ผัวอ้างบันดาลโทสะ แค้นแทนเมียแม่บ้านโดนต่อยหน้าปูด แทงเด็กรับรถร้านสุกี้ดับ

เมื่อคืนที่ผ่านมาเกิดเหตุแม่บ้านร้านสุกี้ย่านเลียบทางด่วนรามอินทรา ทะเลาะกับชาวเวียดนามที่มาโบกรถ และโดนทำร้าย จึงโทรตามสามีมาช่วย สุดท้ายสามีใช้มีดแทงคนโบกรถเสียชีวิต ล่าสุดผู้ก่อเหตุที่เป็นสามีแม่บ้านรับสารภาพ ทำไปเพราะที่โดนผลักอก

เจ้าหน้าที่กู้ภัยพยายามปั๊มหัวใจเพื่อช่วยชีวิต ชายชาวเวียดนามอายุ 49 ปี โดนแทงเข้าบริเวณใต้ราวนม  แขนและหน้าผากเป็นแผลยาว นอนอาการสาหัสอยู่ที่หน้าประตูทางเข้าร้านบุฟเฟต์สุกี้ชื่อดังย่านเลียบด่วนรามอินทรา ซอยประดิษฐ์มนูธรรม 19 แขวงและเขตลาดพร้าว กรุงเทพ ก่อนจะเสียชีวิตในช่วงประมาณ ตี 4 ที่ผ่านมา

จากการสอบถามพนักงานในร้าน ทราบว่า ผู้เสียชีวิตมักจะมาโบกรถหาเงินจากลูกค้าที่มาใช้บริการที่ร้าน แต่ไม่ได้เป็นพนักงานหรือลูกจ้างของร้าน ก่อนเกิดเหตุผู้เสียชีวิตเมาสุรา และมีปากเสียงกับแม่บ้านของร้านสุกี้ เพราะนำขยะมาทิ้งหน้าร้าน จนเกิดเหตุทะเลาะวิวาท และต่อยหน้าแม่บ้านจนบวมช้ำ แม่บ้านจึงโทรบอกสามี คือ นาย วราพงษ์ พิมพ์แน่น อายุ 44 ปี สามีมาที่ร้านพร้อมเพื่อนอีก 1 คน แล้วเกิดมีปากเสียงกัน ก่อนจะใช้มีดแทงผู้ตายเสียชีวิต

ล่าสุดนาย วราพงษ์ ผู้ก่อเหตุ เข้ามอบตัวแล้วพร้อมกับเพื่อนที่มาด้วยกัน เบื้องต้นนาย วราพงษ์ รับสารภาพ ว่า ลงมือก่อเหตุเพราะบันดาลโทสะ เนื่องจากผู้ตายโวยวายจนมีปากเสียงทะเลาะวิวาทกัน และมีการผลักกันไปมา จึงใช้มีดปลายแหลมที่พกมาแทง  

เบื้องต้นเตรียมแจ้ง 2 ข้อกล่าวหา คือ ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และพกอาวุธมีดไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ก่อนจะนำตัวไปขออำนาจศาลอาญาไปฝากขังวันพรุ่งนี้  ส่วนเพื่อนที่มาด้วยถูกกกันเป็นพยาน เพราะไม่ได้ร่วมก่อเหตุ

ส่วนภรรยาของผู้ต้องหา พบว่ามีรอยฟกช้ำตามหน้า ถูกทำร้ายจริง โดยภรรยาผู้ก่อเหตุให้การว่า ผู้ตายดื่มสุราจนมีอาการมึนเมา และเอาขยะมาทิ้งหน้าร้าน เธอจึงเข้าไปต่อว่า แต่ผู้ตายไม่พอใจ เกิดมีปากเสียงกันและทำร้ายเธอ จึงโทรไปห้องสามี กระทั่งเกิดเหตุสลด