พระไม่ช่วย! พ่อค้ายากำพระกริ่งท่องคาถา หวังบังตาตร. สุดท้ายโดนรวบ ยึดของกลางเกือบ 3,000 เม็ด

พระไม่ช่วย! พ่อค้ายาชาวลาวรายสำคัญ หนีกบดานไทย กำพระกริ่งท่องคาถา หวังบังตา ไม่ให้ตร. เจอยาบ้า สุดท้ายโดนรวบ ยึดของกลางเกือบ 3,000 เม็ด ซ่อนในป่ากล้วยข้างบ้าน



นายวิบูรณ์ แววบัณฑิต ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดมหาสารคามและเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.กำพี้ เข้าจับกุมตัว ท้าวเนแกน แสงมะลา (สัญชาติลาว) อายุ 29 ปี ที่อยู่บ้านนาช้างข้าม เมืองคูณคำ แขวงคำม่วน สปป.ลาว ชึ่งเป็นพ่อค้ายาบ้ารายสำคัญที่หลบเข้ามาอาศัยกับภรรยาชาวไทยในเขตอำเภอบรบือ  หลังเจ้าหน้าที่ทำการล่อซื้อยาบ้า 62 เม็ดด้วยเงินสด 2,000 บาท และค้นบ้านพบยาบ้าเพิ่มเติมอีกจำนวน 2,945 เม็ด รวมล่อซื้อ 3,007 เม็ด



นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ยังได้ตรวจยึดทรัพย์สินจากการค้ายาบ้า รถจักรยานยนต์จำนวน 1คัน รถยนต์เก๋ง จำนวน 1 คัน เงินสดจำนวน 2,500 บาท อายัดบัญชีเงินสดในธนาคารจำนวน 60,000 บาท โทรศัพท์จำนวน 2 เครื่อง



เหตุเกิดที่บริเวณ บ้านเลขที่ 41 ม. 2 บ้านดอนงัว  ต.ดอนงัว  อ.บรบือ จ.มหาสารคาม ชึ่งเป็นบ้านภรรยาชาวไทย โดยหลังจากล่อซื้อสำเร็จเจ้าหน้าที่ได้เข้าจู่โจมจับกุมท้าวเนแกน จากการตรวจค้นพบเงินสดล่อซื้อ จำนวน 1,900 บาท ที่ถูกถ่ายเอกสารไว้ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จึงขอตรวจค้นบ้านทั้งในห้องนอนและบริเวณรอบบ้าน และพบยาบ้า จำนวน 2,945 เม็ด ถูกฝังดินอยู่ในป่ากล้วยข้างบ้าน



ระหว่างตรวจค้นบ้านพบว่า ท้าวเนแกน ได้หยิบพระกริ่งปวเรศ ขึ้นมากำไว้ที่มือ จากนั้นก็สั่นพระกริ่ง ตลอดเวลาทำให้มีเสียงดังกริ๊ง ๆ และมีเสียงบ่นพึมพำคล้ายคนท่องคาถาเพื่อไม่ให้ จนท.พบเจอยาบ้า แต่สุดท้ายเจ้าหน้าที่ก็ตรวจค้นพบยาบ้า เจ้าหน้าที่จึงได้บอกว่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริงหากตนเองทำผิดจะมาอาศัยพระช่วยเหลือก็เป็นไปไม่ได้ หากยิ่งถือไว้เจ้าหน้าที่ก็อาจจะค้นพบยาบ้ามากกว่านี้ก็เป็นไปได้ ท้าวเนแกนจึง ได้เรียกพ่อตาของตนเองมารับพระไปเก็บไว้    



โดยท้าวเนแกนให้การว่า ซื้อยาบ้ามา 2,000 เม็ด 18,000 บาท มาจากเพื่อนชาวลาวทางเฟซบุ๊ก และนำมาขายเม็ดละ 30-50บาท มีกลุ่มลูกค้าเป็นวัยรุ่นในพื้นที่



จากการตรวจสอบพบว่าพาสปอร์ตของท้าวเนแกนหมดอายุอีกด้วย  เจ้าหน้าที่จึงได้ประสานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองมหาสารคามมาแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มในข้อหาหลบหนีเข้าเมือง และได้นำตัวท้าวเนแกน พร้อมของกลางทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวน สภ.กำพี้ เพื่อดำเนินคดีต่อไป