เร่งล่าเมียนมา ยิงนายจ้างเมียดับ ก่อนขโมยรถหนี เมียขอโทษครอบครัวนายจ้าง เชื่อตั้งใจปีนบ้านมาฆ่าเธอ

เมื่อวันที่ 10 พ.ค.68 เกิดเหตุชายชาวเมียนมา วัย 23 ปี ยิงเจ้าของบ้าน วัย 70 ปี เสียชีวิตในบ้าน ก่อนจะขโมยรถยนต์ผู้ตายขับหนีไปชนรถชาวบ้านอีกหลายคัน ล่าสุดทีมข่าวได้วงจรปิดเส้นทางหลบหนีของคนร้ายมาแล้ว


เหตุฆาตกรรมครั้งนี้เกิดขึ้นช่วงเย็น วันที่ 10 พ.ค.68 ตำรวจ สน.เพชรเกษม รับแจ้งเหตุชายถูกยิงเสียชีวิต ภายในบ้านพักส่วนตัวซึ่งมีเนื้อที่กว่า 10 ไร่ อยู่ที่ซอยร่มไทร 12 แยก 13 แขวงหลักสอง เขตบางแค กรุงเทพฯ ที่เกิดเหตุมีบ้านปลูกติดกันหลายหลัง บริเวณหน้าเรือไทยริมน้ำพบศพ นายยุทธโรจน์ อายุ 70 ปี ถูกยิงกระสุนเข้าที่กลางลำคั 1 นัด เสียชีวิตคาที่ และบริเวณคอและลำตัวมีรอยข่วนด้วย


จากการสอบสวนของตำรวจทราบว่า ภายในบ้าน ขณะก่อนเกิดเหตุอยู่กัน 3 คน คือ นายยุทธโรจน์ ผู้เสียชีวิต แม่ผู้เสียชีวิต และแม่บ้าน จากนั้นนายไสหวน อายุ 23 ปี ชาวเมียนมา แอบปีนเข้ามาในบ้าน เพื่อมาหาภรรยาที่ทำงานเป็นแม่บ้านดูแลแม่ของผู้เสียชีวิต และกำลังตั้งท้องได้ 5 เดือน


เมื่อคนร้ายปีนเข้ามาแล้วผู้เสียชีวิตเห็น จึงมีปากเสียงกัน ก่อนที่ผู้เสียชีวิตจะเอาปืนลูกโม่ขนาดจุด 38 ออกมาขู่ ทำให้คนร้ายเข้ามาแย่งปืนแล้วมีเสียงปืนดังขึ้น 2 นัด 1 นัดเข้ากลางลำตัวผู้ตาย เสียชีวิต จากนั้นผู้ก่อเหตุหยิบปืนวิ่งไปขึ้นรถยนต์ฮอนด้า รุ่นซีอาร์วี สีบอร์นเทา ทะเบียน ชท 7040 กรุงเทพมหานคร ของผู้ตายขับหลบหนีไป


นี่คือกล้องวงจรปิดที่ทีมข่าวได้มา จะเห็นว่าประมาณ 5 โมง 10 นาที ของเมื่อวันที่ 10 พ.ค.68 คนร้ายได้ขับรถยนต์ของผู้ตายออกมาจากบ้าน ลักษณะการขับรถเหมือนคนขับรถไม่คล่อง ขับผิดเลนถนน ก่อนจะมุ่งหน้าเพื่อไปออกปากซอย หลบหนีมุ่งหน้าไปถึงแยกไฟฉาย และได้ขับชนรถของชาวบ้านอีก 3 คัน ก่อนจะขับหลบหนีไป


จากเหตุการณ์นี้ทางเพจ ท่านเปา ยังลงคลิป รถจักรยานยนต์ขับตามรถ CRV คันที่ผู้ก่อเหตุใช้ขับหลบหนี บอกว่า "ด่วน ใครพบเห็นรถซีอาร์วี ชท.7074 โทรแจ้ง 191 คนขับเป็นคนพม่า เพิ่งยิงคนตายและขับชนรถชาวบ้าน 3 คันและหลบหนี เกิดเหตุบริเวณ สามแยกไฟฉาย กทม."


