รวบเฒ่า 67 ฆ่าสาวใส่กุญแจมือทิ้งน้ำ อ้างถูกขู่จะบอกเมีย ว่ามีอะไรกัน

วันนี้ (8 พ.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. พล.ต.ต.ทรงพล บริบาลประสิธิ์ ผบก.ภจว.ร้อยเอ็ด พ.ต.อ.ศักดิ์สิทธิ์ ศรีผ่องงาม ผกก.สภ.จังหาร พ.ต.ท.ญานวุฒิ คุ้มบัวลา รอง ผกก.(สอบสวน) พ.ต.ท.สุระเดช โง้วศิริ รอง ผกก.(สืบสวน)พ.ต.ท.มานพ เกียววานิชย์ สารวัตรสอบสวน พร้อมชุดสืบสวน สภ.จังหาร ชุดสืบสวน ตร.ภ.4 ได้คุมตัวนายเคน อายุ 67 ปี อยู่บ้าน ต.ยางใหญ่ อ.จังหาร จ.ร้อยเอ็ด ผู้ต้องหาฆาตกรรม น.ส.สุภัทรา อายุ 24 ปี ชาวบ้านเดียวกัน มาทำการสอบสวนนานกว่า 10 ชั่วโมง ในที่สุดก็ให้การรับสารภาพ ก่อนคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ

ทั้งนี้จากกรณีที่ชาวบ้านพบศพหญิงใกล้สะพานข้ามแม่น้ำชี ถูกล็อคกุญแจมือไขว้หลัง เมื่อวันที่ 5 พ.ค.67 เมื่อเวลา 17.30 น. ที่ป่าละเมาะริมแม่น้ำชี บ้านเลิงคา ต.ดินดำ อ.จังหาร จ.ร้อยเอ็ด ใกล้กับสะพานข้ามแม่น้ำชี บ้านเลิงคา - ข้ามไปยัวพื้นที่ อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ ในสภาพนอนหงาย เป็นหญิงผมยาวถักเปีย สวมเสื้อคอกลมแขนยาวสีกรม แขนเสื้อมีแถบสีเหลือ กางเกงขาสามส่วนลายสกอตสีกรม สภาพศพขึ้นอืด ที่ข้อมือพบพวกกุญแจล็อคข้อมือเอาไว้ในสภาพไขว้หลัง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวแม่ของผู้เสียชีวิตและญาติมาสอบหาปม ต้องสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นและพบมีปมที่น่าสงสัยมากที่สุดคือเรื่องชู้สาว โดย ชุดสืบสวน ภูธรภาค 4 ชุดสืบสวน ภ.จว.ร้อยเอ็ด ชุดสืบสวน สภ.จังหาร ได้วางแผนติดตามและ หาหลักฐาน อย่างต่อเนื่อง

ต่อมาช่วงค่ำวันที่ 7 พ.ค.67 ชุดสืบสวน ภ.จว.ร้อยเอ็ด ชุดสืบสวน สภ.จังหาร และ เจ้าหน้าที่ พฐ.ร้อยเอ็ด ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบหลักฐานที่บ้านผู้ต้องสงสัย เก็บรายละเอียดต่างๆ เพิ่มเติม อีกครั้ง

หลังน.ส.อรอนงค์ ลูกพี่ลูกน้องผู้ตาย และเป็นคนสนิกับผู้ตายมากที่สุด เล่าว่า จากแชทในข้อความของเฟซบุ๊ก หรือติ๊กต๊อก ที่ผู้ตายคุยกับคนต้องสงสัยรายหนึ่ง ได้มีการยกเลิกข้อความ เหมือนผู้ตายปิดบังข้อมูล ไม่อยากให้รู้ว่าคุยอะไรกับใคร ซึ่งตำรวจได้นำโทรศัพท์ไปกู้คืนข้อมูลในแชท เผื่อจะเชื่อมโยงถึงสาเหตุการตายได้ ซึ่งจริงๆแล้ววันที่ 25 ผู้เสียชีวิตยังอยู่ที่บ้านและได้แชทคุยกับ อดีตสามี ที่ทำงานอยู่ปทุมธานีอยู่ สอบถามเรื่องลูก และตอนกลางวันยังพาลูกไปทำฟันอยู่เลย ก่อนจะเดินไปซอยทางบ้านผู้ต้องสงสัย และหายตัวไปในเช้าวันที่ 26 พ.ค.ที่ผ่านมา

