ไฟไหม้รถมินิบัสมหาลัยวอด 3 คัน ขณะชาร์จแบตทิ้งไว้ รปภ.ชี้แบตเสื่อม เคยแจ้งหลายครั้ง แต่ยังไม่ได้เปลี่ยน

ไฟไหม้รถมินิบัสรับส่งมหาลัยชื่อดังวอด 3 คันรวด คาดต้นเพลิงจากรถที่ชาร์จแบตทิ้งไว้ เผยแบตเสื่อม เคยแจ้งหลายครั้ง แต่ยังไม่ได้เปลี่ยน

เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 10 ตุลาคม 2567 พ.ต.ต.พรเจตต์ พร้อมมูลสารวัตรสอบสวน สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ได้รับแจ้งว่ามีเหตุเพลิงไหม้ภายในมหาวิทยาลัยสถาบันมีชื่อแห่งหนึ่ง ซอยพหลโยธิน 121 ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี หลังรับแจ้งได้เดินทางไปยังที่เกิดเหตุ พร้อมประสานรถดับเพลิงเทศบาลนครรังสิต 3 คัน

ที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ดับเพลิงกำลังฉีดน้ำเพลิงกำลังลุกไหม้อย่างรุนแรง และลุกไหม้เสียหายทั้ง 3 คัน มีมินิบัส 2 คันและรถตู้ที่จอดใกล้กันอีก 1 คัน ซึ่งจอดอยู่ภายในโรงจอดรถ เจ้าหน้าที่ใช้น้ำฉีดสกัด ควบคุมเพลิงไว้ได้ใช้เวลา 40 นาที

ทางด้านนายวิเชียร หมื่นชัยวงศ์ อายุ 57 ปี เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เปิดเผยว่า ช่วงเช้าเดินตรวจความเรียบร้อย ได้ยินเสียงรถคันกลางมีเสียงระเบิด และสังเกตดูสักพักหนึ่ง เหมือนไม่มีอะไรและก็ได้เดินกลับป้อม แล้วก็มี รปภ.อีกคนเดินมาปิดไฟประจำจุดต่างๆ ที่เปิดไว้ จากนั้นก็รีบวิ่งมาบอกว่าเกิดไฟไหม้รถ ซึ่งรถที่ไฟไหม้นั้นได้จอดไว้ทั้งคืนแล้ว ทั้งหมด 3 คัน ส่วนคันกลางจะชาร์จแบตทิ้งไว้ วันก่อนจะมีแสงไฟออกตลอด เนื่องจากจะชาร์จแบต แบตเสื่อมคุณภาพ แต่ก็เคยแจ้งไปหลายครั้งแล้วยังไม่ดำเนินการเปลี่ยนแบตใหม่

ด้านนายมงคล (นามสมมติ) ผู้อยู่อาศัยใกล้จุดเกิดเหตุ กล่าวว่า คันกลางชอบชาร์จแบตทิ้งไว้ ซึ่งในขณะนั้นตนเองนอนอยู่ในห้องและได้ยินเสียงว่าไฟไหม้รถ และตื่นมาดูจึงพบว่ารถถูกไฟไหม้เกิดขึ้น และรถจอดอยู่ทั้งหมด 5 คันเอาออกไปได้ 2 คัน คันที่เหลือเอาออกไม่ทันถูกไฟไหม้ทั้งหมด เป็นรถตู้ที่ใช้ภายในมหาวิทยาลัย ไฟน่าจะเกิดจากรถที่ชาร์จแบตไว้ ตัวเองยังไม่รู้เหมือนกันว่าชาร์จช่วงไหน

เบื้องต้น พ.ต ต.พรเจตต์ พร้อมมูล สารวัตรสอบสวน สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ได้มาตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมบันทึกภาพเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนสาเหตุนั้นจะได้ประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสอบถึงสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้ต่อไป