อาชญากรรม

2 โจรสาว ทำทีขอเข้าห้องน้ำ รื้อบ้านฉกทรัพย์ยายวัย 91 เงิน-ทอง-พระเครื่อง หายเกลี้ยง

โดย nut_p

2 ส.ค. 2567

135 views

2 โจรโม่งสาว ทำทีขอเข้าห้องน้ำ รื้อบ้านฉกทรัพย์ยายวัย 91 เงิน-ทอง-พระเครื่อง หายเกลี้ยงหลบหนีลอยนวล ยายสุดแค้นลั่น “คนหลอกลวงคนอื่น ทำอะไรไว้ต้องรับกรรม”



วันนี้ (2 สิงหาคม 2567) ผู้ใช้เฟซบุ๊ค 'Jang Phudsadee' ได้โพสต์คลิปบันทึกคำบอกเล่าของคุณยายคนหนึ่งที่บอกว่าถูกหญิง 2 คน เข้ามาในบ้านหลอกถามซื้อกระชาย ก่อนจะทำทีขอเข้าห้องน้ำ แล้วรื้อค้นทรัพย์สินเป็นเงินสดกว่าหมื่นบาท และต่างหูทองคำอีก 1 คู่ โดยผู้โพสต์ได้ระบุข้อความว่า “เตือนภัย ฟังยายเล่า เป็นอุทาหรณ์ สำหรับคนแก่อยู่บ้านคนเดียว คนร้ายจิตใจทำด้วยอะไรน้อ มาหาหลอกคนแก่ ได้เงินยายได้หมื่นกว่าบาท ยายบอกจะเก็บเงินไว้ทำบุญ สู้ๆๆนะยาย” พร้อมกับได้นำสิ่งของจำนวนหนึ่งไปมอบเป็นกำลังใจให้กับยาย



ผู้สื่อข่าวจึงลงพื้นที่ไปตรวจสอบ พบว่า คุณยายที่ปรากฏในคลิป คือ คุณยายสุข บัวครบุรี อายุ 91 ปี อาศัยอยู่เพียงลำพังในบ้านเลขที่ 52 บ้านหนองโสมง หมู่ที่ 5 ตำบลอรพิมพ์ อำเภอครบุรี จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งบ้านของคุณยายสุขฯ เป็นบ้านหลังสุดท้ายของหมู่บ้าน ติดกับทุ่งนา ห่างจากแหล่งชุมชนประมาณเกือบ 200 เมตร โดยวันนี้นายเติบ ชัชวาล นายกเทศมนตรีตำบลอรพิมพ์ อำเภอครบุรี ได้เดินทางมาพร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดมวลชนสัมพันธ์ สภ.ครบุรี นำข้าวของเครื่องใช้และอาหารแห้งจำนวนหนึ่งมาเยี่ยมให้กำลังใจคุณยายฯ เพื่อให้คุณยายมีสภาพจิตใจที่ดีขึ้น



ยายสุข ได้เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 20 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา มีหญิงสาว 2 คน คนหนึ่งสูง อีกคนเตี้ย สวมหมวกกันน็อก และพันผ้าปิดบังหน้าตา บุกเข้ามาในบ้านกะทันหัน ทำทีมาติดต่อขอซื้อกระชาย ซึ่งตนบอกว่า ตอนนี้กระชายยังต้นเล็กอยู่ ไม่น่าจะมีหัวให้ได้ขาย แต่คนร้ายก็ไม่ฟัง คว้าเสียมไปลองขุดดู ก็พบว่า กระชายยังเล็ก จึงไม่เอาไป พร้อมกับพูดกันสองคนสำเนียงคล้ายกับคนแถบนี้ ว่า “คนแนะนำหนทางมาให้ แน่นอนจริงๆ”



ซึ่งหลังจากไม่ได้กระชาย ทั้งคู่ก็ยังพูดคุยเรื่องสัพเพเหระกับยายตลอด ก่อนที่หญิงสาวคนเตี้ยจะทำทีขอเข้าห้องน้ำที่อยู่หลังบ้าน ยายก็อนุญาต และระหว่างนั้น หญิงอีกคนที่ตัวสูงก็ดึงยายให้ออกมาคุยกันหน้าบ้าน เวลาผ่านไปนานพอสมควร เมื่อคนที่เข้าห้องน้ำออกมา ทั้งคู่ก็พากันขอตัวกลับ ซึ่งยายไม่ได้เอะใจอะไร กระทั่งช่วงเย็น คิดได้ว่าจะต้องนำเงินไปจ่ายค่าไฟฟ้า จึงเข้าไปในห้องนอนเพื่อค้นหาเงินที่เก็บเอาไว้ทำบุญ จะเอามาแบ่งจ่ายค่าไฟก่อน แต่ก็มาพบว่า ห้องนอนถูกรื้อค้นกระจุยกระจาย ห่อเงินที่เก็บเงินไว้หายไปทั้งหมด เป็นเงินสดประมาณ 12,000 บาท ซึ่งตนเก็บหอมรอบริมมานานหลายปี ทั้งจากเงินยังชีพผู้สูงอายุ และเงินจากลูกหลานเอามาให้ตอนมาเยี่ยม นอกจากนี้ ต่างหูทองอีก 1 คู่ ที่ตนอุตส่าห์รับจ้างถอนกล้ามาตั้งแต่อายุ 15 ปี กับพระเครื่องต่าง ๆ สมัยพ่อแม่ที่ใส่สืบทอดมาอีก 3 พวง ก็ถูกคนร้ายใจบาปมาขโมยเอาไปทั้งหมด



