รวบกำนัน-เมีย พร้อมเฮโรอีนเกือบ 10 กก. ซุกในท่อแปลญวน มูลค่ากว่า 10 ล้าน

วันนี้ (21 มี.ค.) เมื่อเวลา 15.00 น. ที่กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 244 บึงกาฬ นายจุมพฏ วรรณฉัตรสิริ ผวจ.บึงกาฬ พล.ต.ต.วิญญ อำนวยสมบัติ ผบก.ภ.จว.บึงกาฬ พ.ต.ท.เทอดศักดิ์ โคตรศรีวงษ์ ผบ.ร้อย ตชด.244 นายวรพันธ์ ชำนิยัน ปลัดจังหวัดบึงกาฬ นายธีระพล ขุนพานเพลิง นายอำเภอเมืองบึงกาฬ ร่วมกันสอบปากคำและแถลงข่าวการจับกุม นายวชิระ ชินโคตร อายุ 29 ปี ชาวจังหวัดร้อยเอ็ด นายรุ่งเพชร แสงวงค์ อายุ 55 ปี และนางเพ็ขรัตน์ โคตรวังอวน อายุ 53 ปี ชาวสกลนคร หลังถูกตำรวจตระเวนชายแดนที่ 244 บึงกาฬ จับกุมได้ในพื้นที่บ้านท่าอินทร์แปลง ต.โคกก่อง อ.เมืองบึงกาฬ ขณะกำลังยกกระเป๋าภายในเป็นโครงเปลญวนที่ซุกซ่อนเฮโรอีนประมาณ 9,290 กรัม มูลค่าเกือบ 10 ล้านบาท ไว้ในโครงเหล็กสแตนเลส ขึ้นใส่ท้ายรถเก๋ง ยี่ห้อนิสสัน รุ่นอัลเมลา สีขาว หมายเลขทะเบียน กม 1299 สกลนคร โดยการบูรณาการกำลังกับ ตำรวจชุดสืบสวน ภ.จว.บึงกาฬ ตร.สภ.เมืองบึงกาฬ และทหารกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี

หลังจากตำรวจตระเวนชายแดนที่ 244 พบกระเป๋าต้องสงสัยดังกล่าวคาดว่าจะมียาเสพติดอยู่ภายใน วางอยู่บริเวณริมถนนหมายเลข 212 บึงกาฬ - นครพนม บ้านท่าอินทร์แปลง ต.โคกก่อง เมืองบึงกาฬ เมื่อเข้าตรวจสอบกระเป๋าพบว่า ภายในบรรจุโครงเหล็กอลูมิเนียมแบบแขวนเปลญวนลักษณะพับเก็บได้ และมีน้ำหนักมากเกินจะเป็นแปลธรรมดา จึงวางกำลังดักซุ่มบริเวณโดยรอบ จนกระทั่งพบรถยนต์เก๋งสีขาว คันของกลางขับเข้ามาบริเวณที่เกิดเหตุและจอดใกล้กับกระเป๋าต้องสงสัย และมีผู้ต้องสงสัย 2 คน ลงจากรถแล้วเดินมายกกระเป๋าเพื่อจะนำขึ้นรถ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แสดงตัวเข้าทำการจับกุม และตรวจคันรถ พบผู้ต้องหา 3 คน จากนั้นนำกระเป๋าต้องสงสัยมาตรวจสอบต่อหน้าผู้ต้องหาทั้ง 3 พบเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 1(เฮโรอีน) จำนวนมากซุกช่อนภายในโครงเหล็กอลูมิเนียม จึงตรวจยึดไว้เป็นของกลาง จากนั้นจึงได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมดมาที่ กองร้อย ตชด.244 สอบสวนขยายผล

โดยนายจุมพฏ วรรณฉัตรสิริ ผู้ว่าราชการจังหวัด กล่าวว่า จากการสอบถามทราบว่า 1 ในผู้ต้องหา เป็นถึงกำนันอยู่ในพื้นที่อำเภอโพนนาแก้ว จ.สกลนคร ซึ่งให้การว่าไม่ทราบมาก่อนว่าในแปลญวนจะมียาเสพติด ตนเองทำหน้าที่เพียงขับรถให้ นางเพ็ชรัตน์ ซึ่งเป็นภรรยา ที่บอกให้พามาจังหวัดบึงกาฬ เท่านั้น และนายวชิระ รับว่ายาเสพติดทั้งหมดเป็นของตนจริง โดยได้รับค่าจ้างเป็นเงินจำนวน 50,000 บาท ให้นำไปส่งในพื้นที่ กทม. และได้ชักชวนนางเพ็ชรัตน์ มาขนด้วยโดยจะจ่ายเงินให้ครึ่งหนึ่งหลังส่งมอบยาเสพติดถึงที่หมาย หลังจากนี้ได้มอบหมายให้ตำรวจประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้มาตราการยึดทรัพย์ของผู้ต้องหาทั้ง 3 รายต่อไป ส่วนนายรุ่งเพชร ที่เป็นกำนันนั้น นอกจากจะโดนคดีอาญาแล้ว ยังต้องโดนคดีทางวินัยด้วย เนื่องจากเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ แต่กลับทำผิดซะเอง ซึ่งขึ้นอยู่กับทางสังกัดในจังหวัดสกลนครจะดำเนินการอย่างไร

อย่างไรก็ตามในส่วนของจังหวัดบึงกาฬ เองนั้นฝากเตือน หากมีเจ้าหน้าที่หน่วยงานของรัฐ ไม่ว่าหน่วยไหน สังกัดไหน จะข้าราชการ ลูกจ้าง ก็แล้วแต่ ถ้าหากยุ่งเกี่ยวหรือมีส่วนเกี่ยวกับการค้า การขาย การขนส่งลำเลียงยาเสพติด ตนในฐานะพ่อเมือง ไม่เลี้ยงไว้แน่นอน และจะให้ไปอยู่ในส่วนที่ควรอยู่ และใช้มาตรการของรัฐจัดการขึ้นเด็ดขาดทันที