‘ผู้สูญเสีย’ เผย ต้องค้นวงจรปิด หาตัวผู้ก่อเหตุกันเอง ถึงรู้ ‘แม่อดีตผจก.ฟุตบอล’ ขับรถชนป้าดับ

วันที่ 31 ต.ค. 65 รายการโหนกระแสพูดคุยกับ เอกชัย ผู้ติดตามเรื่องคดีความ, จอย นายจ้างของผู้เสียชีวิต, พร้อมด้วยครอบครัวของผู้เสียชีวิต และ ดร.มนต์ชัย จงไกรรัตนกุล ทนายความ ถึงกรณีแม่ของอดีตผู้จัดการทีมฟุตบอลชื่อดัง ขับรถชน “ป้าลิน” วัย 58 ปี เสียชีวิต ก่อนขับรถหนี

โดย เอกชัย ผู้ติดตามเรื่องคดีความ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาตนและฝั่งครอบครัวผู้สูญเสียต้องเดินเรื่องหาหลักฐานเองหมด ตั้งแต่วันเกิดเหตุ มีชาวบ้านในพื้นที่คอยจดทะเบียนรถคันก่อเหตุให้และยื่นให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เสม็ด จ.ชลบุรี แต่เมื่อตนให้ลูกน้องไปติดตามเรื่องความคืบหน้าที่โรงพัก ตำรวจดันบอกว่าไม่ทราบข้อมูล หลังจากนั้นตนและครอบครัวผู้สูญเสียต้องดำเนินเรื่องเองทั้งหมด โชคดีที่เจอนักข่าวในท้องที่สามารถถ่ายป้ายทะเบียนรถคันก่อเหตุไว้ได้

“ผมกลัวว่ามันจะช้า ผมก็เลยเสิร์ชข้อมูลให้เลย ว่าทะเบียนนี้ใครเป็นคนขับ รวบรวมทั้งภาพวิดีโอ ไฟล์ พร้อมเบอร์โทรของเจ้าของรถ ส่งให้ตำรวจเลย ตำรวจบอก เดี๋ยวช่วยตามให้ เดี๋ยวออกหมายเรียกให้”

พร้อมระบุด้วยว่า “ตำรวจเขาน่าจะติดงานมั้งครับ” ผู้ติดตามเรื่องให้คุณป้า กล่าว...

นอกจากนี้ยังเผยอีกว่า ทางครอบครัวผู้เสียชีวิตเรียกค่าชดเชย 1 ล้านบาท เพราะคุณป้าถือเป็นเสาหลักของบ้าน คุยเจรจาไกล่เกลี่ย แต่คู่กรณีบอกมี 3 แสน ไม่งั้นไปฟ้องร้องเอา


ขณะที่ “หนุ่ม กรรชัย” ผู้ดำเนินรายการ ได้เปิดเผยถึงกรณีนี้เพิ่มเติมว่า มีทนายรายหนึ่งโทรมาข่มขู่ทีมข่าวโหนกระแส และทีมข่าวเที่ยงวันทันเหตุการณ์ ซึ่งได้มีการบันทึกเสียงไว้หมดแล้ว พร้อมยืนยันว่าทีมข่าวนำเสนอตามข้อเท็จจริง กรณีนี้เป็นความทุกข์ของประชาชน ครอบครัวผู้เสียหายเดือดร้อน ก็ต้องรายงานตามข้อเท็จจริง

ส่วนกรณีที่ครอบครัวผู้สูญเสียต้องไปตามหากล้องวงจรปิด หาไฟล์ หาทะเบียนรถกันเอาเอง เอาข้อมูลไปส่งให้ตำรวจกันเองนั้น เป็นหน้าที่ของตำรวจหรือไม่? หวั่นบริบทสังคมจะเปลี่ยนไป สื่อทำหน้าที่นำเสนอข้อมูล ตำรวจเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ควรอำนวยความสะดวกให้ประชาชน