ฉุนโดนเตือนเรื่องเสพยา โจ๋กร่าง ยกพวกรุมยำชาวบ้าน ขี่รถตามข่มขู่ ไม่กลัวกฎหมาย

ฉุนโดนเตือนเรื่องเสพยา โจ๋กร่าง ยกพวกรุมทำร้ายชาวบ้าน ใช้อิฐบล็อคทุบหน้า ขวานฟันหัวเหวอะ ซ้ำขี่รถตามข่มขู่ ไม่กลัวกฎหมาย



วันนี้ (21 พ.ย. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายนิกร มลาศรี ชาวบ้านบ้านโคกสะอาด ตำบลหินดาด อำเภอห้วยแถลง จังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วยนายพิชิต วรรณกิจ ได้เข้าร้องเรียนกับ น.ส.นลิน โรจนวัทธิกร ผู้ก่อตั้งเพจห้วยแถลง (รับเรื่องร้องเรียนอีสาน) ให้ช่วยประสานงานทางด้านคดีความ หลังจากทั้ง 2 คน ถูกกลุ่มวัยรุ่นในหมู่บ้านรุมทำร้าย โดยนายพิชิต มีบาดแผลถูกขวานฟันเข้าที่หัวเป็นแผลเหวอะหวะเย็บ 13 เข็ม และมีร่องรอยบาดแผลฟกช้ำไปทั่วทั้งร่างกาย



โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 18 พ.ย. 67 ที่ผ่านมา นายนิกรและนายพิชิต ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์จากบ้านไปประมาณ 200 เมตร ออกไปคุยปัญหาส่วนตัวกับนายเอ (นามสมมุติ) ซึ่งเป็นเด็กวัยรุ่นในหมู่บ้าน หลังจากนายนิกรกลับมาเยี่ยมบ้านจากการไปทำงานที่ประเทศอิสราเอลเป็นเวลา 10 ปี ทำให้ทราบว่ามีกลุ่มวัยรุ่นในหมู่บ้านมาชักชวนหลานชายของตนทดลองใช้สารเสพติด และมาเกาะแกะกับหลานสะใภ้ ตนจึงได้ตักเตือนวัยรุ่นกลุ่มดังกล่าวให้หยุดพฤติกรรมดังกล่าวเสีย



ทำให้กลุ่มวัยรุ่นในหมู่บ้านเกิดความไม่พอใจ ชักชวนพวกอีกนับ 10 คน ใช้ผ้าโพกอำพรางใบหน้า เข้ามารุมทำร้ายนายนิกร และนายพิชิต ซึ่งนายนิกรสามารถหลบ และวิ่งหนีออกมาได้ทัน แต่นายพิชิตเห็นว่าเป็นวัยรุ่นในหมู่บ้านที่รู้จักกันดี จึงไม่ได้หลบหนี พร้อมทั้งเข้าห้ามปรามระงับเหตุ เพราะคิดว่าคงไม่มีใครทำอะไรตน แต่กลับถูกล้อมกรอบนำอิฐบล็อกที่วางอยู่ริมถนนตรงเข้าทุบหัวหลายครั้ง พร้อมกับมีนายบี (นามสมมุติ) ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านใกล้เคียงกัน นำขวานเข้ามาฟันเข้าที่บริเวณหน้าผากจนนายพิชิตสลบไป



โดยหลังเกิดเหตุ ญาติได้พานายพิชิตส่งโรงพยาบาลห้วยแถลง แพทย์ทำการรักษาบาดแผลโดยเย็บแผลบริเวณหน้าผาก 13 เข็ม พร้อมกันนี้ก็ได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ห้วยแถลง ให้เร่งติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็ว เนื่องจากหวั่นเกรงเรื่องความปลอดภัย เพราะกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุหลายคนมีพฤติกรรม และประวัติยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด เข้าออกเรือนจำเป็นว่าเล่น อุกอาจจนสามารถก่อเหตุรุมทำร้ายแบบพยายามฆ่าได้ถึงแม้เป็นเพื่อนบ้านใกล้เคียงรู้จักมักคุ้นกัน



โดยหลังจากก่อเหตุยังคงจับกลุ่มเปิดเพลงกินเหล้ากันต่ออย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย รวมถึงยังคงมีวัยรุ่นขี่รถจักรยานยนต์ใช้ผ้าโพกปิดบังใบหน้าขับขี่ผ่านหน้าบ้านไปมาและมองมาในบ้านหลายครั้งตลอดวัน ทำให้เกรงอาจถูกทำร้ายอีก จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมกลุ่มวัยรุ่นผู้ก่อเหตุและดำเนินการขั้นเด็ดขาดกับปัญหายาเสพติดเสียที