุณวาอ้างว่าอยู่ในระบบออนไลน์ นอกจากถูกหลอกลงทุนทองคำไปแล้ว ยังถูกหลอกซื้อนาฬิกาหรู Patek (ปาเต๊ะ) 2 เรือน Richard Mille (ริชาร์ด มิลล์) 1 เรือน แผ่นป้ายทะเบียนประมูลรถยนต์ และเงินสดรวมแล้ว 7,425,900 บาท (รวมเกือบ 8 ล้านบาท) ทุกครั้ง ที่เอาเงินไปให้ วา จะนัดที่ศูนย์ราชการ มีตำรวจ มีรปภ.เข้ามาดูแลความปลอดภัย เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ


ต่อมา มารู้อีกทีว่าคุณวา หลอก เนื่องจากสงสัยในหลาย ๆ เรื่อง ซึ่งก่อนหน้านี้ ตนเองอยากเปลี่ยนทองที่ซื้อมาเป็นเงิน แต่กลับถูกบ่ายเบี่ยง ทวงถามเรื่อยมาก็ไม่มีความคืบหน้า และปรึกษาทนายความ และมะตูม จนรู้ว่ามะตูมถูกหลอกเหมือนกัน จึงร่วมกันกับคุณมะตูมจัดฉากจับโป๊ะ วา ที่ร้านเหล้า สุดท้ายพบว่าวามีคดีติดตัว และแถมยังมีกำไลอีเอ็มติดที่ข้อเท้าด้วย



https://youtu.be/djrNnb2u2Y4