ผู้สื่อข่าวถามว่า เคยเห็นใครไปกับผู้เสียชีวิตหรือไม่ ตรงนี้ไม่เคยเห็นเลย จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวนายเคน มาสอบเครียดตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงเช้า

เบื้องต้นเมื่อวานนี้นายเคน บอกกับผู้สื่อข่าวว่าไม่เคยรู้จัก ไม่เคยนั่งรถ ของตนเลย รถก็จอดอยู่บ้านนี้แหละ ตนเพิ่งเดินมาจากบ้านอีกหลัง มาดูที่รถที่จอดไว้ ไม่รู้เรื่อง เพราะไม่เคยพูด กับผู้เสียชีวิต ไม่รู้จักจริง ๆ ไม่เคยติดต่อเลย ตนก็งงว่าทำไม มีคนพูดว่ามารู้จักกับตน ตนอยู่ที่นี่ ถ้าเจ้าหน้าที่หรือใครอยากจะมาตรวจสอบก็ยินดีให้ตรวจสอบ ซึ่งปกติแล้ว ตนขับรถตู้รับส่งนักเรียน เข้าสู่ตัวเมืองแต่ช่วงนี้โรงเรียนปิดเทอมจึงจอดรถไว้ที่บ้านเฉยๆ ตนก็อายุปูนนี้แล้วก็งง ว่ามารู้จักตนได้ โทรศัพท์ ก็ใช้ไม่ค่อยเป็น กด ถูกบ้าง ผิดบ้าง ไม่เคยเห็นเขาผ่านมาทางนี้ และที่หายไปก็ไม่ได้สังเกต ซึ่งคำให้การ หักล้างกับ ที่ญาติผู้เสียชีวิตรวมทั้งข้อมูลในแชท ที่เจ้าหน้าที่หามาได้

หลังจากการถูกสอบเครียดนานนับ 10 ชั่วโมง จึงเปิดปากยอมรับว่าได้เป็นคนลงมือฆ่าและนำศพไปทิ้งจริง โดยเช้าวันที่ 26 เม.ย.ที่ผ่านมาผู้ตายได้มาหาที่บ้าน หลังที่มีรถตู้ ทะเบียน นข 2714 กาฬสินธุ์ที่อยู่ข้างๆ ได้พูดคุยกันและได้พาผู้ตายเข้าไปร่วมหลับนอนในห้องก่อนได้เสียกัน 1 ครั้ง

จากนั้นผู้ตายได้พูดจาว่าอยากให้ตนเองดูแลรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้น และรับเลี้ยงดู หากไม่เช่นนั้นจะเอาความลับไปบอกเมียของตน จึงได้ชวนผู้ตายออกไปคุยกันในรถตู้เกรงว่าคนอื่นจะได้ยิน แต่ตกลงกันไม่ได้ แม้ว่าจะขอร้องไว้ จึงเกิดบันดาลโทสะ นำยางในรถที่ตัดไวเป็นริ้วมารัดคอที่เบาะหลังจนหมดสติ จากนั้นเกรงว่าจะฟื้นจึงไปเอากุญแจมือ ที่เก็บไว้ในรถ มาล็อคกุญแจมือไขว้หลัง อีกครั้งกลัวฟื้นขึ้นมาเปิดประตูรถวิ่งหนี

