แจ้ง 3 ข้อหา ‘ศึก 2 โรงน้ำแข็ง’ ดวลปืนสนั่นอยุธยา จ่อคุยเจ้าของหวั่นเกิดเหตุซ้ำ

ตำรวจแจ้ง 3 ข้อหา ศึกโรงน้ำแข็ง “อโยธยา – พันล้าน”  ดวลปืนสนั่นกลางเมืองอยุธยา ดำเนินคดี 13 ราย ได้ประกันตัวแล้ว 9 ราย จ่อเรียกเจ้าของเข้าเจรจาไกล่เกลี่ย หวั่นเกิดเหตุซ้ำ

กรณี 2 โรงน้ำแข็งเปิดศึก ยิงกันกลางเมืองอยุธยาเมื่อวานนี้ ตำรวจคุมตัวผู้ก่อเหตุทั้งหมด 13 คน มีการระดมเจ้าหน้าที่มาทำการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้งคืน พร้อมแจ้ง 3 ข้อหา ล่าสุดได้ประกันตัวแล้ว 9 ราย ส่วนอีก 4 ราย ยังสอบปากคำไม่เสร็จ

กล้องวงจรปิดจับภาพรถกระบะสีขาวของโรงน้ำแข็งอโยธา ขับออกมาจากปากซอยถุงทอง มาปิดกั้นไม่ให้รถกระบะสีดำ ของโรงน้ำแข็งกลุ่มพันล้านเข้ามาในพื้นที่ ขณะที่ด้านหลังมีรถแฮมเมอร์สีแดง กลุ่มเดียวกันกับกระบะสีดำ ขับตามมาประกบคอยระวังหลังให้ พอเห็นกระบะสีขาวของฝ่ายตรงข้ามดักหน้าไว้ จากนั้นมีคนวิ่งลงรถจากรถ และเปิดฉากยิงกันสนั่นกลางถนน จากนั้นจะเห็นรถตู้ของกำนันตามมาระงับเหตุ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นช่วงเวลาประมาณ 11.00 น. ที่บริเวณหมู่ 1 ตำบลคลองสวนพลู อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

แต่ก่อนหน้านั้น จะมีคลิปเหตุการณ์ที่กลุ่มพันล้านขับรถออกไปตระเวนส่งน้ำแข็ง แล้วถูกกลุ่มโรงน้ำแข็งอโยธยา ใส่เสื้อสีแดงยกพวกกันมาปิดล้อม บริเวณหน้าหมู่บ้านสิวลี ก่อนที่กลุ่มพันล้านจะโทรเรียกลูกพี่ของตัวเอง ที่ขับรถแฮมเมอร์สีแดงตามมาสมทบและเกิดเหตุดวลปืนกันขึ้น

หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.พระนครศรีอยุธยาเข้าตรวจสอบเหตุ พบผู้บาดเจ็บ 3 คน และนำตัวทั้ง 2 ฝั่ง ไปสอบปากคำ รวม 13 คน

ล่าสุด พันตำรวจเอก ประเวศ ศรีนาค ผู้กำกับการ สภ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุ ตนได้ให้พนักงานสอบสวน สอบปากคำ คู่กรณีทั้ง 2 โรงน้ำแข็ง และกลุ่มของกำนันที่อยู่ในเหตุการณ์ ซึ่งสอบปากคำไป ทั้งหมด 13 คน หลังจากสอบสวนเสร็จ ได้แจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันก่อเหตุชุลมุนต่อสู้เป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส พยายามฆ่า และคดีความผิดเกี่ยวกับ พรบ.อาวุธปืน พร้อมตรวจยึดยานพาหนะ 4 คัน ตรวจยึดอาวุธปืน 7 กระบอก

กลุ่มของผู้ต้องหาแบ่งเป็น 3 ฝ่าย โรงน้ำแข็งพันล้าน จำนวน 8 คน คนและฝ่ายของโรงงานน้ำแข็งอโยธยา 2 คน และฝ่ายของกำนันตำบลเกาะเรียน จำนวน 3 คนส่วนผู้บาดเจ็บมีทั้งหมด 2 ราย เป็นฝ่าย โรงงานน้ำแข็งอโยธยา 1 ราย และอีก 1 ราย โรงน้ำแข็งพันล้าน

โดยขณะนี้ถูกประกันตัวและปล่อยตัวชั่วคราวไปแล้วทั้งหมด 9 คน เหลืออีก 4 คน คือทางฝ่ายพันล้านที่อยู่ระหว่างสอบปากคำเพิ่มเติม

พันตำรวจเอก ประเวศ บอกอีกว่า จากกรณีเรื่องกระทบกระทั่งกัน เกิดจากปัญหาเรื่องของผลประโยชน์ ของทั้ง 2 ฝ่าย แนวโน้มอาจจะไม่ยุติหรืออาจจะมีการแก้แค้นกันอีก ซึ่งจะมีการเรียกเจ้าของทั้ง 2 ฝ่ายมาเจรจาไกล่เกลี่ยกันในเร็วๆ นี้

ส่วนในเรื่องปัญหาสาเหตุที่เกิดเรื่องเกิดจากการวิ่งทับเส้นทางและเกิดจากปัญหาที่ลูกน้องทั้งสองฝ่ายไม่พอใจกันจึงพากันก่อเหตุจนเกิดเรื่องบานปลาย ดังกล่าว

ขณะที่ทีมข่าวเที่ยงวันทันเหตุการณ์ ลงพื้นที่ อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา ลงไปยังบริษัทโรงน้ำแข็งพันล้าน พูดคุยกับนายโอ๋ อายุ 27 ปี ผู้จัดการโรงงานน้ำแข็ง บอกว่า เปิดโรงน้ำแข็งได้ไม่ถึง 1 เดือน โดยตอนเปิดตัวโรงน้ำแข็ง ก็ได้ไปแนะนำตัวกับพ่อค้าแม่ค้า ว่าน้ำแข็งของตนเองมีคุณภาพดี ไม่มีเศษไม่มีตะกอน เนื่องจากเครื่องจักรของเรายังใหม่ และมีโปรโมชั่น หากพ่อค้าแม่ค้าสนใจ พร้อมเทน้ำแข็งให้ฟรีหนึ่งถัง ให้พ่อค้าแม่ค้าที่สนใจได้ทดลองใช้ ขอเป็นเจ้าสำรอง เป็นการเปิดตลาดอย่างหนึ่งทำความรู้จักกับพ่อค้าแม่ค้าอย่างดี ซึ่งก็ทำให้ลูกค้าพอใจ

ต่อมาทีมข่าวเที่ยงวันทันเหตุการณ์ลงพื้นที่ ต.คลองสวนพลู บริษัท โรงน้ำแข็ง อโยธยา โดยสอบถามไปยังเจ้าหน้าที่พนักงานของบริษัทโรงน้ำแข็งอโยธยา โดยทางโรงงานน้ำแข็ง ไม่สะดวกให้ข้อมูลใดใดเนื่องจากติดต่อเจ้าของและผู้จัดการไม่ได้