อาชญากรรม

เหยื่อแห่แฉ เต็นท์รถมหาภัย หลอกซื้อดาวน์รถ ผู้เสียหายเครียดจะกระโดดตึก พ้อ ตร.ไม่รับแจ้งความ

โดย thichaphat_d

26 ต.ค. 2565

442 views

โหนกระแสวันนี้ (26 ต.ค.65) พูดคุยกรณี ชายโดนเต็นท์รถหลอก แจ้งตำรวจแล้วไม่รับแจ้งความ หาว่ายักยอกทรัพย์ไฟแนนซ์ เครียดจนขึ้นไปกระโดดตึกลานจอดรถตำรวจหวังฆ่าตัวตาย สุดท้ายทราบว่ามีผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อเต็นท์ดังกล่าวอีกหลายคน วันนี้พูดคุยกับกลุ่มผู้เสียหาย และทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม

ผู้เสียหายเล่าว่า ได้ซื้อรถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิชิ ปาเจโร่ มาดาวน์ 160,000 น. ผ่อน 84 งวด งวดละ 19,700  บาท จนมาได้รับผลกระทบจากโควิด ตกงานทำให้ค้างค่างวดอยู่ 3 งวด สุดท้ายผ่อนต่อไม่ไหว เลยตัดสินใจนำรถไปขายให้เต็นท์รถ TTN CAR PREMIUM  แบบขายดาวน์

โดยตกลงรายละเอียดกับเต็นท์รถว่า เต็นท์จะจ่ายเงินดาวน์ 136,000 บาท แต่ทางเต็นท์ขอทำสัญญาว่า ขอเวลา 3 เดือน หากขายรถได้จะเปลี่ยนสัญญาให้ผู้ซื้อ แต่หากภายใน 3 เดือนยังขายไม่ได้ ก็จะเปลี่ยนสัญญานำรถเข้าเต็นท์ โดยในระยะเวลา 3 เดือนนี้ เต็นท์จะเป็นผู้จ่ายค่าผ่อนรถให้เอง หากผิดสัญญาจะชดเชยให้ 3 เท่า ตนเองจึงตกลง

วันรุ่งขึ้น คนของเต็นท์รถก็มารับรถไป เงินดาวน์ที่ได้มาก็นำไปจ่ายค่างวดที่ค้างไว้ทันที จนกระทั่งผ่านไป 1 สัปดาห์ มีคนโทรมาถามว่า ตนเป็นเจ้าของรถใช่หรือไม่ อ้างว่า ซื้อรถตนจากเต็นท์ที่นครสวรรค์ แต่เต็นท์ไม่ยอมโอน บอกว่าเจ้าของไม่ยอมโอนให้ ตนเอะใจติดต่อไปยังเต็นท์รถที่ซื้อรถตนไป ทางเจ้าของก็บอกว่าไม่ต้องไปสนใจ  เดี๋ยวเต็นท์จะจัดการเรื่องสัญญาให้ และได้นัดวันเปลี่ยนสัญญา

พอถึงวันก็เลื่อนนัด อ้างว่าเช็คไม่พร้อม โดยเลื่อนนัดถึง 3 ครั้ง หลังจากนั้นไม่สามารถติดต่อเต็นท์รถได้อีก ส่วนทางลูกน้องของเต็นท์รถก็บอกว่า รถไม่ได้อยู่ที่เต็นท์แล้ว จึงรู้ตัวว่าโดนหลอก ก็เลยไปค้นหาข้อมูลดู สืบจนทราบว่ารถอยู่ที่ไหน กับใคร ซึ่งบุลคคลดังกล่าวยืนยันว่าได้ซื้อรถตนมาอย่างถูกต้อง ในราคา 890, 000 บาท หากตนอยากได้คืน ก็ต้องจ่ายในราคานี้ ซึ่งนั่นเท่ากับตนต้องจ่ายเงินรวม 2 ล้านกว่า สำหรับรถคันเดียว ทำให้สามีของตนเครียดมาก จนจะไปกระโดดตึกตามที่เป็นข่าว

ก่อนหน้านี้ได้เคยพยายามจะไปแจ้งความแล้ว แต่แต่พนักงานสอบสวนไม่รับแจ้งความบอกแต่ว่ารถติดไฟแนนซ์ ตนพยายามอธิบายให้ฟังว่า เคลียร์ไฟแนนซ์แล้วแค่ยังไม่ได้เปลี่ยนสัญญา แต่ตำรวจก็ยังไม่รับแจ้ง สุดท้ายเลยทำได้แค่ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน  

ซึ่งทนายรณณรงค์ ได้ให้คำแนะนำว่า ถ้าจะไปแจ้งความต้องใช้คำพูดให้ถูก มิเช่นนั้นเราจะโดนแจ้งข้อหายักยอกเสียเอง

“เรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนมันมีประเด็นพลิกกันนิดเดียว อย่างแรกเลยคือการซื้อขายรถที่เราติดสัญญาสินเชื่อไฟแนนซ์อยู่ เราเอาไปขายไม่ได้ เพราะมันเป็นของไฟแนนซ์ พอเปลี่ยนสัญญาอันนี้มีสิทธิ์ทำได้  การขายดาวน์โดยให้คนอื่นไปผ่อนต่อ อันนี้ก็ทำไม่ได้  อะไรที่ผมบอกว่าทำไม่ได้ นั่นแปลว่าคนครอบครองรถมีความผิดฐานยักยอกทรัพย์ ไฟแนนซ์สามารถดำเนินคดีได้”

“เพราะฉะนั้นเวลาที่เราไปแจ้งความแล้วบอกว่าเราเอารถไปขาย ตำรวจทุกที่ไม่รับแจ้งความ เพราะเราไม่ใช่ผู้เสียหายทางกฎหมาย เราเอารถของไฟแนนซ์ไปขาย เพราะผู้เสียหายคือไฟแนนซ์ แต่ถ้าเราบอกว่า เราต้องการจะเปลี่ยนสัญญาเช่าซื้อและปรากฏว่าโดนหลอกเอารถไป อันนี้เราเป็นผู้เสียหายในคดีฉ้อโกง ทุกที่จะต้องรับแจ้งความ อยู่ที่วิธีการคุยกับเขาว่าเราทำแบบไหน พูดคำผิดปุ๊บเขาไล่กลับเลย เพราะเป็นคนกระทำความผิด เดี๋ยวเขาจะแจ้งข้อหาเรายักยอก” ทนายรณณรงค์ กล่าว

คุณอาจสนใจ

Related News