อาชญากรรม

กระบะชน จยย.พ่วงข้างผัวเมีย ดับ 1 จับเป่าเมาพุ่ง 270 บอกไม่ได้ดื่ม อ้างโดนตัดหน้า ก่อนกลับคำไม่ได้ชน

โดย weerawit_c

22 ต.ค. 2566

241 views

วานนี้ (21 ต.ค.66) เวลา 19:00 น. ร้อยตำรวจเอก สุรชาติ ไชยทองรัตน์ รอง สว.(สอบสวน) สภ. เมืองหนองบัวลำภู รับแจ้งเหตุรถชนจักรยานยนต์พ่วงข้าง เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 1 ราย ผู้บาดเจ็บ กู้ชีพนำส่งโรงพยาบาลแล้ว เหตุเกิดบนทางหลวงหมายเลข 210 หนองบัวลำภู-อุดรธานี


เมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางไปถึงพบว่าที่เกิดเหตุเป็นถนนฝั่งขาออกไป จ.อุดรธานีตรงข้ามกับแขวงทางหลวงหนองบัวลำภู มีไฟฟ้าสว่างไสว คู่กรณีฝ่ายหนึ่งเป็นรถกระบะ สีดำ ไม่ทราบยี่ห้อและรุ่น เนื่องจากพุ่งเข้าไปในป่า ห่างจากริมถนนประมาณ 20 เมตร สภาพตะแคงข้างซ้ายยกขึ้นตั้งฉากกับผิวดิน อยู่ในป่ารกทึบ มองแทบไม่เห็น ผู้อยู่ในรถออกมาแล้วจำนวน 4 คน 1 ใน 4 เป็นพระสงฆ์ วัยใกล้เคียงกัน ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด


คู่กรณีอีกฝ่ายเป็นรถ จยย.พ่วงข้างยี่ห้อ Honda รุ่น Wave ตัวพ่วงข้าง เป็นกระบะ ยกขึ้นสำหรับ บรรทุกสิ่งของ มีร่องรอยเฉี่ยวชนที่ด้านท้ายฝั่งรถ จยย. จนท้ายยุบ จอดห่างจากจุดเฉี่ยวชนประมาณ 20 เมตร ถัดจากรถ จยย.พ่วงข้างประมาณ 10 เมตร พบ ศพผู้ชาย


ทราบชื่อภายหลังคือนาย จำรอง ผิวเวียง อายุ 51 ปี อยู่ที่ตำบลเมืองใหม่ อำเภอศรีบุญเรือง จังหวัดหนองบัวลำภูนอนหงายเสียชีวิตอยู่ริมทางซึ่งทำเป็นจุดพักรถ ผิวจราจรเป็นทางดินบดอัดแน่นโรยกรวด มีรอยล้อรถ วิ่งจากจุดชน ขับคร่อมร่างผู้ตายไปจนหัวปักเข้าป่า และทราบว่ามีผู้หญิง ได้รับบาดเจ็บสาหัส อีก 1 คน คือนางตีบ ผิวเวียง อายุ 56 ปี เป็นภรรยาของผู้ตาย โดยมีรถกู้ชีพของ อบต.โนนทัน นำส่งโรงพยาบาลแล้ว


เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สอบถาม ชายคนหนึ่งใส่เสื้อสีชมพู ทราบชื่อภายหลังคือนาย สุรพันธ์ เสวภาค อายุ 53 ปี เป็นชาวจังหวัดสุรินทร์ รับว่าเป็นผู้ขับรถกระบะคันดังกล่าว ผู้สื่อข่าวสอบถาม นายสุรพันธ์ ซึ่งมีอาการคล้ายคนเมา เล่าว่า ตนกลับจากไปส่งพระรูปหนึ่ง ที่วัด ในอำเภอนาวัง จังหวัดหนองบัวลำภู กำลังจะกลับไปที่อุดรธานี ถึงที่เกิดเหตุ นายสุรพันธ์อ้างว่า มีรถ จยย.พ่วงข้างเลี้ยวตัดหน้า จึงเกิดการชนขึ้น แล้วลาก รถและผู้ตาย ไปไกลประมาณ 30 เมตร ก่อนรถของตนจะพุ่งตกถนน ซึ่งเป็นเหวลึก แต่โชคดี มีต้นไม้ ขึ้นหนาแน่น จึงทำให้รถพลิกตะแคงข้าง ติดอยู่ ปากเหว ไม่ได้รับบาดเจ็บ ทั้ง 3 คนและพระสงฆ์ 1 รูป


