อาชญากรรม

ผช.ผบ.ตร. ยันไม่มี ตร.อยู่ในที่เกิดเหตุยิง 'สจ.โต้ง' หลักฐานมี เร่งสอบวงจรปิดคลี่คดี

โดย panwilai_c

14 ธ.ค. 2567

123 views

ตำรวจกองปราบประชุมติดตามคดี สจ.โต้ง ถูกยิงในบ้าน โกทร พร้อมเรียกตำรวจติดตาม สจ.โต้ง มาสอบปากคำ



ความคืบหน้าคดี สจ.โต้ง หรือนายชัยเมศร์ อายุ 49 ปี โปรโมเตอร์มวยผู้กว้างขวาง ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพักของ นายสุนทร วิลาวัลย์ หรือโกทร นายก อบจ.ปราจีนบุรี ช่วงค่ำวันที่ 11 ธันวาคม ที่ผ่านมา หลังเข้าไปเคลียร์ปัญหา ซึ่งคาดว่าน่าจะเกี่ยวโยงกับประเด็นการเมืองท้องถิ่น เนื่องจากก่อนเกิดเหตุมีคลิปเสียงการสนทนากันของทั้ง 2 ฝ่าย



ซึ่งต่อมาตำรวจจับกุม โกทร และลูกน้องรวม 7 คน และเมื่อวานนี้ได้นำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังต่อศาลจังหวัดปราจีนบุรีแล้วนั้น



เมื่อช่วงสายที่ผ่านมา บรรยากาศโดยทั่วไป ที่สภ.เมืองปราจีนบุรี พบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองปราบปรามจำนวนหลายนาย เดินทางมาเพื่อประชุมวางแผนในการสอบสวน เนื่องจากขณะนี้ทางชุดสืบสวนกองปราบปรามได้ลงพื้นที่เก็บรวบรวมข้อมูล พร้อมหลักฐานในคดีนี้



พร้อมกันนี้มีรายงานว่า มีการเรียกดาบตำรวจ ผู้ติดตาม สจ.โต้ง ที่อยู่ในเหตุการณ์มาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน กองปราบปราม และพนักงานสอบสวน สภ.ปราจีนบุรี ด้วย



ด้านพลตำรวจตรีภูมินทร์ สิงหสุต ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปราจีนบุรี เผยว่า ขณะนี้สอบปากคำพยานแวดล้อมไปแล้ว 4 ปาก คือ ลูกเขยของโกทร หลานโกทร และแม่บ้านที่ สจ.จอย ภรรยาของ สจ.โต้ง โทรไปให้ไปช่วยดูแล สจ.โต้ง รวมถึงแม่บ้านอีก 1 คน แต่ไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ



ส่วนตำรวจที่อยู่ในกลุ่มดูแลความปลอดภัยให้ สจ.โต้ง พบว่า มีตำรวจ 4 คน และขณะนี้อยู่ระหว่างการขยายผลว่าจะมีใครกระทำความผิดเพิ่มเติมอีกบ้าง ซึ่งยืนยันว่าการทำคดีจะทำตามข้อเท็จจริงไม่เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง



ขณะเดียวกัน ตำรวจภูธรจังหวัดปราจีนบุรี ได้ประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดปราจีนบุรี มาตรวจสอบรถอัลพาร์ดของโกทร ที่ตรวจยึดไว้เป็นของกลาง หลังจากพบร่องรอยบริเวณไฟท้ายด้านขวาแตกเป็นรูขนาดใหญ่ ซึ่งจะนำมาเปรียบเทียบกับวิถีกระสุน เพื่อหาว่ารอยแตกดังกล่าวเกิดจากกระสุน หรือเกิดจากอะไร รวมถึงเพื่อตรวจสอบหาพยานหลักฐาน ร่องรอยต่างๆ เพิ่มเติมภายในรถด้วย



ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เผยความคืบหน้าคดียิง สจ.โต้ง มีความคืบหน้าไปมาก พร้อมยืนยัน ไม่มีตำรวจอยู่ในที่เกิดเหตุ ส่งเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบกล้องวงจรปิด ขณะที่รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางก็พร้อม หากมีการโอนสำนวนมาให้กองปราบปรามดำเนินการ



พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงความคืบหน้า คดีการเสียชีวิตของนายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ หรือ สจ.โต้ง ว่า ขณะนี้มีความคืบหน้าเป็นอย่างมาก ในบางประเด็นมีความกระจ่างชัดเจน และอยู่ระหว่างเรียกผู้อยู่ในเหตุการณ์ที่เหลือมาสอบปากคำให้ครบประเด็น และขอให้เชื่อมั่นการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ แม้จะมีกระแสข่าวว่ามีการละเว้นบุคคลใดบุคคลหนึ่งไม่เรียกสอบปากคำก็ตาม



ส่วนประเด็นที่ก่อนหน้านี้ทีมีการระบุว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ภายในบ้านนั้น พล.ต.ท.อัคราเดช ยืนยันว่า ไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในที่เกิดเหตุ อย่าไปฟังข่าวลวงหรือกลุ่มผู้ไม่หวังดี ใครจะหิวแสงจินตนาการอย่างไรอย่าหลงเชื่อ ขอให้ยึดมั่นในพยานหลักฐานที่แท้จริง



ซึ่งการทำคดีนี้ไม่มีอะไรที่ต้องวิตกกังวล ยืนยันไม่ใช่เป็นการบันดาลโทสะ แต่เป็นการวางแผนมาแล้ว ซึ่งจะต้องตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่อยู่ภายในที่เกิดเหตุ โดยได้สั่งการกองพิสูจน์หลักฐาน เข้าไปกู้ข้อมูลโดยใช้ตามหลักทางวิทยาศาสตร์แล้ว



และหลังจากนี้ จะให้ทางกองบังคับการปราบปรามทำเรื่องขอเสนอผู้บังคับบัญชาให้เป็นผู้ดำเนินการรับผิดชอบคดีดังกล่าว เนื่องจากเป็นคดีร้ายแรง สะเทือนขวัญ และเป็นคดีสำคัญ อีกทั้งผู้ร่วมก่อเหตุมีประวัติอาชญากรรมหลายคดี โดยจะมีประชุมคดีอีกครั้งภายในสัปดาห์หน้า



ส่วนประเด็นความคืบหน้าการโอนสำนวนนั้น พลตำรวจตรี สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยผ่านทางโทรศัพท์ว่า หลังจากเมื่อวานนี้ที่ นางสาว ณภาภัช อัญชสาณิชมน หรือ สจ.จอย ภรรยาของ สจ.โต้ง ได้ยื่นเอกสารขอให้โอนสำนวนคดีการเสียชีวิตของสามีมาที่กองบังคับการปราบปราม เพราะเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยนั้น หลังรับเรื่อง ทางตำรวจสอบสวนกลางก็ได้รายงานไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งทราบมาว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างรอคำสั่งอย่างเป็นทางการจากทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งคาดว่าจะมีความชัดเจนในช่วงต้นสัปดาห์หน้า



ทั้งนี้หากมีการโอนสำนวนมานั้น ก็ได้จัดชุดทำคดีนี้ไว้แล้ว โดยมอบหมายให้กองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปรามเป็นผู้รับผิดชอบ เนื่องจากเอกสารที่ สจ.จอยยื่นมานั้น เข้าหลักเกณฑ์ที่ตำรวจสอบสวนกลางกำหนดไว้ เพราะเป็นคดีที่มีความซับซ้อน ผู้ต้องหาเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่



ขณะเดียวกัน ก็มีรายงานจากตำรวจคลี่คลายคดี คาดว่า ขณะเกิดเหตุน่าจะมีคนอยู่ภายในบ้านมากกว่า 7 คน แต่อยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐานโดยกล้องวงจรปิด ขณะนี้ยังไม่สามารถตรวจสอบได้ ซึ่งมีรายงานว่า น่าจะมีตำรวจ อยู่ในบ้าน 1 นาย แต่ลาออกจากราชการแล้ว อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าได้เดินออกมาก่อนเกิดเหตุ หรืออยู่ในบ้านขณะเกิดเหตุ



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/2jhsGdYVcL4

คุณอาจสนใจ

Related News