อาชญากรรม

ศาลสั่งจำคุก 20 ปี ‘ผู้กองบอย’ ฆ่าเมีย ปรับอีก 7.2 แสน เจ้าตัวยืนกราน เป็นอุบัติเหตุ

โดย paweena_c

15 มิ.ย. 2565

253 views

ศาลตัดสินจำคุก  20 ปี ปรับ 720,000 บาท "ผู้กองบอย" อดีต รอง สว.สส.สน.วังทองหลาง ฆ่าเมียตัวเอง เจ้าตัวยืนกรานเป็นอุบัติเหตุ ไม่ได้ตั้งใจลั่นไก



จากกรณีที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 9 เป็นโจทก์ฟ้อง ร้อยตำรวจเอกทรงกลด บุญส่ง หรือ ผู้กองบอย อายุ 31 ปี อดีตรอง รองสารวัตรสืบสวน สน.วังทองหลาง เป็นจำเลยในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ฯ หลังก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิง นางสาวพิมชฎาพร ภูแย้มใสย์ หรือน้องนิ่ม ภรรยาที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน เสียชีวิต เหตุเกิดช่วงกลางดึกของคืนวันที่ 20 มิถุนายน 2563 ในบ้านพักย่านถนนแฮปปี้แลนด์ ซึ่ง “ผู้กองบอย” ได้ยืนยันคำให้การตั้งแต่ชั้นพนักงานสอบสวนว่าเหตุสลดดังกล่าวเป็นอุบัติเหตุไม่ได้เกิดจากความตั้งใจลั่นไก



วันนี้ (15 มิ.ย. 65) ศาลมีนัดฟังคำสั่งพิพากษา ก่อนที่ในช่วงเวลาประมาณ 8.30 น. ผู้กองบอยและทนายความได้เดินทางมาถึงยังศาลโดยทนายความให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนสั้นๆ ยังยืนยันว่า ลูกความตนเองได้ยืนยันข้อเท็จจริงไปตั้งแต่ต้น ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นอุบัติเหตุ เป็นเหตุสุดวิสัย ไม่ใช่การตั้งใจ เพราะทั้งคู่ก็อยู่กินรักใคร่กันทานาน จนมีลูก จึงไม่มีเหตุใดที่ต้องฆ่ากัน ก็หวังว่าจะได้ความยุติธรรมว่าลูกความตนเองไม่ได้มีเจตนาตามที่เป็นข่าวไปว่าตั้งใจฆ่าภรรยา



ส่วนศาลจะตัดสินพิพากษาอย่างไรก็พร้อมน้อมรับคำพิพากษาของศาล เพราะถือเป็นดุลพินิจของศาลที่ไม่อาจก้าวล่วงได้ ขณะที่ผู้กองบอย ระบุว่า วันนี้ก็ขอให้พระเจ้าคุ้มครอง ขอให้ได้ออกมาเห็นหน้าลูก ส่วนศาลจะพิจารณาอย่างไร ก็ขึ้นอยู่กับศาล แต่สิ่งที่ตัวเองรู้แน่ชัดคือ ตัวเองพูดความจริงไปทั้งหมดทุกอย่างแล้ว ในวันสืบพยาน วันนี้ก็ขอให้พระเจ้าคุ้มครองได้ออกมาเห็นหน้าลูก



สำหรับคดีนี้ พนักงานอัยการ ได้เป็นโจทก์ฟ้อง ร้อยตำรวจเอกทรงกลด ในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ซึ่งจำเลยให้การปฏิเสธ ต่อสู้คดี และได้รับการประกันตัว โดยศาลตีราคาประกัน 5 แสนบาท ในเวลาต่อมาศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าคำให้การของจำเลย มีพิรุธ อีกทั้งพยานหลักฐานของโจทก์และโจทก์ร่วมมีน้ำหนักน่าเชื่อถือกว่า รวมถึงจำเลยเป็นตำรวจ ต้องรู้อยู่แล้วว่าอาวุธปืนเป็นสิ่งอันตราย การนำมาจ่อศีรษะผู้อื่นย่อมเล็งเห็นผลถึงแก่ชีวิต มีความเห็นพิพากษาตัดสินให้ จำคุกจำเลยเป็นเวลา 20 ปี และให้จ่ายเงินจำนวน 720,000 บาท เป็นค่าเลี้ยงดูแก่มารดาของผู้ตาย



โดยภายหลังฟังคำพิพากษา นายสมัย ภูคงน้ำ น้าชาย และ นางทองใส ภูคงน้ำ แม่ของ นางสาวพิมชฎาพร ระบุว่า ส่วนตัวรู้สึกพอใจในคำพิพากษาในส่วนของคดีอาญา แต่ในส่วนของการชดใช้สินไหม ทางครอบครัวมีการเรียกไป 6 ล้านบาท แต่ศาลตัดสินที่ 7.2 แสนบาท ก็ต้องขอดูผลคำพิพากษาและจะหารือกับฝ่ายกฏหมายอีกครั้งว่าจะสามารถดำเนินการอย่างไรได้อีกหรือไม่ นางทองใส ยังระบุว่าหลังได้ฟังคำพิพากษา ก็พอใจ แต่ก็ยังบอกได้ไม่เต็มปากว่าตอนนี้ให้อภัยอดีตลูกเขยแล้วหรือยัง แต่ก็ยอมรับว่าหลังเกิดเหตุ ผู้กองบอย อดีตลูกเขย ก็ได้ติดต่อและเดินทางมาเยี่ยมและให้เงินมา 3 ครั้ง รวมแล้วกว่า 1.5 แสนบาท



ส่วนตัวหลานสาวหลังเกิดเรื่อง ก็อยู่ในความดูแลของทางแม่เลี้ยงของอดีตลูกเขยซึ่งตนเองได้ยืนยันแจ้งไปแล้วว่าหากเลี้ยงดูไม่ไหวให้แจ้งตนเองตนเองจะขอนำหลานสาวมาดูแลเลี้ยงดูเอง ขณะที่ในส่วนของนายนิติศักดิ์ มีขวด ทนายความของผู้กองบอย ระบุว่าในวันนี้จะมีการยื่นหลักทรัพย์โดยใช้หลักทรัพย์เดิมจำนวน 500,000 บาท และประกอบกับโฉนดที่ดินของมารดาผู้กองบอยรวมมูลค่าแล้วกว่า 1,200,000 บาทเพื่อใช้เป็นหลักทรัพย์ในการประกันตัวต่อสู้คดี



ส่วนคำพิพากษาของศาลทางตนเองและลูกความก็พร้อมยอมรับส่วนที่ศาลไม่เชื่อคำให้การของทางลูกความตนเอ งคาดว่ามาจากการที่ลูกความตนเองเป็นตำรวจศาลจึงมองว่าเป็นตำรวจต้องรู้จักและคุ้นเคยกับอาวุธปืน จึงเชื่อว่าอาจเกิดการข่มขู่ขึ้นจริงตามที่โจทก์และโจทก์ร่วมยื่นในประเด็นนี้  ในวันนี้ก็จะดำเนินการยื่น ขอปล่อยตัวชั่วคราวประกันตัวลูกความเพื่อเตรียมยื่นอุทธรณ์อีกครั้ง ซึ่งคาดว่าจะรู้ผลการอนุมัติประกันตัวในช่วงเย็นวันนี้

คุณอาจสนใจ