อาชญากรรม

รวบ ‘หมวดเจมส์’ สืบนครบาลเก๊ ไถเงิน-เรียกค่าคุ้มครอง ร้านกระท่อม

โดย olan_l

31 ต.ค. 2567

163 views

สืบนครบาล รวบหมวดเจมส์ อ้างเป็นชุดสืบ กรรโชกทรัพย์ ค้นบ้านเจอบัตรตำรวจปลอม-เครื่องแบบเก๊อีกหลายรายการ เจ้าตัวอ้างอยากเป็นตำรวจ



วันนี้ (31 ต.ค.) พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. ได้สั่งการให้  พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.เอกศิษฐ์ วรกิตติ์ ฐากรณ์ รอง ผกก.สส.1 บก.สส.บช.น.  พ.ต.ท.มาโนชย์ ทองแก้ว รอง ผกก.กก.สส.บก.น.5 พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ สว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น. พ.ต.ต.วิทย์วศิน อินทร์แก้ว สว.ฝอ.บก.สส.บช.น. ร.ต.อ.ศิวัช ยังอุ่น รอง สว.กก.สส.4 บก.สส.บช.น. ร.ต.อ.วรภัทร แสงเทียนประไพร รอง สว.กก.2 บก.สส.ภ.2 ร.ต.อ.พลวัต นาคถมยา รอง สว.กก.สส.1 บก.สส.บช.น.  ร.ต.อ.หญิง ณิชญากาญจน์ เปสลาพันธ์ รอง สว.ฝอ.บก.สส.บช.น. ร.ต.ท.เลิศวริศเลิศวรปรีชา รอง สว.ฝทว.7 ทว. ร.ต.ท.ณัฐวุฒิ อันชูฤทธิ์ รอง สว.(สอบสวน) สน.ดินแดง ร.ต.ท.อนันตชัย สัจจพงษ์ รอง สว.ฝอ.2 บก.อก.สทส. จ.ส.ต.สรศักดิ์ ด้วงชู ผบ.หมู่ กก.สส.บก.น.4 ส.ต.ท.จิรวัฒน์ ศรีมั่นมีชัยผบ.หมู่ กก.3 บก.ปส.3 ส.ต.ต.เมธิชัย คำดี ผบ.หมู่ กก.สส.1 บก.สส.บช.น. และเจ้าหน้าที่ บก.สส.บช.น.

ร่วมกันสืบสวนขยายผลติดตามจับกุมตัว นายชลทิศ หรือ “หมวดเจมส์” อายุ 34ปี ภูมิลำเนา เขตบางกอกใหญ่ จ.กรุงเทพฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรีที่ จ.825/2567 ลงวันที่ 16 ก.ย. 67

ข้อหา “ร่วมกันกรรโชกทรัพย์ , ร่วมกันแสดงตนเป็นเจ้าพนักงานและกระทำการเป็นเจ้าพนักงานโดยตนเองมิได้เป็นเจ้าพนักงานที่มีอำนาจกระทำการนั้น และร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้นหรือจำยอมต่อสิ่งนั้น” และถูกแจ้งข้อหาเพิ่มเติมว่า “พกพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต” ตรวจยึดของกลาง 4 รายการ

1.อาวุธปืน SIG SAUER ขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก (ขึ้นลำพร้อมใช้)

2.กระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 12 นัด

3.บัตรเจ้าหน้าที่ตำรวจ (ปลอม) ปรากฏชื่อและใบหน้าของคนร้าย จำนวน 1 ใบ

4.เครื่องแบบตำรวจ จำนวน 2 ชุด

5.เสื้อเกราะกันกระสุด จำนวน 1 ชุด

พฤติการณ์กล่าวคือ “สืบนครบาลเก๊” อดีต รปภ. หนุ่มวัย 34 ปี ใฝ่ฝันอยากเป็นชายในเครื่องแบบ ตระเวนหาซื้อเครื่องแบบตำรวจมาสวม ตัดผมสั้นเกรียน แล้วมักทำทีสวมเสื้อเกราะ สวมอุปกรณ์ยุทธวิธี ให้เหมือนตำรวจ อุปโลกน์สร้างโปรไฟล์ว่าตนเป็นชุด “เฉพาะกิจ ปะฉะดะ” ปัจจุบันปลอมตัวเป็นสายสืบตระเวนกรรโชกทรัพย์

ล่าสุดมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความดำเนินคดีที่ สน.บางมด พร้อมกับมอบหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกพฤติกรรมกรรโชกทรัพย์ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 ก.ค. 67 เวลาประมาณ 16.00 น. ขณะที่ผู้เสียหายอยู่ในบ้านพักได้มีชายแต่งกายคล้ายสายสืบ อ้างว่าตนเองเป็นเจ้าหน้าที่จาก “สืบนครบาล” ชื่อว่า “หมวดเจมส์” เข้าไปจับกุมผู้เสียหายที่อยู่ในบ้านพัก โดยอ้างว่ามีน้ำกระท่อม 3 ขวด ก่อนจะเรียกเงินจำนวน 3,000 บาท จากผู้เสียหาย โดยข่มขู่ว่าหากไม่จ่ายจะถูกจับกุมดำเนินคดี ผู้เสียหายจึงยอมจ่ายเงินสดให้กับคนร้ายไป 3,000 บาท แต่ยังไม่จบแค่นั้นเมื่อคนร้ายข่มขู่ให้จ่ายค่าคุ้มครองแบบรายเดือนอีก 500 บาทต่อเดือน ก่อนจะออกจากบ้านผู้เสียหายไป