วันนี้ทีมข่าวลงพื้นที่บ้านหลังเกิดเหตุ พบว่าประตูบ้านปิดมิดชิด แต่กำแพงสังกะสีข้างประตู มีช่องโหว่ ตำรวจเชื่อว่านี่จะเป็นจุดที่คนร้ายใช้ปีนเข้าไปในบ้าน


ทีมข่าวได้คุยกับพยานที่เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ช่วงเย็นวานนี้ ระหว่างที่นั่งทำงานอยู่ในบ้านเห็นรถแท็กซี่สีเขียวเหลืองขับเข้ามา จากนั้นชายคนก่อเหตุลงจากรถ เดินเข้ามาในบ้านของของเขา เอากระเป๋าเป้มาวาง และพยายามสอบถามว่ามีทางไหนที่เข้าไปด้านในบ้านหลังเกิดเหตุได้บ้าง จึงตอบไปว่า เข้าไม่ได้ จะเข้าไปทำไม คนก่อเหตุบอกว่าจะมาหาแฟนที่ทำงานด้านใน จึงบอกให้โทรศัพท์ไปหาสิ แต่คนก่อเหตุไม่ฟัง แล้วก็งัดกำแพงสังกะสีด้านข้างประตูรั้ว และปีนเข้าไป


เขาจึงโทรศัพท์ไปบอกผู้เสียชีวิต แต่ไม่มีใครรับสาย แล้วประมาณ 10-20 นาที ก็ได้ยินเสียงปืนดัง 2 นัด ด้วยความตกใจจึงพยายามโทรหาผู้ตายอีก แต่ก็ไม่มีใครรับสาย จึงโทรไปหาลูกจ้างเก่าของผู้เสียชีวิตให้ประสานครอบครัวผู้เสียชีวิต แต่ระหว่างนั้นประตูบ้านก็เปิดออก และเห็นผู้ก่อเหตุขับรถยนต์ของผู้เสียชีวิตออกไป


ทีมข่าวได้คุยกับภรรยาของฆาตกร บอกว่า อยากจะขอโทษกับทางครอบครัวของนายจ้างที่ต้องมาเสียชีวิตในครั้งนี้ เธอมาทำงานดูแลแม่ของผู้ตายตั้งแต่วันที่ 28 เมษายนที่ผ่านมา


ก่อนหน้านี้ นายไสหาน สามี เคยมาหาเธอ 1 ครั้ง เพื่อมาขอเงินไปซื้อเหล้า ก่อนหน้านี้เธอเคยคุยกับนายจ้างว่าจะให้แฟนมาทำงานด้วยกัน นายจ้างก็ตกลงรับเข้าทำงาน แต่พอเล่าถึงพฤติกรรมแฟน ทำให้นายจ้างเปลี่ยนใจ


ก่อนเกิดเหตุสามีโทรศัพท์มาหา บอกว่าจะเข้ามาฆ่าเธอ จึงเล่าให้นายจ้างฟัง แล้วสักพักสามีก็ปีนรั้วเข้ามาจริง ๆ นายจ้างจึงเอาอาวุธปืนออกไปขู่ แต่สามีแย่งปืน แล้วกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันทำให้ปืนลั่นถูกนายจ้างเสียชีวิต


ขณะที่ พันตำรวจเอก ปราโมทย์ จันทร์บุญแก้ว ผู้กำกับการ สน.เพชรเกษม เปิดเผยเส้นทางการหลบหนีของคนร้าย ระบุว่า คนร้ายหลบหนีออกมาจากบ้านผู้ตายมาถึงแยกบ้านแขก แยกไฟฉาย ไปจนถึงพื้นที่ สน.สำราญราษฎร์ ไล่ชนรถยนต์คนอื่นจนป้ายทะเบียนหลุด และพิกัดสุดท้ายที่เจอ คือ รังสิต ปทุมธานี โดยตำรวจแกะรอยจากสัญญาณมือถือของผู้ตายที่อยู่ภายในรถยนต์ แต่ตอนนี้สัญญาณหายไปแล้ว เพราะแบตหมด แต่คาดว่าน่าจะติดตามจับได้เร็ว ๆ นี้


ส่วนร่างผู้ตายครอบครัวขอฝากไว้ที่หน่วยนิติพยาธิ ภาควิชานิติเวชศาสตร์ โรงพยาบาลศิริราชก่อน แล้วในวันพรุ่งนี้ทางญาติจะเดินทางมารับร่างเพื่อไปประกอบพิธีทางศาสนา ที่วัดย่านเจริญนคร ส่วนการให้สัมภาษณ์ทางครอบครัวยังไม่พร้อม เนื่องจากยังเสียใจและตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/bARCy0zCiU8