หนุ่มร้อง ถูกแฟนใหม่ของแฟนเก่า บุกทำร้ายในบ้านจนสลบ ฟื้นมาอยู่ในห้องขัง ซ้ำถูกปรับ 500 บาท

วันนี้ (14 มิ.ย.) เมื่อเวลา 12.00 น. ที่สำนักงานเพจสายไหมต้องรอด ซอยสายไหม 38 นายธีรวัช อายุ 28 ปี อาชีพช่างทำพื้น เข้าร้องขอความช่วยเหลือกับนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด หลังถูกคนร้ายซึ่งเป็นสามีใหม่ของอดีตแฟนสาว บุกเข้ามาทำร้ายร่างกายในบ้านของตัวเองจนหมดสติ ฟื้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในห้องขังสภ.ธัญบุรี

โดยนายธีรวัช เปิดเผยว่า ตนได้เลิกรากับแฟนสาวไปแล้ว 5 เดือน แต่ยังให้อดีตแฟนสาวอาศัยอยู่ที่บ้านของตนเนื่องจากตนสงสาร แต่มีเงื่อนไขว่าห้ามนำบุคคลอื่นเข้ามาอาศัยอยู่ด้วย ส่วนทางตนนั้นได้ไปอาศัยพักอยู่ที่ออฟฟิศ ในวันเกิดเหตุเมื่อวันที่ 9 มิ.ย. ตนได้มีการไปดื่มสังสรรค์ที่บ้านหัวหน้าของตน และเนื่องจากออฟฟิศของตนนั้นมีการล็อคไว้ จึงทำให้ตนเดินทางกลับมานอนที่บ้าน แต่พบว่าอดีตแฟนสาวพาผู้ชายซึ่งเป็นแฟนใหม่มานอนพักอาศัยอยู่ที่บ้านของตน ทำให้มีปากเสียงและวิวาทกันจนทำให้ตนหมดสติ

นอกจากนี้ได้มีการลากตนออกมาทิ้งไว้หน้าบ้าน ต่อมาแฟนใหม่ของอดีตแฟนสาวได้นำพวกอีก 2 คน มารุมทำร้ายร่างกายอีกครั้ง เมื่อตนตื่นขึ้นมาพบว่าอยู่ในห้องขังของสภ. ธัญบุรี เมื่อสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่าเมื่อคืนตนเมาแล้วไปทำร้ายร่างกายพร้อมกับบุกรุกบ้านผู้อื่น ตนจึงอธิบายกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าบ้านเป็นของตน และโฉนดก็เป็นชื่อตนจะใช้คำว่าบุกรุกได้อย่างไร แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้มีการชี้แจงอะไร พร้อมกับเรียกปรับตนอีก 500 บาทข้อหาทะเลาะวิวาท ก่อนปล่อยตนออกมา

ทั้งนี้บ้านหลังที่เกิดเหตุตนกู้ร่วมกับอดีตแฟนสาว แต่ชื่อโฉนดเป็นชื่อตน และที่ผ่านมาตนจ่ายค่าชำระผ่อนบ้านมาโดยตลอด อดีตแฟนสาวจ่ายเพียง 2 เดือนหลังจากที่เพิ่งเข้ามาอยู่เท่านั้น อย่างไรก็ตามตนอยากฝากถึงคู่กรณีว่า ตนยังไม่ได้ไปทำอะไรให้ เหตุใดต้องมาทำตนเช่นนี้ เบื้องต้นตนได้ไปตรวจร่างกายและได้มีการเข้าแจ้งความที่สภ. ธัญบุรีไว้แล้ว พร้อมยืนยันจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุดและไม่ยอมความแน่นอน

ขณะที่นายเอกภพ กล่าวว่า ผู้เสียหายมีสิทธิ์แจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายได้ และเมื่อดูจากคลิปกล้องวงจรปิดแล้ว ทางผู้เสียหายสามารถแจ้งความคู่กรณีข้อหาบุกรุกได้ทั้งตัวแฟนใหม่และชายอีก 2 คน ที่เข้ามาทำร้ายร่างกาย ซึ่งตนมองว่าการที่ตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าผู้เสียหายอยู่ในห้องขังนั้นไม่เป็นธรรม หลังจากนี้ตนจะลงพื้นที่ที่เกิดเหตุ และจะไปติดตามความคืบหน้าคดีที่สภ.ธัญบุรี