สุดกร่าง นักท่องเที่ยวจีน ลวนลามเด็กเอนฯ พนง.เสิร์ฟเข้าไปช่วย ถูกมีดฟันเอ็นขาด

จากรณี มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้ลงคลิปวีดีโอและมีข้อความว่า " ตามหาตัวคนจีนเสื้อดำในคลิปครับมันฟันเพื่อนผม #ช่วยแชร์หน่อยครับ " และในภาพวีดีโอจะเห็นว่ามีชาวจีนคนใส่เสื้อสีขาว ได้เดินเข้าไประหว่างนั้นชาวจีนที่ใส่เสื้อสีดำ และได้มีผู้ชาย 1 คน พยายามดึงและห้ามไว้ แต่คนจีนที่ใส่เสื้อสีดำได้วิ่งเข้าไปทางเข้าห้องครัวก่อนใช้มีดสปาต้าหัวตัดยาวประมาณ 1 ฟุต เข้าไปทำร้ายร่างกายเด็กเสิร์ฟ จนได้รับบาดเจ็บที่ข้อมือขวาจนเอ็นข้อมือขาด นั้น

เหตุเกิด เมื่อเวลา 23.30 ของวันนี้ (11 ม.ย. 67) นายโกวิทย์ อายุ 38 ปี (พ่อ) พร้อมแฟนสาว ของนายจักรกริช อายุ 20 ปี (คนเจ็บ) ได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พ.ต.ต.สมชาย พฤษไพบูณ์กิจ พนักงานสอบสวน สภ.กบินทร์บุรี ว่า นายจักรกริช (คนเจ็บ) เป็นพนักงานเสิร์ฟที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง นายจักรกริช เห็นเด็ก PR พยายามขวักมือขอความช่วยเหลือที่บริเวณห้องน้ำ เนื่องจากถูกคนจีนที่ใส่เสื้อดำพาเข้าไปลวนลามในห้องน้ำ ทางนายจักรกริช (คนเจ็บ) พร้อมเพื่อนพนักงานชายอีก 1 คน จึงรีบเข้าไปผลักประตูห้องน้ำช่วยน้อง PR ออกมาได้

จากนั้น คนจีนใส่เสื้อดำจึงกลับไปนั่งดื่มเหล้าต่อกับเพื่อนคนจีนด้วยกันได้ไม่นาน คนจีน (เสื้อดำ) คนก่อเหตุได้เดินไปที่รถเอามีดสปาต้าหัวตัดยาวประมาณ 1 ฟุต เข้าไปไล่ฟัน นายจักรกริช (คนเจ็บ) โดยมีเพื่อนคนจีนด้วยกันเข้าไปรุมทำร้ายร่างกาย

พนักงานรายหนึ่ง (คนถอดเสื้อ มีผ้าพันนิ้ว) ให้ข้อมูลว่า ลูกค้าคนจีนที่ก่อเหตุเข้ามาในร้าน ประมาณ 8-9 คน นั่งดื่มเหล้าที่บริเวณหน้าเวที ก่อนที่จะไปลวนลามเด็กเอ็นที่บริเวณหน้าห้องน้ำ ทางพนักงานในร้านที่เป็นคนเจ็บ คือ นายจักรกริช อายุ 27 ปี เข้าไปห้าม จึงทำให้นักท่องเที่ยวคนจีนเข้าไปทำร้ายและใช้มีฟันที่ข้อมูลขวาจนเอ็นขาด ก่อนที่นายจักรกริชต้องวิ่งหนีเข้าไปหลบในป่าหลังร้านเพื่อเอาชีวิตรอด ส่วนคนจีนทั้งหมดหลังก่อเหตุได้ขับรถยนต์เอนกประสงค์ จำนวน 2 คันหลบหนีไป

วันนี้ (12 มิ.ย.) เมื่อเวลา 11.00 น. ผู้ต้องหาชาวจีนได้เริ่มทยอยเดินทางเข้ามอบตัวกับ พ.ต.อ.ศิรัชณัฏฐ์ คุ้มทรัพย์ ผกก.สภ.กบินทร์บุรี โดยผู้ต้องหาชุดแรกได้ขับรถยนต์เก๋ง Camary สีขาว ทะเบียน 1 กฬ 992 กทม. จำนวน 2 ราย คนแรกสวมใส่เสื้อดำซึ่งเป็นคนเปิดเกมส์ใช้เก้าอี้ตีพนักงานเสริฟ ผู้ต้องหารายที่ 2 สวมเสื้อคอปกสีน้ำตาลอ่อนเป็นมือมีด ต่อมาประมาณ 30 นาที ผู้ต้องหารายที่ 3 ได้ขับรถยนต์เก๋ง โตโยต้า สีขาว ทะเบียน 5 กศ 2340 กทม. ร่วมก่อเหตุได้เดินทางมาเป็นชุดแรกรวม 3 คน

