เหิมเกริม! นร.ช่าง 2 สถาบัน ไล่ยิงกันกลางสวนสุขภาพ เมืองฉะเชิงเทรา เด็ก-คนแก่หนีตายวุ่น

สุดเหิมเกริม! นร.อาชีวะ 2 สถาบันดังเมืองแปดริ้ว ไล่ยิงกันกลางสวนสุขภาพ เด็ก-คนแก่หนีตายวุ่น แม่ค้าเผย เห็นเป็นเรื่องปกติไปแล้ว มีกลุ่มนักเรียนมาก่อเหตุกันเกือบทุกเย็น



ช่วงเย็นที่ผ่านมา ( 07 มิ.ย. 67 ) ผู้สื่อข่าวได้รับคลิปจากพลเมืองดี ว่ามีกลุ่มนักเรียนช่างอาชีวะ 2 สถาบันดังเมืองแปดริ้ว ไล่ยิงกัน ระดมปาขวดเครื่องดื่มชูกำลังข้ามถนนขณะที่มีรถวิ่งสัญจร เพื่อทำร้ายคู่ตัวสู้ ซึ่งเด็กๆและชาวบ้านที่มาออกกำลังกายและนั่งพักผ่อน ยังจุดนี้ต่างแตกตื่น วิ่งหลบคมกรระสุนที่นักเรียนช่าง เปิดศึกเข้าหากัน



ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางลงไปตรวจสอบบริเวณถนนสวนสุขภาพสมเด็จพระศรีนครินทร์ ต.หน้าเมือง อ.เมืองฉะเชิงเทรา พบเศษขวดเครื่องดื่มชูกำลังแตกอยู่บนถนน ซึ่งเศษแก้วบางส่วนหลังศึกสงบ ชาวบ้านในบริเวณนั้นได้ช่วยกันเก็บเอามาไว้ใต้ต้นไม้ เพราะเกรงว่าหากใครเดินไม่ระวังอาจจะเกิดอุบุติเหตุเศษแก้วบาดขาได้



สอบถามนายปอน นามสมมุติ อายุ 15 ปี เปิดเผยว่า หลังเลิกเรียนตนเองก็มานั่งเล่นกับเพื่อนๆ ที่เก้าอี้ริมน้ำ สังเกตเห็น นักเรียนช่าง 2 กลุ่มวิ่งไล่กัน บริเวณด้านหน้า ได้ยินเสียงคล้ายระเบิดดังขึ้น 1 นัด ก่อนนักเรียนช่างอีกฝั่ง จะวิ่งลงไปบนถนน เพื่อตามล่านักเรียนช่างอีกฝั่ง ตนเองก็รู้สึกว่าไม่โอเค และไม่ปลอดภัย เพราะสวนสุขภาพมีเด็กๆ ตลอดจนผู้สูงอายุมาออกกำลังกายในช่วงเย็น ซึ่งไม่น่าจะวิ่งเข้ามาตีกันในสถานที่แห่งนี้



น.ส.อรพินธ์ เฉลิมช่วง แม่ค้าร้านไข่เจี๊ยวจ๊าว เปิดเผยว่า ขณะเกิดเหตุมีกลุ่มนักเรียนช่างขี่รถกันเป็นกลุ่มสวนมา แต่นักเรียนช่างอีกฝั่งอยู่ทางด้านสวนสุขภาพ ทำให้นักเรียนช่างกลุ่มที่ขี่รถกันมา นำรถเข้าไปจอดด้านข้างศาลาจตุรมุข ซึ่งมีถนนคั่นกลางระหว่าง 2 จุดนี้ จากนั้นจึงเกิดการเขม่นท้าทายกันไปมา ฝั่งนักเรียนช่างที่อยู่ด้านสวนสมเด็จมีอาวุธปืน จึงตะโกนด่าและเดินข้ามถนนเข้าไปหากลุ่มนักเรียนช่างอีกฝั่ง



จากนั้นกลุ่มในนักเรียนช่าง (เสื้อสีเขียว) ได้ชักอาวุธปืนออกมาจากเอว จึงสวนเข้าไปหากลุ่มคู่อริ 1 นัด ก่อนจะรีบวิ่งข้ามถนนกลับมา ทำให้กลุ่มนักเรียนช่างที่ถูกไล่ยิงและมีจำนวนมากกว่า วิ่งย้อนกลับมา นำขวดเครื่องดื่มชูกำลังที่เตรียมมา ปาใส่กลุ่มมือยิง ซึ่งขณะนั้นมีรถสัญจรผ่านไปมาบนถนน ต่างต้องหยุดรถ ให้นักเรียนช่างกลุ่มนี้วิ่งผ่านเพราะเกรงกลัวลูกหลงที่อาจจะเกิดขึ้น



น.ส.อรพินธ์ กล่าวต่อว่า ขณะที่ตนเองได้ยินเสียงปืน ก็หาที่หลบกำบัง เพราะไม่รู้ว่าเสียงปืนมาจากไหน ชาวบ้านที่มาออกกำลังกายก็แตกตื่น หยุดวิ่งเข้าหาที่กำบัง ขณะนั้นมีเด็กนักเรียนตัวน้อย ๆ กำลังจะเดินข้ามถนน เพื่อไปเข้าห้องน้ำ แต่ผู้ปกครองก็ต้องพาหลบเพราะกลัวจะโดนลูกหลง ซึ่งนักเรียนพวกนี้มาก่อเหตุกันเกือบทุกเย็น และก็จะก่อเหตุหลังจากตำรวจไปแล้ว ตนเองเป็นแม่ค้าขายของอยู่ตรงบริเวณนี้เห็นเป็นเรื่องปกติไปแล้ว เพราะมีให้เห็นเป็นประจำเกือบทุกวัน หนักบ้าง เบาบ้าง เมื่ออาทิตย์ที่แล้วก็มีกลุ่มนักเรียนช่างถือมีดสปาตาร์ขี่รถ ไล่ฟันนักเรียนช่างต่างสถาบัน พอมาอาทิตย์นี้ก็ไล่ยิงกัน อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเพิ่มช่วงเวลาในการลาดตระเวน เพราะทุกๆครั้งที่เกิดเหตุ จะเกิดขึ้นหลังจากที่เด็กช่างเห็นตำรวจไปแล้ว