จากนั้นจึงขับรถตู้คันดังกล่าว ว่าจะนำศพมาทิ้งลงน้ำบริเวณสะพานข้ามแม่น้ำชี ใกล้บ้านเลิงคา ต.ดินดำ อ.จังหาร จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งอยู่ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 8 กม. ระหว่างนั้นเป็นช่วง 08.00 น. มีคนตกปลาอยู่แถวสะพาน เกรงว่าจะมีผู้พบเห็นจึงไปกลับรถที่หัวสะพาน ฝั่งกาฬสินธุ์ วิ่งข้ามกลับมาเขอซอยใกล้ๆ จึงเลี้ยวเข้าไป และเอาท้ายรถถอยเข้าไปก่อนลากศพทิ้งที่จุดดังกล่าว ก่อนกลับบ้านไปล้างรถเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น และที่มีกุญแจมืออดีตเคยทำงานเป็นยาม ลูกสาวเป็นห่วงจึงซื้อรถตู้ให้ขับส่งนักเรียนในหมู่บ้าน

สอบถาม พล.ต.ต.ทรงพล บริบาลประสิทธิ์ ผู้บังคับการ ภจว.ร้อยเอ็ด เปิดเผยว่าหลังจากได้รับแจ้งเหตุการณ์ดังกล่าว ตำรวจค่อนข้างทำงานลำบาก เนื่องจากในบริเวณจุดเกิดเหตุไม่มีกล้องวงจรปิด จึงได้วางกำลังสืบสวนในพื้นที่ และสืบข้อมูลจากโทรศัพท์เพื่อหาข้อมูลการติดต่อล่าสุดของผู้ตาย ก่อนจะเรียกนายเคน มาให้ปากคำและมีการเก็บพยานหลักฐานทานิติวิทยาศาสตร์ จนสามารถขออนุมัติศาลออกหมายจับ ผู้ก่อเหตุจำนนต่อหลักฐาน ได้รับสารภาพผิดส่วนสิทธิ์ในการให้ข้อมูลก็เป็นสิทธิ์ของผู้ก่อเหตุ แต่ตำรวจก็ใช้พยานหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ ก็ต้องขอขอบคุณสื่อโซเชียลที่ช่วยกันแจ้งข้อมูลจนพบว่าผู้ตายเป็นผู้ใด และทำให้การสืบสวนสอบสวนเป็นไปอย่างรวดเร็ว จนสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาต่อนายเคน เป็นความผิดฐาน "ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา และย้ายหรือปีดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย"และได้แจ้งสิทธิของผู้จะให้การหรือไม่ให้การก็ได้ ถ้าให้การคำให้การของผู้ต้องหานั้นอาจใช้เป็นพยานหลักฐานในการพิจารณาคดีได้ และผู้ต้องหามีสิทธิ์ให้ทนายความหรือผู้ซึ่งตนไว้วางใจเช้าเข้าฟังการสอบสวนปากคำตนได้

ผู้ต้องหารับทราบข้อกล่าวหา และเข้าใจดีโดยตลอดแล้ว ได้ให้การ รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ก่อนนำตัวไปยื่นคำร้องฝากขังที่ศาลจังหวัดร้อยเอ็ดต่อไป และให้ผู้ต้องหาลงลายมือชื่อไว้เป็นหลักฐาน ระหว่างที่เจ้าหน้าที่จะนำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังที่ศาลจังหวัดร้อยเอ็ด ได้มี แม่และญาติของผู้เสียชีวิตตามมา สอบถามและจะเข้าไปทำร้ายด้วยความโกรธแค้นแต่เจ้าหน้าที่ห้ามปรามไว้ได้ทันพร้อมกับถามว่าทำอย่างนี้ทำไม แม่ผู้เสียชีวิตบอกว่าแม้จะเสียใจ แต่ส่วนหนึ่งก็ดีใจและก็ขอชื่นชมเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สามารถตามจับกุมผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีได้อย่างรวดเร็วขอชื่นชม