ต่อมา ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.กบินทร์บุรี ได้พาตัวมือมีด คือ นายโจว อายุ 31 ปี ไปค้นหาอาวุธมีด หลังจากก่อเหตุแล้วได้ขับรถนำมีดไปทิ้งในพื้นที่เขตอุตสาหกรรมกบินทร์บุรี ต.หนองกี่ อ.กบินทร์บุรี มีระยะทางห่างจากจุดเกิดเหตุ 25 กม. เมื่อเจ้าหน้าที่พาผู้ต้องหาไปถึง ผู้ต้องหาพาเจ้าหน้าที่ขึ้นไปบนเนินดินที่ถมใหม่ที่มีน้ำฝนตกมาขังอยู่ ทางเจ้าหน้าที่จึงให้ผู้ต้องหาชี้จุดทิ้งมีดสปาต้า ก่อนนำขึ้นมาส่งมอบให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ซึ่งเป็นมีดสปาต้ายาว 45 นิ้ว ไปที่ สภ.กบินทร์บุรี

ในช่วงบ่ายทางชุดสืบสวนได้ให้ล่ามประสานผู้ต้องหาที่เหลือทยอยเดินทางมาครั้งละ 2 คน รวมทั้งสิ้นผู้ต้องหาที่ร่วมกันในครั้งนี้ จำนวน 7 คน ซึ่งมีผู้ร่วมลงมือจริงเพียง 2 คน คือ นายโจว อายุ 31 ปี มือมีด นายหวัง อายุ 30 ปี ส่วนที่เหลือนอนในรถ บางส่วนนั่งที่โต๊ะเท่านั้น เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามกลุ่มผู้ต้องหาชาวจีนมาได้ครบแล้ว จึงให้ผู้ปกครองของน้องที่ถูกฟันเข้ามาพูดคุยจนเป็นที่เรียบร้อย

ในเรื่องนี้ พล.ต.ต.ภูมินทร์ สิงหสุต ผบก.ภ.จว.ปราจีนบุรี พ.ต.อ.ธนกฤษ พาภิรมย์ รอง ผบก.ภ.จว.ปราจีนบุรี พ.ต.อ.ศิรัชณัฏฐ์ คุ้มทรัพย์ ผกก.สภ.กบินทร์บุรี พร้อมด้วย น.ส. ณัฐธนาภรณ์ กิ่งแก้ว (ล่าม) ได้ทำการสอบสวนในเบื้องต้น ซึ่งผู้ต้องหาให้การยอมรับสารภาพรวมกันก่อเหตุในเรื่องนี้จริง เนื่องจากเกิดจากความมึนเมาและไม่รู้กฎหมาย จริงยอมรับผิดและขอโทษผู้ปกครอง สังคม และทุกคนที่เดือดร้อน และคนไทยทั้งประเทศ พร้อมยืนยันว่าจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอย่างแน่นอน ความเสียหายที่เกิดขึ้นยินดีที่จะเยี่ยวยาให้กับผู้บาดเจ็บ

พล.ต.ต.ภูมินทร์ กล่าวว่า หลังจากนี้ต้องทำการสอบสวนชาวจีนทั้งหมดก็น่าจะเสร็จหลังศาลปิดทำการไปแล้ว จะขออำนาจฝากขังคงไม่ทันวันนี้ ต้องไปวันรุ่งขึ้น คืนนี้จะต้องควบคุมผู้ต้องหาที่ สภ.กบินทร์บุรี ส่วนข้อกล่าวหา “ ในเบื้องต้นรวมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บสาหัส”

นายโกวิทย์ อายุ 38 ปี พ่อผู้บาดเจ็บ กล่าวว่า รู้สึกพอใจในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่สามารถจับตัวผู้ต้องหาได้อย่างรวดเร็ว ส่วนความเชื่อมันกับตำรวจนั้นก็ค่อนข้าง OK ในเรื่องลูกที่เส้นเอ็นขาดก็ต้องการรักษาให้เหมือนเดิม

จากนั้นได้นำตัวผู้ต้องหาชาวจีนทั้ง 7 คน ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในจุดเกิดเหตุ ก่อนให้พนักงานสอบสวนพร้อมนำตัวกักบริเวณเพราะชาวจีนพวกนี้ไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ก่อนจะขออำนาจศาลจังหวัดกบินทร์บุรีฝากขังต่อไป