ต่อมาก็ได้มีการออกหมายจับสายสืบเก๊รายนี้ แต่การจับกุมไม่สามารถทำได้ง่าย เพราะจากการสืบสวนติดตามคนร้ายหลบหนีไปกบดาลตามแหล่งชุมชนในพื้นที่ฝั่งธนบุรีพร้อมกับสั่งให้ลูกสมุนคอยสังเกตการณ์ดูตำรวจเข้าออกชุมชนตลอดเวลา ด้วยสมรภูมิสุดได้เปรียบของคนร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ได้พยายามเข้าไปจับกุมกว่าหลายครั้ง แต่ก็คว้าน้ำเหลวร่ำไป

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. งัดแผนคลาสสิค “ล่อเสือออกจากถ้ำ” เนียนปลอมคูปองส่วนลดร้านไอศรีมชื่อดังร้านโปรดของคนร้ายส่งไปให้ ปลากินเบ็ดหรือเปล่าไม่รู้ แต่เหลือเพียงหนทางเดียวที่จะเจอคนร้ายได้ กว่า 7 วันที่ชุดสืบสวนไม่ต่างจากสัมภเวสีเฝ้าร้านไอศรีม กระทั่งช่วงหัวค่ำของวันที่ 30 ต.ค. 67 คนร้ายได้ปรากฏตัวที่ร้านไอศรีมด้วยท่าทีระแวงรอบทิศ พล.ต.ต.ธีรเดชฯ สั่งการให้ตะครุบตัวในทันที หลังจับกุมชุดสืบสวนตรวจค้นพบอาวุธปืน 1 กระบอก “ขึ้นลำ” พร้อมปะทะ และยังพบบัตรเจ้าหน้าที่ตำรวจ (ปลอม) ปรากฏชื่อและใบหน้าของคนร้ายซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าคาดเอว จึงได้ยึดไว้เป็นของกลางก่อน ขยายผลการจับกุมเข้าตรวจค้นบ้านพักของคนร้ายในชุมชนย่านวัดหงส์รัตนาราม พบเครื่องแบบตำรวจและเสื้อเกราะกันกระสุนอีกหลายรายการ

ในชั้นจับกุม หมวดเจมส์ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า “ตนเองเป็นเหลนของเจ้าพระยาท่านหนึ่ง และตระกูลตนเป็นตระกูลชื่อดังมาตั้งแต่สมัยอยุธยา มีสายเลือดเจ้าหน้าที่ของบรรพบุรุษเข้มข้น จึงทำให้ตนเองอยากเป็นตำรวจ แต่ด้วยวัยเด็กตนเองเกิดมีลูกก่อนวัยอันควรทำให้ไม่ได้เรียนหนังสือ ต้องออกมาทำงานหาเงิน จนในปัจจุบันตนเองไม่สามารถสอบเข้าตำรวจได้แล้วแต่ก็ยังมีความอยากเป็นตำรวจอยู่ดี จึงสมัครเป็น อปภร. อยู่สักพักหนึ่ง กระทั่งได้เรียนรู้การทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และในคดีนี้ตนเองได้เบาะแสจุดร้านกระท่อมของผู้เสียหาย จึงเห็นช่องทางในการจะตบทรัพย์จึงปลอมตัวเป็นสืบนครบาล โดยอ้างว่าตนเองชื่อ “หมวดเจมส์” ทำทีเข้าไปจับกุม ก่อนจะเรียกรับเงินเป็นจำนวน 3,000 บาท แต่หลังก่อเหตุก็เกิดเป็นเรื่องเป็นราวขึ้นตนจึงหลบหนีโดยยืนยันว่าเคยก่อเหตุมาแค่ครั้งเดียวจริงๆ ไม่เคยก่อเหตุเช่นนี้มาก่อน” หลังจับกุมขยายผลได้นำตัวพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สน.บุคคโล ดำเนินคดีต่อไป

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า “จากการขยายผลเราได้ข้อมูลว่าคนร้ายรายนี้เคยก่อเหตุลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้ง มักอ้างว่าตนเองเป็นสืบนครบาล เชื่อว่าเคยมีผู้ตกเป็นเหยื่ออีกไม่น้อย หลังจากนี้เราจะมีการขยายผลโดยละเอียด และขอประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชน ผู้ใดเคยถูกผู้ต้องหารายนี้กระทำการอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจข่มขู่ตบทรัพย์สามารถแจ้งเบาะแสมาได้ที่เพจ สืบนครบาล IDMB เราจะมีการขยายผลให้ถึงที่สุด แม้ว่าจะไม่ใช่คดีอุกฉกรรจ์ แต่หากเป็นความเดือดร้อนของประชาชน เราทำทันที ตามนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์  พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร.  และ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร.

คุณอาจสนใจ

Related News