อาชญากรรม

เปิดวงจรปิด ตร.วิสามัญสยบชายคลั่งบุกโรงพัก ด้านพ่อติดใจ ยันลูกเป็นคนดี ไม่ยุ่งยาเสพติด

โดย JitrarutP

8 ก.ย. 2565

243 views

ตำรวจ สภ.น้ำยืน ตัดสินใจวิสามัญ สยบชายคลั่ง ถือไม้เบสบอลทุบรถบุกโรงพัก ด้านพ่อผู้ตายติดใจ เจ้าหน้าที่ทำเกินกว่าเหตุ ยืนยันลูกชายเป็นคนดี ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด แต่ชอบทำลายข้าวของ

กรณีเกิดเหตุชายอายุ 32 ปี บุกปาระเบิดปิงปองที่โรงพัก สภ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี และใช้ไม้เบสบอลทุบรถยนต์ที่จอดอยู่จนได้รับความเสียหาย โดยตำรวจพยายามเจรจาให้สงบสติอารมณ์ แต่ชายคนดังกล่าวไม่ยอมหยุด และพยายามตรงเข้ามาทำร้ายตำรวจจนต้องถูกยิงสกัดถึง 3 นัดจนเสียชีวิต โดยเหตการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (7 ก.ย.)

เบื้องต้นตำรวจให้ข้อมูลว่า ชายคนนี้ขับรถเก๋ง สีขาว เข้ามาจอดที่ลานเสาธง หน้า สภ.น้ำยืน พอลงจากรถได้ ก็จุดประทัดปิงปอง 4 ลูก ปาเข้าโรงพักจนเกิดเสียงดังสนั่น และร้องโวยวายเสียงดัง ตำรวจเห็นก็เลยพยายามเจรจาขอให้หยุดการกระทำ แต่ชายคนดังกล่าวไม่หยุด และคว้าเอาไม้เบสบอลซึ่งเป็นเหล็ก ความยาวประมาณ 50 ชม. จากในรถมาไล่ตีตำรวจที่เข้ามาเจรจา จนตำรวจต้องวิ่งหนีกันกระเจิดกระเจิง

ต่อมา ชายคนนี้ ใช้ไม้เบสบอล ทุบรถจักรยานยนต์ รถเก๋งสีขาว รถตราโล่ตำรวจรวมแล้วเสียหาย 4 คัน แล้วก็คว้าไม้เบสบอลขึ้นไปทุบประตูกระจก ด้านหน้า สภ.น้ำยืนได้รับความเสียหาย

ขณะที่ พันตำรวจโทวุฒิกร ยืนสุข รองผู้กำกับการ สภ.น้ำยืน ก็พยายามเข้าเจรจาให้ชายคนนี้สงบสติอารมณ์อีกครั้ง แต่ชายคนนี้กลับถือไม้เบสบอลวิ่งไล่ พันตำรวจโทวุฒิกร จนต้องวิ่งหนีเสียหลักล้ม ช่วงจังหวะจวนตัว พันตำรวจโทวุฒิกร จึงใช้ปืนยิงไปที่ต้นขา 1 นัดเพื่อสกัดให้หยุด แต่ชายคนดังกล่าวแม้จะถูกยิงแต่ยังวิ่งเข้าใส่

จังหวะนั้น ดาบตำรวจ สุทัศน์ ศิลาชัย เห็นท่าไม่ดี จึงใช้ปืนปืนพกขนาด 9 มม.ยิงไปที่ต้นขา อีก 1 นัด แต่ยังไม่หยุด ชายคนดังกล่าวกลับมาถึงตัว พันตำรวจโทวุฒิกร และเกิดปลุกปล้ำชุลมุน และมีเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด ทำให้ชายคนดังกล่าวฟุบหมดสติ ตำรวจจึงปฐมพยาบาล และนำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อรักษา แต่ปรากฏว่าเสียชีวิต จึงส่งศพไปตรวจชันสูตรอย่างละเอียดที่โรงพยาบาล

ขณะที่ พลตำรวจตรี สถาพร เอมโอฐ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี เปิดเผยว่า ลงพื้นที่เข้ามาดูข้อเท็จจริงแล้ว พร้อมยืนยันให้เป็นธรรมต่อทุกฝ่าย และตอนนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน และสอบสวนข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น

ล่าสุด พ่อของผู้เสียชีวิต ได้เดินทางเข้ารับศพลูกชาย หลังถูกส่งชันสูตรเมื่อคืนที่ผ่านมา เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุลูกชายยังอยู่บ้านปกติดี แต่ต่อมามีคนไปบอกที่บ้านว่า ให้ไปดูลูกชายที่โรงพยาบาลน้ำยืน เพราะลูกชายถูกยิง ตอนนั้นไม่ทราบสาเหตุว่า เกิดอะไรขึ้น เมื่อไปถึงโรงพยาบาลปรากฏว่าเสียชีวิตแล้ว

พร้อมยืนยัน ลูกชายไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด แต่ยอมรับว่า ลูกชอบทำร้าย ทุบทำลายข้าวของ จนต้องเข้ารับการรักษาที่ รพ.พระศรีมหาโพธิ์ จ.อุบลราชธานี เมื่อ 7 ปีก่อน แต่ตอนนี้รักษาหายแล้ว ซึ่งหลังจากรักษาหาย ลูกก็ไปทำงานที่จังหวัดระยอง ได้ 6 ปี และเพิ่งลาออกกลับมาทำงานที่บ้านได้ 3 สัปดาห์

หลังจากเกิดเหตุตำรวจยังไม่ได้ติดต่อเรื่องคดี มีแต่ชี้แจงว่าลูกชายไปก่อเหตุดังกล่าว ตนขอเรียกร้องขอความเป็นธรรม ยอมรับติดใจตำรวจยิงลูกชายเสียชีวิต เพราะคิดว่า ทำเกินกว่าเหตุ เพราะลูกชายไม่มีอาวุธปืนหรือมีด มีเพียงไม้เบสบอลเท่านั้น

ยืนยันลูกไม่ได้มีเรื่องคับแค้นใจกับตำรวจ เแต่เคยถูกจับและโดนตำรวจซ้อม แต่ก็นานมากแล้ว ซึ่งไม่เชื่อว่า จะเป็นเหตุแค้นฝังใจมาก่อเหตุดังกล่าว เมื่อตนขอดูวงจรปิดของโรงพักและบริเวณโดยรอบ กลับอ้างว่าวงจรปิดเสีย


คุณอาจสนใจ