ยายสุข บอกอีกว่า ที่ตัวเองต้องอยู่คนเดียวเพียงลำพัง ก็เพราะยังอยากอยู่บ้านเก่าดั้งเดิม เพราะห่วงบ้าน แม้ว่าลูกหลานจะมาคะยั้นคะยอให้ไปอยู่ด้วยในภูมิลำเนาอื่นๆ แต่ก็ยืนยันจะอยู่ที่นี่ เพราะไม่อยากให้เป็นภาระลูกหลาน อีกทั้งยังพอมีแรง ได้ปลูกผัก ได้ออกกำลังกายอยู่บ้านแบบนี้ก็ดีอยู่แล้ว แต่เมื่อมาถูกกระทำอย่างนี้รู้สึกเสียใจและเสียดายอย่างมาก เพราะตนไม่เคยมีเงินมากขนาดนี้มาก่อน และเงินที่เก็บเอาไว้เหล่านั้น ก็ตั้งใจจะเก็บเอาไว้ทำบุญสร้างกุศลก่อนที่จะล้มหายตายจากโลกไป กลับมาถูกคนใจบาปตัดเส้นทางบุญเสียได้



แต่ตนก็คิดว่า ใครทำอะไรเอาไว้ก็จะต้องได้ผลกรรมเช่นนั้น เมื่อเสียไปแล้วก็เสียไป หากยังไม่ตายลูกหลานก็คงจะหามาให้ รวมถึง เงินผู้สูงอายุคงจะเก็บหอมได้มากกว่านั้น ซึ่งตนยังยืนยันว่า จะนำเงินที่ได้ไปทำบุญตามที่ตั้งใจเอาไว้ ส่วนคนที่เอาไป “จากนี้ไป ก็คงต้องเจอกับกรรมและคงไม่มีความสุขในชีวิตอีกต่อไปเพราะเป็นคนทรยศคน หาหลอกลวงคนอื่นไปทั่ว”



น.ส.ผุสดี หวนกระโทก อายุ 39 ปี แม่ค้าหมูสด ซึ่งเป็นผู้ที่โพสต์เรื่องราวดังกล่าว ที่อยู่หมู่บ้านติดกันกับคุณยายสุขฯ กล่าวว่า “กรณีนี้ ตัวเองได้รับรู้ข่าวคราวมาจากเพื่อนบ้านมาระยะหนึ่งแล้ว คิดอยู่นานว่าอยากจะนำเรื่องราวนี้มาบอกเล่าและเตือนภัยสังคม แต่ก็กังวลว่าคุณยายจะยังเสียใจและคิดมากกับเรื่องดังกล่าว จึงรอให้สภาพจิตใจของคุณยายดีขึ้นก่อน จนมีโอกาสได้เข้าไปช่วยดำเนินการใช้สิทธิบัตรประชารัฐ จึงได้ถามไถ่และขออนุญาตถ่ายคลิปยายเพื่อนำไปเผยแพร่เตือนภัยต่อสังคม เพราะมองว่าเป็นภัยร้ายแรงอย่างมากต่อคนในสังคม โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุที่อยู่บ้านเพียงลำพัง อย่างเช่น คุณยายสุขฯ ที่อาศัยอยู่ท้ายหมู่บ้าน เปลี่ยวและห่างไกลจากแหล่งชุมชน ไม่มีกล้องวงจรปิด ซึ่งการกระทำของคนร้ายทั้งสอง ถือว่า เป็นพฤติกรรมที่ไร้จิตสำนึก ไร้มนุษยธรรมอย่างร้ายแรง อาศัยความใจดีมีเมตตาของคนแก่มาลงมือก่อเหตุ หากเหตุการณ์นี้ได้ถูกเผยแพร่ไป ก็จะช่วยกระตุ้นให้ทุกคนหันมาใส่ใจและช่วยบอกเตือนญาติมิตร เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นมาซ้ำอีก และอยากฝากไปถึงคนร้ายที่ก่อเหตุทั้งสองคน ว่า จากนี้ไปจะไปทำมาหากินอะไรก็คงไม่สำเร็จแน่นอน มาทำเวรทำกรรกับคนเฒ่าคนแก่ มีมือมีเท้าครบ ไม่น่าจะมาทำกับคนแก่อย่างนี้เลย อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับตัวคนร้ายพวกนี้มาดำเนินคดีอย่างถึงที่สุดให้หมดสิ้นไปเสียที เพราะคนร้ายพวกนี้ยังมีอีกมากในสังคมไทย



ส่วนความคืบหน้าการติดตามตัวคนร้าย พนักงานสอบสวน สภ.ครบุรี เปิดเผยว่า กรณีดังกล่าวนี้ เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา ซึ่งผู้เสียหายมาลงบันทึกประจำวันเอาไว้ เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2567 โดยหลังจากรับแจ้งเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่หาข่าว และแกะรอยหาตัวคนร้ายมาอย่างต่อเนื่อง แต่เนื่องจากช่วงเกิดเหตุไม่มีพยานผู้เห็นเหตุการณ์ อีกทั้งบริเวณที่คนร้ายก่อเหตุก็อยู่ห่างไกลจากแหล่งชุมชน ไม่มีกล้องวงจรปิด ทำให้การติดตามเบาะแสของคนร้ายทำได้ลำบาก แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจ ยังคงติดตามหาเบาะแสและตัวคนร้ายอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วที่สุด ทั้งนี้ อยากฝากเตือนไปยังประชาชนให้ระมัดระวังคนร้ายประเภทนี้เพราะเป็นภัยอย่างมาก โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุที่อยู่บ้านลำพัง ขอให้ระวังเป็นพิเศษ ควรหมั่นมาเยี่ยมเยียนญาติผู้ใหญ่ ในขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็จะเพิ่มความถี่ในการออกตรวจตราป้องปรามเหตุมากขึ้นด้วย

คุณอาจสนใจ

Related News