อาชญากรรม
2 ฝั่ง 2 มุม โต้กันเดือด สางแค้นด้วยปืน เมียคนเจ็บร้อง ถูกหลานเจ้าของที่ยิงสาหัส
โดย JitrarutP
29 พ.ย. 2567
69 views
วันที่ 29 พ.ย. 67 รายการโหนกระแสพูดคุยกรณี ข้อพิพาทระหว่าง 2 บ้าน โดยฝ่ายหนึ่งเป็นบริษัทขนส่ง ที่มาเช่าอะพาร์ตเมนต์ ในพื้นที่ ต.ละหาร อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี โดยเป็นอะพาร์ตเมนต์ของครอบครัวนายฮาริด เป็นผู้ดูแล แต่สองฝ่ายมีปัญหาบาดหมาง ทะเลาะเบาะแว้งกันมาตลอด จนมามีเรื่องถึงขั้นยิงกันบาดเจ็บ
คุณอ้อ อายุ 39 ปี ภรรยาของนายอ่ำ ผู้บาดเจ็บที่ถูกยิง ได้มาร้องขอความเป็นธรรม เล่าเหตุการณ์ พร้อมนำภาพจากกล้องวงจรปิด วินาทีเกิดเหตุที่ นายฮาริด อายุ 29 ปี ก่อเหตุยิงนายอ่ำ ที่บริเวณหน้าบ้านของครอบครัวนายฮาริด ซึ่งก็เป็นพื้นที่ที่นายอ่ำได้เช่าทำธุรกิจขนส่ง
จุดเริ่มต้นของเรื่องนี้ นายฮาริดได้จ้างช่างมาติดกล้องวงจรปิดในลานจอดรถ ซึ่งมีรถขนส่งของนายอ่ำจอดอยู่ ซึ่งนายอ่ำกลัวว่าเศษเหล็ก เศษไฟ จะกระเด็นใส่รถยนต์ที่จอด จึงวิ่งมาโวย บอกให้นายฮาริดหยุด จะเอารถยนต์ออกจากพื้นที่ แต่นายฮาริดไม่ยอม และด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย จึงมีปากเสียงกันตามคลิป
นายฮาริดท้าทายให้นายอ่ำเข้ามาชกต่อยกับตัวเอง จังหวะนั้นนายอ่ำกำลังก้าวขาไป นายฮาริดก็ยิงใส่ทันที โดยกระสุนเข้าที่ขาข้างซ้ายลงไปนอนกองกับพื้น แม่ของนายฮาริดอยู่ในที่เกิดเหตุ เข้าไปห้ามลูกชายให้เข้าบ้าน จากนั้นภรรยา และลูกน้องของนายอ่ำก็รีบเข้ามาช่วยเหลือ พาส่งโรงพยาบาล
โดยคุณอ้อ ภรรยาคุณอ่ำว่า ตนและสามีมาทำธุรกิจรถขนส่ง เช่าพื้นที่ตรงนี้ของครอบครัวผู้ก่อเหตุมานานเกือบ 2 ปีแล้ว ต่อมาเจ้าของที่ซึ่งมีศักดิ์เป็นลุงของนายฮาริด ได้แบ่งขายพื้นที่บางส่วนให้กับครอบครัวตน แต่ตนก็ยังเช่าพื้นที่บางส่วน สำหรับจอดรถขนส่ง และให้คนงานพักอาศัย ซึ่งอยู่บริเวณหน้าบ้านของนายฮาริด ซึ่งจริงๆ แล้ว นายอ่ำและนายฮาริด หลานชายเจ้าของที่ดิน มีปัญหากันมาตลอด
คุณอ้อกล่าวอีกว่า นายฮาริดมักเป็นคนมาก่อกวนก่อน เพราะไม่พอใจที่ซื้อที่ดินของครอบครัวไป หนำซ้ำยังบอกไม่ให้ทำกำแพงบ้านด้วย ซึ่งตนและครอบครัวก็สงสัยว่าทำผิดอะไร เพราะตนก็ซื้อที่ดินมาจากลุงของนายฮาริด ที่เพิ่งมาเสนอขายให้เอง
จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ มีปากเสียงกันเมื่อวันที่ 23 พ.ย. ปมเรื่องนายฮาริดให้คนมาทำหลังคาที่จอดรถ ทั้งที่รถขนส่งของทางบริษัทจอดอยู่ ใต้หลังคา จึงทำให้มีปากเสียง และได้ชักปืนยิงสามีบาดเจ็บสาหัส รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล โดยแพทย์ยังต้องทำการผ่าตัด เพราะกระดูกหักจากกระสุนปืน สิ่งที่ตนกังวลคือสามีจะไม่สามารถกลับมาเดินได้ปกติเหมือนเดิม
ส่วนเรื่องคดีความพอไปแจ้งความปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งหมายเรียกมาที่บ้านตนว่าสามีบุกรุกบ้านนายฮาริด ทั้งที่สามีนอนยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล
ขณะที่นายอ่ำ โฟนอินเข้ามาเล่าเหตุการณ์ว่า จริงๆ ตนกับฮาริดสนิทสนมกันมาก่อน เมื่อก่อนก็เตะตะกร้อด้วยกัน ช่วยกันดูแลอะพาร์ตเมนต์กันมาตลอด แต่มามีเรื่องก็เพราะว่า นายฮาริดเขาเคยมาเตือนว่า ลูกน้องบริษัทตนชอบตั้งวงดื่มเหล้าหลังเลิกงาน ด้วยความที่ครอบครัวของนายฮาริด เขารับถือศาสนาอิสลามทำให้เขาไม่สบายใจเรื่องการมาตั้งวงดื่มเหล้าในพื้นที่ แล้วก็ทักท้วงเรื่องเสียงดัง ตนก็บอกเขาไปแล้วว่า จะจัดการเรื่องเสียงดังให้ แต่เขาก็ไม่พอใจด่าตนหยาบคายมาตลอด และมีการท้าทาย
ยอมรับว่าเคยชกต่อยกับนายฮาริดมาก่อนจะเกิดเรื่อง แต่เป็นเพราะนายฮาริดหาเรื่องตนก่อน ท้าทาย อะไรต่างๆ ตนก็เป็นคนที่ทำบุญมาตลอดชีวิต ไม่เคยไปหาเรื่องเขา ถึงขั้นที่เขามาบอกว่า ขอตบเราครั้งหนึ่งแล้วจะจบเรื่องกัน ตนเป็นถึงเจ้าของบริษัท ก็ยอมให้เขาตบ ให้เขาสัญญาว่าตบแล้วจะไม่หาเรื่องเราอีก เขารับปาก แล้วก็ตบเรา
เรายังบอกให้ภรรยาเขาเป็นพยานด้วย ว่าเราจะไม่ไปแจ้งความ แต่สุดท้ายเขาก็ยังกลับมาหาเรื่องอีก แม้แต่ลูกน้องเซอร์ไพรส์วันเกิดเรา ร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ธเดย์ให้เรา เขาก็จะตะโกนสวนกลับมาแจกของลับอะไรต่างๆ นานา วันที่เกิดเรื่องเขาอ๊อกเหล็ก ติดกล้องวงจรปิดนานมาก สะเก็ดไฟมันจะหล่นลงมาโดนรถ เราดูอยู่นานแล้ว แทนที่เขาจะมาตามเรา ให้ลูกน้องไปเลื่อนรถก่อน แต่เขาก็ไม่ทำ เราก็เลยต้องเข้าไปพูด แต่สุดท้ายก็โดนยิง
