อาชญากรรม

ญาติคาใจ แม่เฒ่าผูกคอดับ หายืมเงินส่งให้ลูกชายที่เมืองนอก แต่ให้โอนเข้าบัญชีคนอื่น

โดย chutikan_o

23 มิ.ย. 2565

760 views

แม่วัย 62 ผูกคอดับ ลูกคาดถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง ญาติสงสัยหนัก ลูกชายหลอกแม่หรือไม่ เพราะโทรหาแม่ให้โอนเงิน แต่กลับให้โอนเข้าบัญชีคนอื่น รอถามจากปากตอนกลับมาบวชหน้าไฟพรุ่งนี้


จากกรณี นางพิน อายุ 62 ปี ชาวบ้านบ้านวัวข้อง ต.บ้านเหลื่อม อ.เมืองอุดรธานี ผูกคอตายในที่พักนั้น น.ส.สุดารัตน์ อายุ 35 ปี ลูกสาวผู้เสียชีวิต กล่าวว่า สาเหตุที่แม่คิดสั้น น่าจะถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช้กลอุบายหลอกลวง โดยก่อนหน้าประมาณ 1 เดือน แม่เล่าให้ฟังว่า พี่ชายที่ไปทำงานประเทศไต้หวัน ได้เงินค่าเยียวยาจากการถูกทำร้ายร่างกาย 450,000 บาท และจะโอนเงินมาให้แม่เอาไปใช้หนี้สิน


แต่คนที่โอนเงินมาให้ กดหมายเลขบัญชีธนาคารผิดไปหนึ่งตัว โดยเงินเข้ามาในเมืองไทยแล้ว ทำให้เงินถูกอายัดอยู่ในธนาคารกลาง จำเป็นต้องเสียค่าปลดล็อก และยังอ้างว่า ต้องเสียค่าธรรมเนียมใหม่ หากมีการโอนเงินหลักแสนขึ้นไป และจะต้องเสียค่าภาษีด้วย รวมๆ แล้วก็หลายแสนบาท


จากนั้นแม่ไปหากู้ยืมเงินญาติพี่น้องและคนรู้จัก โอนเงินไปให้เขาแล้ว 3 แสนกว่าบาท แล้วในวันนี้จะโอนไปให้เขาอีก 5 หมื่นบาท แต่ยังไม่ได้โอน เพราะยังหาเงินไม่ได้ อาจจะทำให้แม่เครียดสะสม และกลุ้มใจในเรื่องนี้จึงคิดจบชีวิต ซึ่งแม่เคยบอกว่า หากแม่ไม่อยู่ แม่ก็ได้ทำพินัยกรรมเอาไว้ให้ลูกๆ แล้ว


ด้านนายสมบูรณ์ อายุ 54 ปี ญาติผู้เสียชีวิต กล่าวว่า นางพินเคยมาถามเรื่องนี้ ว่าจะโดนหลอกหรือเปล่า ที่นายสุรศักดิ์ ลูกชายของนางพิน บอกจะโอนเงิน 450,000 บาทมาให้ แต่แม่ต้องโอนเงินไปให้ก่อน มี 3 รายการ คือ 1. ค่าแก้ไขเอกสาร 30,000 บาท 2. ค่าดำเนินงานขอยกเลิกอายัดเงิน 50,000 บาท และ 3. ตัวนี้สำคัญมาก เขาเขียนว่า ค้ำประกันบัญชีและยืนยันตัวจริงผู้รับเงิน 50,000 บาท เพื่อป้องกันการฟอกเงินข้ามประเทศ รวม 130,000 บาท แต่ลูกชายให้ยายพินโอนไป 100,000 บาท พร้อมบอกว่าธนาคารจะคืนเงินให้ 100,000 บาท หลังดำเนินการเสร็จสิ้น


ยายพินก็ไปยืมเงินญาติๆ เพื่อโอนไปให้ลูกชาย 100,000 บาท พร้อมส่งเอกสารการโอนเงินไปด้วย แต่ลูกชายก็โทรมาอีกว่า ให้โอนเงินมาให้อีก 50,000 บาท ยายก็ไปหยิบยืมญาติๆ โอนให้อีก แต่ก็ยังไม่พอลูกชายก็โทรมาบอกให้ยายพินโอนเงินไปอีกเรื่อยๆ จนแกต้องเอาโฉนดไปจำนองกู้เงินมาส่งให้ลูกชายอีก รวมยอดที่ยายพินโอนไปทั้งหมด 330,000 บาทแล้ว แต่เงิน 450,000 บาท ก็ยังไม่ได้เสียที


ยายพินมาปรึกษาในวันอาทิตย์ พอวันจันทร์บอกว่าลูกชายให้โอนเงินอีก 50,000 บาท แล้วจะได้เงิน 450,000 บาท ในวันอังคาร แกก็ไปหยิบยืมจากญาติๆ มาอีก สุดท้ายแกก็ยังไม่ได้เงินแสน พอเช้าวันพุธก็รู้ว่าแกผูกคอตายตั้งแต่คืนวันอังคาร


นายสมบูรณ์ กล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้เคยบอกให้แกไปแจ้งตำรวจ เพราะพฤติการณ์เหมือนพวกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แต่คนที่โทรหายายพินบอกเรื่องโอนเงิน ก็เป็นเสียงลูกชายทุกครั้ง เลยไม่มั่นใจว่าลูกชายจะมีส่วนร่วมหรือไม่ คงต้องรอสอบถามจากปากนายสุรศักดิ์ ที่จะเดินทางมาร่วมงานศพ และบวชหน้าไฟให้แม่ในวันพรุ่งนี้


นอกจากนี้ยังมีอีกจุดที่น่าสงสัย คือลูกชายโทรมาให้โอนเงิน แต่กลับให้โอนเงินเข้าบัญชีชื่อคนอื่น คนแรกบัญชีชื่อนายวัลลพ บัญชีที่ 2 ชื่อนายธนพล และบัญชีที่ 3 ชื่อนางสุดารัตน์ ตอนนี้อยากฟังจากปากลูกชายยายพิน ว่าหลอกให้แม่โอนเงินให้ หรือหลวมตัวไปร่วมแก๊งคอลเซ็นเตอร์หรือเปล่า


ด้านตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี เผยว่า เรื่องที่เกิดขึ้นจะต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน ว่านางพินผูกคอตายจากการถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงจริงหรือไม่ หรืออาจจะถูกคนรู้จักหลอก ส่วนการสืบสวนบัญชีปลายทางที่มีการโอนเงินเข้า ตอนนี้ต้องรอให้ลูกผู้เสียชีวิตมาแจ้งความก่อน จึงจะสามารถเดินหน้าทางคดีได้


ขณะเดียวกัน เมื่อวานนี้มีตำรวจไซเบอร์ ได้เข้าสอบถามญาติๆ เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงว่า ยายพินจะถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกจริงหรือไม่ เพราะคนที่โทรมาหา โทรจากแอปเฟซบุ๊กเมสเซ็นเจอร์ ก็เป็นชื่อลูกชาย ซึ่งจะต้องเร่งตรวจสอบ หากเป็นแก๊งมิจฉาชีพก็จะเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีโดยเร็ว



คุณอาจสนใจ