อาชญากรรม

ลูกสาววัย 14 วางแผนให้แฟนหนุ่มวัย 16 ฆ่าแม่ อ้างถูกกีดกันความรัก

โดย thichaphat_d

8 เม.ย. 2565

122 views

ลูกสาววัย 14 ปี วางแผนกับแฟนหนุ่ม 16 ปี ร่วมกันฆ่าแม่บังเกิดเกล้า หยิบมีดให้แฟนแทงแม่ยับ 7 แผล เข้าจุดสำคัญ พี่ชายได้ยินเสียงแม่ร้องวิ่งเข้ามาช่วย ถูกแทงด้วยเกือบเอาชีวิตไม่รอด ก่อนรอมอบตัวอ้างถูกแม่กีดกันความรัก

เหตุเกิดเมื่อช่วง 4 ทุ่ม ที่ผ่านมา ในห้องพักชั้น 1 โครงการเอื้ออาทรขจรวิทย์ ตำบลบางพลีใหญ่ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ภายในห้องพบศพนางสาวจีรพา อายุ 53 ปี นอนหงายจมกองเลือดบริเวณหน้าห้องน้ำ มีแผลถูกของมีคมแทงหลายจุด

โดยถูกแทงที่แก้มซ้าย 2 แผล แก้มขวา 1 แผล ลำคอด้านหน้า 3 แผล และท้ายทอยอีก 1 แผล รวมทั้งหมด 7 แผล ใกล้กันพบปลายมีดปลอกผลไม้ปลายแหลม ยาวประมาณ 10 เซนติเมตร และด้ามมีด ตกอยู่ที่พื้นห้อง

โดยมีเด็กหญิงเอ อายุ 14 ปี ลูกสาวของผู้เสียชีวิต และนายบี อายุ 16 ปี แฟนหนุ่ม นั่งอยู่ในสภาพเสื้อผ้า และเนื้อตัวเปื้อนเลือด รอมอบตัวอยู่ในห้อง

นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บอีก 1 คน คือ นายกิตติ อายุ 23 ปี ลูกชายผู้เสียชีวิต ถูกแทงที่กกหู 1 แผล ที่หลัง 2 แผล และตามตัวด้านหน้าอีกหลายแห่ง ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ช่วยปฐมพยาบาล เล่าว่า ตอนเกิดเหตุได้ยินเสียงโวยวาย จึงรีบวิ่งไปห้อง แต่น้องสาวพยายามดันประตูไม่ให้เข้าไปในห้อง จึงต้องใช้แรงดันอย่างเต็มที่จนสามารถเข้าไปในห้องได้ ก็เห็นแม่กำลังโดนนายบี ใช้มีดแทงอยู่ ก็พยายามช่วยแม่ แต่ก็โดนนายบีแทงด้วยเช่นกัน จนต้องรีบวิ่งออกมาขอความช่วยเหลือด้านนอก

ขณะที่เด็กหญิงเอ สารภาพว่า ตนเองเป็นคนวางแผนให้แฟนมาฆ่าแม่ อ้างว่าตัวเองมีอาการทางจิต จิตตก จะไม่สามารถห้ามอะไรได้ หากอาการนี้กำเริบ

ส่วนนายบี ก็สารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุได้มานั่งรอแฟนสาวอยู่ที่สนามหน้าตึก จากนั้นแฟนสาวก็ออกมาพูดคุยว่าจะให้ตนทำอะไรบ้าง ตนเองก็ทำตามแผน พอเดินเข้าไปในห้อง แฟนสาวได้เบี่ยงเบนความสนใจของแม่ ให้ตนไปหลบในห้องครัว แล้วหยิบมีดมาให้ รอจนแฟนสาวให้สัญญาณ ตนก็เข้าไปแทงแม่เขาหลายแผล กระทั่งมีพี่ชายแฟนเข้ามาช่วย ก็ทำร้ายพี่ชายไปด้วย ตนและแฟนสาว พร้อมรับผิดเพื่อจะได้อยู่ด้วยกัน ที่ผ่านมาแม่แฟนสาวกีดกันไม่ให้คบกัน บางทีสิ่งที่เขาทำมากเกินไปจนแฟนสาวก็รับไม่ไหว


หลังจากเจ้าหน้าที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุเสร็จสิ้น ได้พาผู้ก่อเหตุทั้ง 2 คน ออกจากตึก ปรากฏว่ามีชาวบ้านที่ทราบข่าว โกรธแค้นเด็กสาวที่คิดฆ่าแม่ จนฝ่ากำลังเจ้าหน้าที่เข้าไปทำร้าย จนเกือบเกิดเหตุชุลมุน

เช้าวันนี้คุณสิทธิกร ปรักกัมนนท์ ผู้สื่อข่าวเที่ยงวันทันเหตุการณ์ ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ โดยไปได้ภาพจากกล้องวงจรปิดหน้าตึกที่เกิดเหตุ ซึ่งสอดคล้องกับคำให้การของนายบี

