อาชญากรรม
เร่งล่าคนร้ายใจเหี้ยม บุกบ้านตัดสายไฟพัดลมช็อตตาวัย 88 ดับสลด
27 พ.ค. 2567
259 views
คนร้ายใจโหด บุกเข้าบ้านสองตายายในสวนปาล์ม ใช้สายไฟพัดลมซ๊อต คุณตาวัย 88 ปี เสียชีวิตคาบ้าน พบปีที่แล้วลูกสาวถูกฆ่าทุบหัวชิงทรัพย์ คดียังเงียบ
วันที่ 27 พฤษภาคม พล.ต.ต. เสริมพันธุ์ ศิริคง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมคณะได้เดินทางไปตรวจที่เกิดเหตุ คนร้ายบุกเข้าไปใช้สายไฟช็อตทำร้ายร่างกายชาย อายุ 88 ปี เจ้าของบ้าน เสียชีวิต
โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น เมื่อเวลา 23:00 น. วันที่ 26 พฤษภาคม ร.ต.อ.ไสว ชูแก้ว รอง สว.สภ.เคียนซา รับแจ้งเหตุ มีผู้ถูกทำร้ายร่างกายเสียชีวิต ที่บ้านใน อ.เคียนซา จว.สุราษฎร์ธานี จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบและตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.อานุภาพ จันดิถวงค์. ผกก.สภ.เคียนซา พฐ.8 กู้ภัยกุศลศรัทธาพ่วงพรมคร
ที่เกิดเหตุ เป็นปูนชั้นเดียว ปลูกอยู่ในสวนปาล์มน้ำมัน และยางพารา เนื้อที่ประมาณ ห่างไกลจากชุมชน ภายในบ้านบริเวณห้องโถง พบผู้เสียชีวิต ทราบอายุ 88 ปี เจ้าของบ้าน ตามลำตัวมีบาดแผลเป็นรอยช้ำจากถูกไฟช็อต ส่วนที่ลำคอมีร่องรอยบาดแผลจากการถูกรัด ตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุมีร่องรอยการต่อสู้ และพบคราบเลือดติดอยู่ที่พัดลม
นอกจากนั้นเจ้าหน้าที่ยังพบสายไฟปลั๊กพัดลมที่ถูกตัดขาดออกจากพัดลม และเชื่อว่าคนร้ายใช้เป็นตัวนำไฟฟ้าช็อตร่างกายจนเสียชีวิต จึงได้ทำการตรวจเก็บพยานหลักฐานรวมทั้งดีเอ็นเอในที่เกิดเหตุอย่างละเอียด
เบื้องต้นจากการสอบภรรยา อายุ 87 ปี ทราบว่า ตนและสามีอาศัยอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าวกันเพียง 2 คน ตนและสามีแยกห้องนอนกันก่อนเกิดเหตุตนได้ยินเสียงต่อสู้ทำร้ายกัน และพบว่าสามีกำลังต่อสู้อยู่กับคนร้าย ซึ่งเป็นผู้ชาย สวมหมวกปกคลุมใบหน้า ใช้สายไฟช็อตตามร่างกายของสามี จนทำให้ไฟดับทั้งบ้าน แต่ตนไม่กล้าออกมา ทำได้แต่หลบซ่อนตัวอยู่ในห้อง รอจนกระทั่งเห็นคนร้ายออกไป จึงวิ่งไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้านข้างเคียง
ส่วนสาเหตุตนยังไม่ทราบเนื่องจากที่ผ่านมาเราไม่เคยมีความขัดแย้งกับใคร ส่วนจะเป็นการประสงค์ต่อทรัพย์หรือไม่นั้นตนก็ไม่ทราบ เนื่องจากหลังจากที่คนร้ายก่อเหตุแล้วก็ไม่ได้รื้อค้นหาทรัพย์สินแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 7 กันยายน 66 บ้านหลังดังกล่าวได้เกิดเหตุ ลูกสาวของผู้เสียชีวิต ได้ถูกคนร้ายบุกเข้ามาใช้ของแข็งทุบตีที่ใบหน้าและศีรษะจนเสียชีวิต ขณะที่พ่อและแม่ไปร่วมงานบวชหลานชายในหมู่บ้าน
ซึ่งเห็นเหตุการณ์ครั้งนั้น ตำรวจมุ่งประเด็นคนร้ายมีความประสงค์ต่อทรัพย์เนื่องจากพบว่า มีทรัพย์สินประกอบด้วยเงินสด ประมาณ 10,000 บาท และแหวนทองคำที่นิ้วของผู้ตายหายไป ซึ่งจนถึงปัจจุบันตำรวจยังไม่สามารถติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีได้ จนกระทั่งมาเกิดเหตุคนร้ายบุกเข้าไปทำร้ายร่างกายคนเป็นพ่ออีก จนเสียชีวิต
แท็กที่เกี่ยวข้อง