จ่าทหารหึงโหด มีปากเสียงภรรยา ก่อนยิงดับต่อหน้าลูก

เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมาเกิดเหตุ จ.ส.อ.ทวีศักดิ์ ทหารสังกัดค่ายแห่งหนึ่งในจังหวัดราชบุรี ได้ใช้อาวุธปืนยิง นางสาวณัฐญา อายุ 28 ปี ภรรยาตัวเองเสียชีวิต ภายในห้องนอน ซึ่งเป็นบ้านปูนชั้นเดียวเปิดเป็นร้านขายของชำ ม.5 ท่าชุมพล อ.โพธาราม สภาพศพสวมใส่ชุดนอน ถูกอาวุธปืนขนาด 9 มม. เข้าที่ ใต้ตาข้างซ้ายทะลุออกหลังศีรษะ นอนเสียชีวิตจมกองเลือด บนหัวเตียงพบปลอกกระสุนขนาดเดียวกันตกอยู่ 1 ปลอก เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้ป็นหลักฐาน

และได้ข้อมูลว่า จ.ส.อ.ทวีศักดิ์ แต่งงานอยู่กินกับ น.ส.ณัฐญา มานานหลายปี และก่อนจะเกิดเหตุทั้งคู่ได้มีปากเสียงทะเลาะกันอย่างรุนแรง เนื่องจากที่ผ่านมานั้นฝ่ายชายอ้างว่าจับได้ว่า ภรรยาแอบมีกิ๊กจึงบอกให้เลิก จากนั้นทั้งคู่ก็แยกกันอยู่ แต่ในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมานั้น ฝ่ายชายได้ไปง้อขอคืนดีกับภรรยาและให้กลับมาอยู่ที่บ้านด้วย แต่ก็ยังมีทะเลาะกันอยู่

จนช่วงกลางดึกวันเกิดเหตุ ฝ่ายชายไปนั่งดื่มสุรากับเพื่อนๆ และโทรให้ผู้ตายออกไปรับแต่ผู้ตายนั้นอ้างว่านอนอยู่กับลูก ฝ่ายชายจึงให้เพื่อนไปส่ง แต่เมื่อถึงบ้าน จ.ส.อ.ทวีศักดิ์ มีปากเสียงทะเลาะ กับภรรยารุนแรง และบันดาลโทสะ ปิดไฟห้องนอน แล้วชักปืน จ่อยิงภรรยาตัวเองจนเสียชีวิต ระหว่างนั้น น้องสาว จ.ส.อ.ทวีศักดิ์ พยายามที่จะเข้าไปแย่งปืนและไม่สำเร็จ

หลังเกิดเหตุได้หลบหนี ก่อนสำนึกผิดขอเข้ามอบตัว โดยตำรวจได้ควบคุมตัวมาชี้จุด ที่เก็บซ่อนปืน และยึดปืน มาตรวจสอบเพื่อใช้ประกอบในการดำเนินคดี แต่ยังไม่ได้มีการสอบปากคำผู้ต้องหาแต่อย่างใด เนื่องจากผู้ต้องหานั้นเป็นทหาร ในการสอบปากคำจึงต้องเชิญนายทหารรัฐธรรมนูญ มาร่วมสอบปากคำด้วย

จากการสอบถามเพื่อนของ จ.ส.อ.ทวีศักดิ์ ก็ให้ข้อมูลว่า จ.ส.อ.ทวีศักดิ์ หรือจ่าเบิร์ด นั้นเป็นคนจิตใจดี เป็นคนพูดจาดีรักลูกกับเมียมาก แต่ที่ผ่านมาก็พอจะรู้ว่าจ่าเบิร์ดนั้นมีปากเสียงกับภรรยาบ่อย เพราะภรรยานั้นต้องกลับไปอยู่บ้านของตนเองเพื่อไปดูแลพ่อกับแม่ที่ป่วย และทราบมาจากคนอื่นว่าภรรยาของจ่าเบิร์ดน่าจะมีคนอื่น ซึ่งก็ยังไม่แน่ใจว่าใช่เรื่องจริงหรือไม่ ที่ผ่านมาผู้ตายกลับไปอยู่บ้านของตนเอง และจ่าเบิร์ดก็ไปตามกลับมาเพราะเป็นห่วงลูกสาวอายุ 5 ขวบ ที่ป่วยเป็นโรคลมชัก จึงอยากจะให้ทั้งพ่อและแม่นั้นอยู่ใกล้ชิดลูก ส่วนเรื่องที่จ่าเบิร์ดยิงเมียตัวเองตายนั้น เชื่อว่าน่าจะมาจากเรื่องบันดาลโทสะ และอาจจะเครียดปัญหาส่วนตัว และยืนยันว่าจ่าเบิร์ดไม่ใช่คนใจร้อน และเป็นคนดีสำหรับเพื่อนๆ พี่น้องตลอด

หลังจากนั้น นายสัมฤทธิ์ อายุ 65 ปี พ่อผู้ต้องหาพร้อมทั้งญาติและเพื่อนผู้ต้องหาเดินทางเข้าเยี่ยมที่ สภ.โพธาราม โดยมีอาการที่เศร้าโศกร้องไห้ตลอดเวลา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้าเยี่ยมแต่ให้อยู่ในระยะที่กำหนด โดยพ่อผู้ต้องหาได้กล่าวว่า เข้ามาเยี่ยมลูกชายแต่ยังไม่ได้เจอ เขาไม่ให้เข้าไปอยู่ใกล้ หูก็ไม่ดี คุยกันไม่รู้เรื่องอยากจะเห็นหน้าลูก อยากจะลูบหัวมันอยู่ในบ้านหลังเดียวกันแต่อยู่คนละห้อง เขายิงกันไม่รู้เรื่องเลย เพราะถอดหูฟังออก ปัญหาต่างๆ ก็ไม่เคยเล่าให้ฟัง ลูกสะใภ้ก็ไม่น่ามาตายเลย พ่อไม่อยากให้เกิดเรื่องเช่นนี้ ไม่น่าเอาหน้าที่การงานมาทิ้ง สงสารหลาน ไม่น่าคิดแบบนี้เลย







โดยในวันพรุ่งนี้ (21 เม.ย.68) เจ้าหน้าที่จะทำการสอบปากคำ ก่อนที่จะส่งตัวผู้ต้องหาไปทำการขออำนาจศาลฝากขัง



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/wj8R0IFhXeU