รวบหนุ่มใหญ่ สวมสบงปลอมเป็นพระ ขับรถตระเวนบิณฑบาต

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ต.พงศธร รัชตวัชรางกูร สว.กก.3 บก.ป. ร.ต.อ.ธีรศักดิ์ นามเขต รอง สว.กก.๓ บก.ป. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ป. กก.3 บก.ป. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โคกโพธิ์ชัย นำโดย พ.ต.ท.พิทักษ์ สารสินธ์ สว.สส.ฯ ร.ต.อ.ไพโรจน์ แสงชัยภูมิ ร.ต.ท.คมสรรห์ ปโปตินัง ร.ต.ต.ธนพัชร์ โสภารัตน์ ส.ต.อ.เกียรติชัย อัตธพงค์ ส.ต.ต.ณัฐพงษ์ ปล่อยยิ้ม

ได้ร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหา นายศิววิบูลย์ชัย อายุ 52 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรี ที่ 680/2567 ลง 29 ส.ค.2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “แต่งกายหรือใช้เครื่องหมายที่แสวงว่าเป็นภิกษุ สามเณร นักพรต นักบวชในศาสนาใดโดยมิชอบ เพื่อให้บุคคลอื่นเชื่อว่าตนเป็นบุคคลเช่นนั้น”  สถานที่จับกุม บริเวณชายทุ่ง ท้ายหมู่บ้านนาแพง หมู่ 5 ต.นาแพง อ.โคกโพธิ์ชัย จ.ขอนแก่น

ตรวจพบของกลาง  1. ย่าม  2  ใบ  2. รัดประคดเอว  1  ชิ้น 3. สบง  1  ผืน 4. จีวร  2  ผืน 5. บาตร  1  ใบ 6. ร่ม  2  คัน 7. อังสะ  1  ผืน 8. ผ้ากราบ  1  ผืน 9. สังฆฏิ  1  ผืน 10. รถยนต์ 1 คัน 11. โทรศัพท์มือถือ จำนวน  1 เครื่อง

พฤติการณ์ สืบเนื่องจากได้มีการนำเสนอข่าวผ่านทางโซเซียลมีเดียเกี่ยวกับกรณีที่มีพลเมืองดีมักพบเห็นผู้ชายแต่งกายเป็นพระสงฆ์ ขับรถยนต์มาจอดบริเวณใต้สะพานกลับรถสถานีรถไฟรังสิต ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ในเวลารุ่งเช้า

จากนั้นในช่วงสายจะกลับมาที่รถเพื่อเปลี่ยนการแต่งกายเป็นชุดทั่วไป หลังจากนั้นได้ขับรถคันดังกล่าวออกไป เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงดำเนินการสืบสวนและตรวจสอบเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว พบว่าชายคนที่ปรากฎตามข่าว คือ นายศิววิบูลย์ชัย ได้ขับรถยนต์ออกมาจากบ้านพักบริเวณ ต.คลองสี่ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ในช่วงเช้ามืดของวันดังกล่าว จากนั้นได้นำมาจอดบริเวณดังกล่าว กระทั่งมีพลเมืองดีพบเห็นและถูกถ่ายคลิปวิดีโอจนกระทั่งปรากฎเป็นข่าวข้างต้น ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ป. ได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลจังหวัดธัญบุรีออกหมายจับ นายศิววิบูลย์ชัย เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้นำกำลังเข้าทำการจับกุม นายศิววิบูลย์ชัย ได้บริเวณชายทุ่งท้ายหมู่บ้านในพื้นที่ หมู่ 5 ต.นาแพง อ.โคกโพธิ์ชัย จ.ขอนแก่น พร้อมของกลางข้างต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ตรวจยึดไว้ พร้อมนำตัวผู้ต้องหาและของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ป. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า เคยบวชเป็นพระ แต่ได้ลาสิขาเป็นฆราวาสมานานแล้ว หลังจากนั้นได้มาอยู่กับภรรยา ที่บ้านพัก โดยมีพฤติกรรมแต่งกายเป็นพระสงฆ์ขับรถออกตระเวนรับบิณฑบาตรจำนวนหลายครั้งในพื้นที่ จ.ปทุมธานี กระทั่งถูกพลเมืองดีถ่ายคลิปวิดีโอและปรากฎเป็นข่าวข้างต้น