สาวร้อง! หนุ่มขาเจ็บขับรถชนครอบครัว เจ็บ 4 เด็ก-คนแก่ป่วยติดเตียง ผ่านนับเดือนไร้เยียวยา

ผู้เสียหายร้องเรียนคนขับเก๋งชนตนและครอบครัวบาดเจ็บ โดยลูกสาวและคุณยายยังกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง ผ่านมานานนับเดือนยังไม่เยียวยาค่ารักษา ต้องฟ้องศาลแพ่งเรียกค่าเสียหายเอง


ภาพเหตุการณ์จากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่หน้าโรงเรียนแห่งหนึ่ง ในตำบลโพธิ์เสด็จ อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช ซึ่งจากภาพมีรถเก๋งคันหนึ่งจอดอยู่และหญิงคนหนึ่งกำลังลงจากรถเดินอ้อมไปด้านหลังเพื่อไปอุ้มลูกชาย 5 ขวบจะเข้าไปในโรงเรียน ขณะเดียวกันคุณยายกำลังพาหลานสาว 4 ขวบ ลงจากรถเช่นกัน โดยขณะนั้น มีรถเก่งคันหนึ่งพุ่งมาชนเต็มแรง ทำให้เด็กหญิง 4 ขวบและคุณยายติดไปใต้ท้องรถคันดังกล่าว ส่วนคุณแม่กับลูกชายล้มกลิ้งกระเด็น โดยที่แม่รู้สึกตัวก็รีบอุ้มลูกชาย 5 ขวบขึ้นบนทางเท้าทันที


ขณะเดียวกันที่เกิดเหตุ พบชายคนขับอยู่ในลักษณะเหมือนใช้ไม้เท้าในการช่วยเดินและตรงหัวเข่าเหมือนได้รับบาดเจ็บ โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 20 มิถุนายน ที่ผ่านมา และผ่านมากว่า 1 เดือนผู้เสียหายยังไม่ได้รับการเยียวยาแต่อย่างใด


ผู้สื่อข่าวไปพบกับผู้เสียหายซึ่งเป็นคุณแม่ อายุ 29 ปีที่บ้านพัก เพื่อไปพบเด็กหญิง 4 ขวบ และเด็กชาย 5 ขวบที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเด็กหญิงอยู่ในสภาพไม่สามารถลุกขึ้นนั่งได้ เพราะกระดูกเชิงกรานหัก แพทย์ต้องใส่เหล็กยึดกระดูกเชิงกรานไว้ ส่วนที่อวัยวะเพศจนถึงทวารหนักฉีกขาด จึงจำเป็นต้องใส่อุปกรณ์ช่วยขับถ่ายบริเวณหน้าท้อง


ส่วนเด็กชาย 5 ขวบ ซึ่งพี่ชายของเด็กหญิง ได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ แต่สามารถขยับตัวได้ โดยเด็กทั้งสองคน ยังอารมณ์ดี พูดคุยได้


ขณะที่ห้องที่อยู่ติดกัน เป็นคุณยายอายุ 58 ปี ป่วยนอนติดเตียง เพราะกระดูกสันหลังแตกทำให้ท่อนล่างไม่สามารถขยับได้ และพบอาการเลือดออกในสมองเข้ารับการผ่าตัดแล้วจนปลอดภัย แต่ต้องให้ลูกหลานคอยช่วยเหลือในการขยับตัวเพราะลุกไม่ได้


ผู้เสียหาย เล่าว่า วันเกิดเหตุขับรถไปส่งลูกทั้งสองคนที่โรงเรียน และจอดรถริมฟุตบาทดับเครื่องยนต์ดึงเบรคมือเรียบร้อย ก่อนที่จะลงจากรถเพื่อลงไปรับลูกชายที่นั่งอยู่เบาะหลัง ซึ่งตอนนั้น แม่ของตน ซึ่งเป็นยายได้พาลูกสาวลงจากรถเช่นกัน แต่ปรากฎว่ารถเก๋งอีกคันพุ่งเข้าชนท้ายรถที่จอดอยู่อย่างรุนแรง จนทำให้ร่างของลูกสาวและแม่ของตน ต้องไปอยู่ใต้ท้องรถคันดังกล่าว


ส่วนตนกระเด็นไปตามแรงกระแทก พร้อมกับลูกชายที่ศีรษะแตก เมื่อตั้งสติตามหาลูกสาวและแม่ ก็พบว่าอยู่ใต้ท้องรถ จนมีเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาล


ซึ่งเมื่อเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นทั้งหมดมากกว่า 3 แสนบาท ไม่รวมถึงความเสียหายของรถ และค่าเสียโอกาสที่ได้รับผลกระทบไปหมดทั้งครอบครัว เนื่องจากไปทำงานไม่ได้


และก่อนหน้านี้เคยไปตกลงกัน ที่สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ก็ยังไม่ได้สามารถตกลงเรื่องค่าเยียวยารักษาพยาบาลได้ ซึ่งตนพร้อมหารือทนายความ เพื่อเรียกค่าเสียหายทั้งคนและรถ รวมทั้งค่ารักษาพยาบาลไม่น้อยกว่า 1 ล้าน 5 แสนบาท


ทั้งนี้ ผู้เสียหาย ยังตั้งข้อสังเกต ถึงคนขับด้วยว่า สภาพไม่พร้อมจะขับรถ เพราะต้องใช้ไม้เท้าพยุงตัวเอง และเมื่อไม่พร้อม มาขับรถได้อย่างไร และทำให้เกิดความเสียหายกับผู้อื่น


นอกจากนี้ คนขับยังอ้างด้วยว่า หลบรถจักรยานยนต์แต่เท่าที่ตรวจสอบในวงจรปิด ก็เห็นชัดว่าไม่มีรถคันอื่นที่ต้องหลบ แต่กลับพุ่งเข้ามาชนตรงๆ


หลังเกิดเหตุ ตำรวจแจ้งกับผู้เสียหายด้วยว่า ส่งฟ้องผู้ขับขี่ในฐานขับรถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส และทำให้ทรัพย์สินเสียหาย ส่วนค่าเสียหายทางแพ่งนั้น ไม่สามารถตกลงกันได้ ต้องไปฟ้องร้องต่อศาลเรียกร้องจากผู้ขับขี่เอาเอง