ญาติโวยน้องชายขโมยใบกัญชา กลับถูกทำร้ายถึงตาย เจ้าของบ้านโต้แค่ผลัก แต่ศีรษะไปฟาดหิน

ญาติร้องขอความเป็นธรรม น้องชายเข้าไปขโมยใบกัญชา แต่ถูกเจ้าของบ้านทำร้ายจนเจ็บหนักและเสียชีวิต ถามทำไมตร.ไม่ดำเนินคดีทำร้ายร่างกาย ด้านเจ้าของบ้านโต้แค่ผลักอกจนล้มแต่ศีรษะไปฟาดหิน

จากกรณีที่นายเกล็ด อายุ 48 ปี เข้าไปขโมยเด็ดกิ่งกัญชา และใบกัญชา ที่บ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่ ต.หนองหญ้าไซ อ.วังสามหมอ จ.อุดรธานี นั้น ญาติได้มาร้องเรียนว่า ถูกเจ้าของบ้านทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บและเสียชีวิตในเวลาต่อมา

พี่สาวนายเกล็ด กล่าวว่า น้องชายเข้าไปขโมยเด็ดใบกัญชาของเพื่อนบ้าน เมื่อวันที่ 15 พ.ย. เวลา 22.00 น. ซึ่งเจ้าของบ้านได้แจ้งผู้ใหญ่บ้านมาดู ตอนนั้นพบเห็นนายเกล็ดนอนอยู่บนพื้นภายในบริเวณบ้านหลังดังกล่าว

ซึ่งเธอได้รับทราบข้อมูลว่า เจ้าของบ้านทำร้ายนายเกล็ด จนนอนฟุบคาพื้น ผู้ใหญ่บ้านจึงพาส่งโรงพยาบาล ซึ่งเข้ารับการรักษาจนถึง วันที่ 25 พ.ย. ต่อมาญาติพาตัวนายเกล็ดกลับมาพักต่อที่บ้าน แต่สุดท้ายน้องชายมาเสียชีวิต เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. ทำให้ติดใจว่า ทำไมตำรวจดำเนินคดีกับน้องชายที่เสียชีวิต ในความผิดที่เข้าไปขโมยใบกัญชา แต่ทำไมไม่แจ้งดำเนินคดีเจ้าของบ้านที่ทำร้ายร่างกายน้องชายเลย

พี่สาวนายเกล็ด กล่าวอีกว่า มีชาวบ้านเห็นเจ้าของบ้านใช้ด้ามเสียมตีน้องชาย หลังจากเห็นนายเกล็ดเข้าไปขโมยเด็ดใบกัญชา และพบน้องชายมีเลือดออกด้วย ส่วนตัวรู้สึกว่าแค่ไปขโมยใบกัญชา ไม่น่าทำร้ายกันถึงตายเลย จึงอยากขอความเป็นธรรมให้น้องชาย เพราะปกติน้องชายไม่เคยเจ็บป่วย พอไปคุยกับเจ้าของบ้านคู่กรณี เขาบอกว่า ถ้าอยากได้เงินให้ไปฟ้องเอา

“น้องชายสูบกัญชามาตั้งแต่วัยรุ่น เคยบอกว่าอย่าไปขโมยของคนอื่น ถ้าอยากได้ใบกัญชาก็ให้ปลูกเอง เพราะรัฐบาลอนุญาตให้ปลูกได้แล้ว แต่น้องชายกลับโต้ว่า มันโตไม่ทัน เลยต้องไปขโมย สุดท้ายก็ต้องมาตายเพราะกัญชา” พี่สาวนายเกล็ดกล่าว

ต่อมา ญาติผู้ตายเดินทางไปพบกับ พลตำรวจตรี พิษณุ อุณหเสรี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี เพื่อขอความเป็นธรรม ซึ่งรับปากแล้วว่า จะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย

ต่อมาผู้สื่อข่าวไปยังบ้านเกิดเหตุ ภรรยาของเจ้าของบ้าน กล่าวว่า เธออยู่บ้านหลังนี้กับลูกสาว อายุ 2 ขวบ ผู้ก่อเหตุเข้ามาขโมยใบกัญชาในบ้านหลายครั้ง โดยครั้งล่าสุดที่เป็นประเด็น คือ ครั้งที่ 4 ตอนที่เข้า 1-2 ครั้งแรก เคยเตือนเขาไปแล้ว และไม่เคยแจ้งความดำเนินคดี แต่ผู้ตายกลับมาก่อเหตุซ้ำอีก

วันเกิดเหตุ นายเกล็ดเข้ามาขโมยใบกัญชาจริง ซึ่งสามีจับได้ ก็เลยผลักอก แต่นายเกล็ดล้มศีรษะไปฟาดใส่หิน มีพยานเห็นอยู่และนายเกล็ดยังยอมรับด้วยว่า ขโมยใบกัญชาจริง และยังไปเสียค่าปรับ 500 บาทที่โรงพักตามปกติ

แต่ผ่านมา 10 วันหลังเกิดเหตุ ญาติก็มาบอกว่าเขานอนซมหนัก ซึ่งเธอไม่มั่นใจว่า หลังจากเขามาขโมยกัญชาแล้วเขาไปขโมยอะไรอีกหรือเปล่า หรืออาจจะถูกใครทำร้ายมาอีกก็ได้ ซึ่งอยากให้เห็นใจครอบครัวเธอด้วย เข้ามาขโมยของในบ้านยามวิกาล และเธออยู่กัน 2 คนแม่ลูก ก็อยู่ในอาการหวาดผวาเช่นกัน

ขณะที่เจ้าของบ้าน ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า นายเกล็ดเข้ามาขโมยต้นกัญชาที่บ้านถึง 4 ครั้งแล้ว ก่อนหน้านี้เขาเข้ามาขโมยก็เคยเตือนอย่าบุกเข้ามาบ้านยามวิกาล ปกติแล้วเขาทำงานอยู่ต่างจังหวัด นานๆ จะกลับบ้าน วันเกิดเหตุ คือวันที่ 15 พ.ย. เขากลับมาบ้านพอดี เห็นนายเกล็ดเข้ามาขโมยใบกัญชาอีกจึงออกไปดู และยอมรับว่า ผลักอกนายเกล็ดจนล้มใส่ก้อนหิน โดยที่เขาไม่ได้ใช้ด้ามเสียมทำร้ายนายเกล็ด ตามที่ญาตินายเกล็ดกล่าวหาแต่อย่างใด