นักข่าว CNN ขอโทษบุกที่เกิดเหตุ ‘กราดยิงหนองบัวลำภู’ เตรียมออกนอกประเทศวันนี้

“2 นักข่าว CNN” ขอโทษปมบุกเข้าไปในศูนย์เด็กเล็กฯ ที่เกิดเหตุกราดยิงหนองบัวลำภู ถูกเพิกถอนวีซ่าในไทย เตรียมออกนอกประเทศวันนี้ ด้านผู้ใจบุญสนับสนุนเตาเผาไฟฟ้าให้ครอบครัวผู้สูญเสีย

เจ้าหน้าที่ทหารจากกองพันทหารช่าง จังหวัดขอนแก่น พร้อมชาวบ้านและจิตอาสาช่วยกันปรับพื้นที่สนามหญ้าหน้าวัดราษฎร์สามัคคี ตำบลอุทัยสวรรค์ จ.หนองบัวลำภู นำหินคลุกมาเทให้เต็มลาน แล้วนำรถไถปรับเกลี่ยพื้นผิวให้เรียบเสมอกัน ซึ่งจะใช้เป็นสถานที่ในการประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพเหยื่อเหตุกราดยิงในวันที่ 11 ตุลาคม

โดย พระครูอดิศรัย กิจจานุวัตร เจ้าอาวาสวัดราษฎร์สามัคคี เจ้าคณะตำบลอุทัยสวรรค์ เปิดเผยว่า ในส่วนของ วัดราษฎร์สามัคคี มีศพตั้งบำเพ็ญกุศลศพทั้งสิ้น 19 ศพ รวมคุณครูที่ตั้งท้องลูก 8 เดือนด้วย ตอนนี้ผ่าเอาเด็กออกมาประกอบพิธีทางศาสนาแล้ว จะใช้การเผาแบบเชิงตะกอนโบราณ เนื่องจากมีจำนวนศพมากที่สุดกว่าวัดอื่น

ซึ่งตอนนี้ผู้มีจิตศรัทธาได้บริจาคอิฐมอญ 20,000 ก้อน , ปูน 2 ตัน , ทราย 5 คิว สำหรับการสร้างเชิงตะกอน โดยการก่อสร้างเชิงตะกอน จะสร้าง ขนาดความกว้าง 80 เซนติเมตร สูง 60-80 เซนติเมตร และยาว 2.3 เมตร เหมือนกันทั้งศพเด็กและผู้ใหญ่ และใช้ถ่านเป็นเชื้อเพลิงในการเผา ซึ่งวัสดุทั้งหมดที่ใช้ก่อสร้าง ได้รับบริจาคจากผู้มีจิตศรัทธา

ขณะที่วัดศรีอุทัย ตั้งบำเพ็ญกุศล ศพเหยื่อเหตุการณ์กราดยิงจำนวน 11 ศพ โดยนายชาญณรงค์ ใช้บางยาง กรรมการผู้จัดการ บริษัทสยามเอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ เทคโนโลยี จำกัด ได้นำเตาเผาศพไฟฟ้าที่ใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิงมาช่วยสำหรับการเผาศพ โดยประสิทธิภาพการเผา 1 ศพจะใช้เวลา 40-60 นาที ใช้น้ำมันประมาณ 60 ลิตรต่อการเผา 1 ศพ และสามารถเผาต่อเนื่องได้มากกว่า 10 ศพติดต่อกัน

ซึ่งนายชาญณรงค์ บอกว่าได้ประสานผ่านทางสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดหนองบัวลำภู , ปลัดอำเภอและหน่วยงานราชการว่า มีความประสงค์ที่จะมาช่วยโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย และหลังจากการติดตั้งเตาเผาศพไฟฟ้าที่วัดศรีอุทัยเสร็จจะเดินทางไปอีก 2 วัด นำลูกน้องไปช่วยก่อสร้างเชิงตะกอนด้วย

ส่วนกรณีของนักข่าว CNN ที่เข้าไปถ่ายทำภายในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กฯ ซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุ ทำให้เกิดความไม่พอใจของคนไทย เมื่อคืนนี้ได้ขอโทษคนไทยแล้ว และวันนี้จะเดินทางออกนอกประเทศ โดยเมื่อวานนี้ (9 ต.ค.) พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สอบปากคำด้วยตัวเองอย่างเคร่งเครียด ซึ่งทั้งคู่รับสารภาพว่า เข้ามาทำงานในไทยโดยใช้วีซ่านักท่องเที่ยวจริง แต่ยืนยันว่าไม่ได้แอบเข้าไป เพราะตอนที่เข้าไปคือวันที่ 7 ตุลาคม อาคารเปิดให้คนเข้าไปได้เพื่อไว้อาลัย จึงเดินเข้าไปที่ประตูด้านหลัง ซึ่งขณะนั้นเข้าใจว่าเจ้าหน้าที่อนุญาต และไม่ได้ตั้งใจที่ทำให้เกิดความกระทบกระเทือนด้านจิตใจของครอบครัวผู้สูญเสีย

ก่อนจะออกมาแถลงขอโทษครอบครัวเหยื่อ และคนไทย พร้อมกับยกมือไหว้ขอโทษ ซึ่งตามกระบวนการของกฎหมาย ทั้งคู่มีความผิด ตามพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว กรณีใช้วีซ่านักท่องเที่ยว เข้ามาทำงานในประเทศไทย ซึ่งทั้งคู่ถูกปรับคนละ 5,000 บาท และถูกเพิกถอนวีซ่าในไทย ทำให้ต้องเดินทางจากไทยวันนี้ (10 ต.ค.) ซึ่งมีรายงานว่า ทั้งคู่จะเดินทางออกไปยังเกาะฮ่องกงโดยสายการบินไทย เครื่องจะออกเวลาบ่ายโมง 55 นาที ที่สนามบินสุวรรณภูมิ