ในภาพจากกล้องวงจรปิด พบก่อนเกิดเหตุ นายบีได้มานั่งรอแฟนสาวที่สนามหน้าตึก ตามเวลาในกล้องวงจรปิด เป็นเวลา 3 ทุ่ม 10 นาที ระหว่างนั้นจะเห็นว่า นายบี ซึ่งสวมเสื้อแจ๊คเก็ตแบบมีฮู้ท และได้สวมฮู้ทด้วย ได้นั่งเล่นโทรศัพท์มือถือ คาดว่าเป็นการแชทคุยกับแฟนสาว ผ่านไปประมาณ 10 นาที ก็เดินไปนั่งรอที่หน้าตึกอีกสักพัก ก่อนที่เด็กหญิงจะเดินออกจากห้องมา พร้อมกับถือของในมือ แล้วเดินหายไปจากกล้องวงจรปิดประมาณ 1 นาที ก่อนจะกลับมาที่หน้าตึกอีกครั้ง แล้วยืนคุยกันประมาณ 1 นาที ก็หายเข้าไปในห้องแล้วก่อเหตุตามแผน โดยเวลาตอนนั้นประมาณ 3 ทุ่มครึ่ง

ผู้สื่อข่าว ได้คุยกับเพื่อนข้างห้องผู้เสียชีวิต บอกว่า สนิทกับนางสาวจีรพา ผู้เสียชีวิต หรือ พี่แดง โดยเมื่อคืนวันที่ 5 เมษายน พี่แดงไลน์มาหา บอกว่า ลูกหาย จึงได้ไปตรวจดูกล้องวงจรปิด แล้วเห็นว่าหนีไปกับแฟนหนุ่ม จึงไปตามกลับมาในเช้าวันที่ 6 เมษายน ตนได้บอกไปว่า "พี่แดงต้องใจเย็น ๆ ค่อย ๆ คุยกับลูก" หลังจากนั้นพี่แดงก็นัดคุยกับพ่อฝ่ายชายที่วัดหนามแดง โดยทางฝ่ายชายจะให้เด็กหญิงเอไปอยู่ที่บ้าน แต่พี่แดงไม่ยอม พาลูกกลับมา แกไม่รู้มาก่อนว่าลูกมีแฟน เพราะแกทำแต่งาน

"พี่แดงเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว รักลูกมาก มีลูกสาวคนเดียว ไม่ปล่อยให้ไปไหน ส่วนลูกชายคนโต ออกจากโรงเรียนเพื่อมาเลี้ยงน้อง หลายปีที่อยู่ข้างห้องกันมา ไม่เคยได้ยินเสียงพี่แดงด่าลูกเสียงดัง เคยตีลูกสาวแค่ครั้งเดียว ตอนที่แอบเอาเงินในแอพไปซื้อของ ตอนที่หนีไปแล้วพากลับมาก็ไม่ตี ถามว่าน้องมีอาการทางจิตไหม ตนคิดว่าไม่มี ที่น้องอ้างว่าจิตตก คิดว่าน้องน่าจะคิดไปเอง ปัญหาในบ้านไม่มีอะไร คงเป็นเรื่องที่อยากไปอยู่กับผู้ชาย พี่แดงก็เคยมาเล่าว่า ลูกสาวเก็บกด ดื้อเงียบ แต่ก็ไม่คิดว่าจะทำถึงขนาดนี้" เพื่อนข้างห้องผู้เสียชีวิตกล่าว

ส่วนช่วงเวลาที่เกิดเหตุ ตนกำลังกินหมูกระทะกันอยู่ข้างตึก ได้ยินเสียงลูกชายพี่แดงตะโกนเรียกเสียงดัง "ช่วยด้วย ช่วยด้วย" จึงรีบวิ่งไปดู เห็นนายบีออกมาฉุดกระชากลูกชายพี่แดง จึงเข้าไปช่วยกันจับตัวนายบีไว้ สภาพตอนนั้นลูกชายคนโตร้องไห้ และพูดกับน้องสาวว่า "ทำแม่ได้อย่างไร กูจะตายตามแม่ไป"

ผู้สื่อข่าวยังได้คุยพยานอีก 1 คน ซึ่งเป็นคนที่ไปออกกำลังกายที่สนามฟุตบอลส่วนกลาง เล่าว่า เมื่อวานนี้ประมาณหนึ่งทุ่มกว่า ๆ ตนกำลังออกกำลังกายอยู่ เห็นเด็กผู้หญิงและเด็กผู้ชาย นั่งคุยกันอยู่บริเวณใต้แป้นบาส จำได้ว่าเด็กคนนี้อยู่ตึกที่เกิดเหตุ ทั้งคู่นั่งคุยกันกว่า 2 ชั่วโมง ตอนนั้นไม่ได้เอะใจว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น

คุณอาจสนใจ

Related News