ต่อมา รตอ.สุรชาติ ไชยทองรัตน์ ร้อยเวร ได้ทำการ ใช้เครื่องเป่า ตรวจวัดแอลกอฮอล์ จากนายสุรพันธ์ พบว่ามีปริมาณแอลกอฮอล์ ในลมหายใจถึง 270 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ แต่นายสุรพันธ์ ปฏิเสธเด็ดขาดว่าตนไม่ได้ดื่มไม่ได้เมา ทั้งเพื่อนที่นั่งมาในรถด้วย ก็พยายามยืนยันว่านายสุรพันธ์ ไม่เมา และยังบอกว่า พวกตนมากับพระจะเมาได้ยังไง ทางร้อยเวรจึงแจ้งว่าไม่เป็นไร เดี๋ยวไปตรวจเลือดที่โรงพยาบาล ก็จะทราบผลชัดเจน ว่าเมาหรือไม่


เวลาต่อมาแพทย์เวรจากโรงพยาบาลหนองบัวลำภู เดินทางมาถึง จึงร่วมกับเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยนเรศวร หนองบัวลำภู ทำการชันสูตรพลิกศพพบว่า มีบาดแผลลึกที่ศีรษะ เป็นเหตุให้เสียชีวิต ส่วนตามร่างกาย พบบาดแผลเล็กน้อย คอไม่หัก จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัว นายสุรพันธ์ ไปตรวจเลือดที่โรงพยาบาล เพื่อตรวจหาปริมาณแอลกอฮอล์ในเส้นเลือด แต่ก่อนไปนายสุรพันธ์ โชเฟอร์รถกระบะคันเกิดเหตุได้แจ้งต่อ เจ้าหน้าที่ตำรวจใหม่ว่าตนไม่ได้ชนรถ จยย.พ่วงข้างของนายจำรอง แต่เป็นรถคันอื่นที่ชนไว้ก่อนหน้าตนแล้ว ตนผ่านมาพบตกใจพยายามหักหลบจนพุ่งเข้าป่า


ซึ่งทางตำรวจก็ไม่ได้ว่าอะไรแม้จะมีรอยล้อรถของนายสุรพัธ์แสดงร่องรอยชัดเจนว่าวิ่งมาชนท้ายจนนางตีบ ภรรยาผู้ตายจนตกจากรถได้รับบาดเจ็บสาหัส แล้วเลยลากศพนายจำรองและรถ จยย.พ่วงข้าง ออกไปกองอยู่ข้างถนนก็ตาม จากนั้น จนท.จึงนำรถของคู่กรณีทั้งสองฝ่าย ไปเก็บไว้ที่ สภ.เมืองหนองบัวลำภู เพื่อให้ ตำรวจพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบหาร่องรอยหลักฐานเพิ่มเติมตามระเบียบต่อไป


ภายหลังทราบข่าวว่า สองผัวเมียขี่รถ จยย.พ่วงข้างมีอาชีเก็บเศษขยะขาย ปกติจะเก็บอยู่ในตัวเขตอำเภอศรีบุญเรืองเป็นหลัก เมื่อเช้าวันนี้ยังมีชาวบ้านเห็น สองผัวเมียไปเก็บขยะในตลาดอยู่เลยไม่ทราบเหตุใดจึงมาประสบเหตุยามค่ำคืนบนทางสาย หนองบัวลำภู - อุดรธานี จนเสียชีวิตและบาดเจ็บดังกล่าว

คุณอาจสนใจ

Related News