ขณะที่ คุณกัญญาณัฐ อายุ 60 ปี มะ (แม่) ของนายฮาริด (ผู้ก่อเหตุ) และเป็นคนที่อยู่ในเหตุการณ์วันที่เกิดเหตุด้วย มะ เล่าว่าในวันที่เกิดเหตุนั้น ตนอยู่ในเหตุการณ์และก็เป็นคนที่พยายามห้ามไม่ให้ทั้งสองฝ่าย มีปัญหากัน จุดเริ่มต้นมาจากการที่ก่อนหน้านี้ ฝ่ายนายอ่ำเคยข่มขู่ครอบครัว ว่าจะขับรถชนลูกหลานถึงตายก็ไม่กลัว เพราะมีประกัน ลูกชายจึงได้นำกล้องวงจรปิดมาติด ซึ่งเป็นลานจอดรถของบ้านตนเอง ขณะที่ช่างกำลังติดกล้องวงจรปิดโดยขึ้นไปปีนบนหลังคา และลูกชายเป็นคนช่วยส่งอุปกรณ์ติดวงจรปิดให้กับช่าง พอนายอ่ำเห็น ก็รีบวิ่ง มาที่ หน้าบ้านตนแล้วสาดคำด่าใส่สารพัดสัตว์ และยังบอกอีกว่าการติดกล้องวงจรปิดมันผิดกฎหมาย และบอกอีกว่าการอ๊อกเหล็ก จะมาถูกรถยนต์ที่จอดอยู่ใต้หลังคา ลูกชายจึงสอบถามว่าแล้วรถยนต์คันที่มาจอดเป็นของใคร นายอ่ำก็ไม่ยอมบอก พูดว่ามันเรื่องของกู ลูกชายก็บอกว่ามึงไม่บอกกูกูก็ไม่รู้ว่ารถใครแล้วกูจะไปบอกใครได้ว่าให้ถอยรถออก
หลังจากนั้นทั้งสองฝ่ายก็ชกต่อยกัน ลูกชายก็วิ่งเข้ามาในบ้าน ตนก็เป็นคนไปพูดคุยกับ นายอ่ำ โดยบอกขอโทษในอ่ำ ว่าตนผิดเองที่ไม่ได้ไป บอกก่อนว่าจะให้ช่างมาติดกล้องวงจรปิด เพื่อให้ นายอ่ำได้เคลื่อนย้ายรถออกจากชายคา จากนั้นในอ่ำก็ยังไม่หยุดก็ยังเข้าไปต่ออีกกับลูกชายตน เป็นรอบที่ 2 จนกระทั่ง รอบที่ 3 ในอ่ำ ได้เอารองเท้าเขวี้ยงเข้าไป ในบ้านของตน ซึ่งถูกขาลูกสะใภ้ แล้วกระเด็นไปโดนหลาน หลังจากนั้น ลูกชายบอกกับนายอ่ำว่าให้ ออกไป ต่างคนต่างอยู่ เพราะไม่ไหวแล้ว คล้ายว่าเดี๋ยวจะควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้
ฝั่งของนายอ่ำก็ยังไม่กลับไป ยืนด่าทอลูกชายตน ตนก็พยายามห้าม ให้นายอ่ำ กลับไปที่บ้าน แล้วก็ให้ลูกชายเข้าบ้าน แต่จังหวะที่นายอ่ำทำท่าทางจะเข้าไปต่อยลูกชายอีกครั้ง ลูกชายจึงลั่นไกลโดยยิงลงพื้น และถูกขาของนายอ่ำ ซึ่งลูกชายก็บอกกับตนว่า ที่ยิงเพราะต้องป้องกันตัว ตอนที่นายอ่ำจะเข้ามาชกต่อย ตอนนั้นสังเกตเห็นว่าลูกน้องของนายอ่ำยืนรอ อยู่รอบบ้าน คิดว่า จะต้องเข้ามารุมกระทืบตนแน่เลย จึงยิงปืนขู่ก่อน แต่กระสุนไปโดนเข้าที่ขาของนายอ่ำ
จากนั้นตนจึงไล่ให้ลูกชายเข้าไปในบ้าน แล้วก็ไปดูนายอ่ำ และสอบถามนายอ่ำว่าเป็นยังไงบ้างในอ่ำก็บอกว่าไม่เจ็บและเลือดก็ไม่ออกเลย แล้วบอกขอโทษ บอกแล้วว่าให้ออกไปแต่นายอ่ำไม่ยอมออก และไม่มีใครฟังตนเลย ที่ผ่านมาเจอปัญหานายอ่ำและลูกชาย ทะเลาะกันอยู่เป็นประจำ มีเรื่องชกต่อยกันอยู่เรื่อยๆ ตนพยายามห้าม แต่ไม่เคยมีใครฟัง ทั้งนายอ่ำที่ชอบเปิดเพลงเสียงดัง ทำให้ที่บ้านรำคาญ และลูกชายก็ชอบไปด่าทอเขา
แท็กที่เกี่ยวข้อง โหนกระแส ,รายการโหนกระแสล่าสุด ,สางแค้นด้วยปืน