อาชญากรรม
รวบแก๊ง ‘เฟยหยาง’ ขายฝันคนไทยไปทำงาน ตปท.อ้างเงินดี ลวงจับขัง-บังคับเป็นคอลเซนเตอร์
9 ก.ค. 2567
260 views
ตำรวจสอบสวนกลาง รวบกลุ่มขายฝันหลอกคนไทยไปทำงาน ตปท.อ้างเงินเดือนสูง ที่แท้ลวงกักขัง-บังคับเป็นคอลเซ็นเตอร์ ประเทศเมียนมาร์
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปคม. ร่วมกันจับกุม 2 ผู้ต้องหา ได้แก่ 1.นายธีรพล หรือ นายธนพล อายุ 31 ปี 2.นางสาวอรัญญา อายุ 21 ปี และทำการแจ้งข้อหาเพิ่มในเรือนจำทัณฑสถานหญิงกลาง ถนนงามวงศ์วาน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานครกับผู้ต้องหา 1 ราย ได้แก่ นางสาวณัฐณิชาฯ อายุ 31 ปี
โดยทั้ง 3 คนเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลฯ ในความผิดฐาน 1.สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ฯ
2.ร่วมกันตั้งแต่สามคนขึ้นไปกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ฯ
3.ร่วมกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไปข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้น หรือจำยอมต่อสิ่งนั้น (ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 309)
4.ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใด ให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย (ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 310)
5.ร่วมกันใช้อุบายหลอกลวง ขู่เข็ญ ใช้กำลังประทุศร้าย ใช้อำนาจครอบงำผิดคลองธรรม หรือใช้วิธีข่มขืนใจด้วยประการอื่นใด พา หรือส่งคนออกไปนอกราชอาณาจักร (ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 320)
6.ร่วมกันโฆษณาจัดหางานโดยฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามระเบียบที่รัฐมนตรีกำหนด (พระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ.2528 มาตรา 66, 88)
พฤติการณ์คือ กก.2 บก.ปคม. ได้รับมอบหมายให้ทำการสืบสวนสอบสวนกลุ่มคอลเซ็นเตอร์ที่มีนายเฟยหยาง เป็นหัวหน้า เฉพาะกลุ่มนี้พบว่าบุคคลที่ถูกช่วยเหลือมา เป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ จำนวน 8 คน มีผู้ร่วมขบวนการ จำนวน 11 คน ที่ได้ร่วมกันกระทำความผิดในคดีส่วนนี้ มีการแบ่งหน้าที่กันทำชัดเจน
แบ่งเป็น ส่วนของ HR ที่เป็นคนไทย จำนวน 4 คน ทำหน้าที่หลอกคนไทยมาทำงานเป็นแอดมินตอบแชทลูกค้า จ่ายเงินเดือนๆ ละ 25,000 – 50,000 บาท จากนั้นจะส่งต่อไปยังผู้ต้องหาที่เหลือ เพื่อนำตัวไปกักขังเพื่อบังคับใช้แรงงาน และบังคับให้เป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงประเภท Hybrid Scam คือลักษณะหลอกให้รักแล้วชวนลงทุน โดยพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปคม. ได้ขอศาลอาญาออกหมายจับบุคคลทั้ง 11 คน ดังกล่าวไว้ในความผิดฐานตามข้างต้น
ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับ ว่านายธีรพล หรือ นายธนพล (ชื่อเดิม) ผู้ต้องหาที่ 1 ซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยหัวหน้าทีม ควบคุมการทำงานของคนไทยที่ถูกหลอกมา ให้เป็นไปตามที่นายเฟยหยาง บอสใหญ่สั่งการ
โดยพบว่านายธีรพล ได้เข้ามาพักอาศัยอยู่คอนโดแห่งหนึ่ง ถนนประชาอุทิศ เขตดินแดง กรุงเทพฯ จึงไปตรวจสอบ เมื่อพบตัวจึงเข้าแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบ พร้อมนำตัวพนักงานสอบสวน กก.2 บก.
ปคม. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การปฏิเสธ โดยนายธีรพล อ้างว่าก่อนเกิดเหตุตนเองทำงานเป็นพนักงาน อยู่ในสถานบันเทิงแห่งหนึ่งในเมืองเล้าก์ก่าย ประเทศเมียนมาร์ และได้คบหาเป็นแฟนกับชายชาวจีน ต่อมาชายชาวจีนได้ชักชวนให้มาอยู่ด้วยกัน และได้ช่วยเป็นล่ามแปลตามที่พูดเท่านั้น โดยไม่ได้เกี่ยวกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์แต่อย่างใด
ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้รับแจ้งว่า นางสาวอรัญญา ผู้ต้องหาที่ 2 ซึ่งทำหน้าที่เป็น HR โพสต์หลอกลวงคนไทยมาทำงานเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ได้เข้ามาพักอาศัยอยู่ที่ บ้านหลังหนึ่ง ต.ดอนศิลา อ.เวียงชัย จ.เชียงราย ก่อนจะพบนางสาวอรัญญาฯ จึงควบคุมตัว ทำบันทึกการจับกุมที่ สภ.เวียงชัย จ.เชียงราย ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปคม. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น นางสาวอรัญญา ให้การปฏิเสธ โดยยอมรับว่าใช้เฟซบุ๊กที่มีตัวตนปลอมจัดหาคนไทยมาทำงานจริง แต่ไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์แต่อย่างใด
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังมีการแจ้งข้อหาเพิ่มในเรือนจำ จำนวน 1 คน ได้แก่ นางสาวณัฐณิชา อายุ 31 ปี ที่ทัณฑสถานหญิงกลาง ถนนงามวงศ์วาน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร หลังพบว่า ผู้ต้องหารายนี้ ทำหน้าที่เป็น HR หลอกคนมาทำงานเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ยอมรับว่า จัดหาคนไทยมาทำงานจริง แต่ไม่รู้เรื่องการถูกบังคับแรงงาน หรือการทำแก๊งคอลเซ็นเตอร์แต่อย่างใด
แท็กที่เกี่ยวข้อง ตำรวจสอบสวนกลาง ,แก๊งคอลเซนเตอร์ ,แก๊งขายฝัน