สยบไอ้คลั่งกัญชา เงื้อมีดจะแทงสาวท้อง 8 เดือน สามีรับคมมีดแทนเมีย ดับสลด

หนุ่มหลอนกัญชา เงื้อมีดจะแทงสาวท้อง 8 เดือน แต่สามีเอาตัวเข้าขวาง จึงถูกคมมีดแทงเข้าเต็มอก นอนจมกองเลือดสาหัส แล้วไปเสียชีวิตที่ รพ. หลังก่อเหตุคนร้ายวิ่งหนีไปกบดานอยู่บนตึกห้องเช่า ถือมีดข่มขู่ตลอดเวลา เจรจากว่า 2 ชั่วโมงไม่เป็นผล ตร.จึงใช้ยุทธวิธีสยบไอ้คลั่งกัญชา จับตัวดำเนินคดี

เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 5 ก.ย.2566 ร.ต.อ.วรกฤติ พาเรือง รอง สว.(สอบสวน) สภ.บางเสาธง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ ได้รับแจ้งเหตุ มีผู้ถูกทำร้ายร่างกายด้วยอาวุธมีด ได้รับบาดเจ็บสองราย มีหนึ่งรายอาการสาหัส เหตุเกิดภายในหมู่บ้านการเคหะเมืองใหม่บางพลี ซอยเทศบาลบางเสาธง 6 ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงนำกำลังเข้าตรวจสอบ พร้อมประสานอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูและแพทย์เวร รพ.บางเสาธง และ รพ.บางบ่อ เข้าให้การช่วยเหลือ

ที่เกิดเหตุพบ ผู้บาดเจ็บ 2 คน รายแรกเป็นชายนอนจมกองเลือดอยู่บนพื้น หายใจรวยริน อาการสาหัส เจ้าหน้าที่จึงเร่งทำ CPR ช่วยชีวิต ทราบชื่อนายพรเทพ ศรีวรรณ อายุ 29 ปี ถูกมีดแทงกลางอก ทีมกู้ชีพจาก รพ.บางบ่อ จึงเร่งเคลื่อนย้ายส่ง รพ.จุฬารัตน์ 5 ใกล้ที่เกิดเหตุฯ แต่ผู้บาดเจ็บ ทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตในเวลาต่อมาที่โรงพยาบาลฯ

ส่วนผู้บาดเจ็บอีกรายเป็นหญิง ทราบชื่อ น.ส.ศิริพร สิงห์ขัน อายุ 37 ปี เป็นภรรยาของผู้เสียชีวิต ซึ่งกำลังตั้งครรภ์ได้ 8 เดือน ได้รับบาดเจ็บที่หัวเข่าทั้งสองข้าง และที่ริมฝีปากเป็นแผลแตก จากการหนีตาย จนรถจักรยานยนต์ล้มคว่ำ เจ้าหน้าที่ให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้น เร่งนำส่งไป รพ.บางนา 2

น.ส.ศิริพร ภรรยาของผู้เสียชีวิต ได้เล่าเหตุการณ์ให้ผู้สื่อข่าวฟังก่อนไป รพ.กล่าวว่า ตนเและสามีพักอยู่ที่บ้านเช่า อยู่ในซอยเดียวกันห่างไป 4 ห้อง ขณะที่ขี่ จยย.กลับมาจากซื้ออาหาร เพื่อเข้าบ้านพักผ่อน สังเกตเห็นว่ามีชายวัยกลางคนรายหนึ่งกำลังยืนตัดต้นกัญชาของเพื่อนบ้านที่ปลูกเอาไว้หน้าบ้าน จึงชะลอรถหันไปถามว่าทำอะไร คนร้ายจึงถามกลับมาว่ามึงเป็นใคร จากนั้นชักมีดพยายามแทงใส่ตน จนสามีต้องเร่งเครื่องบิดหนีตาย แต่ไปไม่ไกลรถเสียหลักล้ม

คนร้ายจึงตามมาหมายจะแทงตน แต่สามีโดดเข้ามาขวางรับมีดแทน จึงถูกแทงที่กลางอก ส่วนคนร้าย หลังก่อเหตุได้วิ่งหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ยืนยันว่าไม่เคยรู้จักหรือเห็นหน้าคนร้ายมาก่อน ส่วนเจ้าของบ้านต้นกัญชานั้น ไม่ใช่ของคนร้ายเพราะบ้านที่ปลูกกัญชาอยู่ห่างจากบ้านที่ตนเช่าแค่ 4 หลัง

ด้านนายจำรูญ พูลสวัสดิ์ อายุ 47 ปี เจ้าของต้นกัญชา กล่าวว่า ตนปลูกต้นกัญชาไว้ตั้งแต่รัฐบาลประกาศให้ปลูกได้เสรี จึงปลูกไว้หน้าบ้านเพื่อแบ่งปัน ใครอยากจะมาเด็ดไปปรุงอาหาร ก็อนุญาตให้ และมักจะมีชาวบ้านแถวนี้มาเด็ดเป็นประจำ ส่วนผู้ก่อเหตุ มีคนจำได้ว่ามาเด็ดบ่อย ดูเหมือนจะเป็นคนสติไม่ค่อยสมประกอบ และพักอาศัยอยู่ในซอย ซี 3 ซึ่งอยู่ถัดไป ช่วงค่ำตนยังคุยกันอยู่ว่าจะตัดต้นกัญชาทิ้งแล้ว เนื่องจากตนไม่ค่อยได้จะนำมาใช้ประโยชน์ มีแต่คนมาหน้าแปลกตามาตัดอยู่บ่อย กลัวเรื่องความปลอดภัยอยู่เหมือนกัน แต่ยังไม่ทันได้ตัดก็มาเกิดเหตุการณ์เศร้าสลด

ส่วนชาวบ้านอีกสองคนที่เห็นเหตุการณ์ ได้พูดคล้ายกันว่า เห็นคนร้ายรายนี้มาตัดต้นกัญชา ซึ่งเป็นจังหวะที่สองผัวเมียกลับมาเจอพอดี จึงถูกคนร้ายแทง ได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตในเวลาต่อมา

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางเสาธง ได้จัดกำลังลงพื้นที่ไล่ล่าตัวคนร้ายทันที โดยนำกำลังเข้าไปปิดล้อมอยู่หน้าบ้านหลังหนึ่ง เบื้องต้นทราบตัวผู้ก่อเหตุคือ นายอนุ บุญกลั่นสอน อายุ 33 ปี อาจเป็นคนมีอาการทางระบบประสาท โดยบ้านพักอยู่ในซอย C 3 ซึ่งห่างจากซอยที่เกิดเหตุเพียง 200 เมตร

หลังเกิดเหตุตำรวจจึงนำกำลังทั้งสายตรวจและอาสาสมัครกว่า 50 นาย เข้าปิดล้อมบ้านพักของคนร้าย ทันทีที่นายอนุ ผู้ก่อเหตุ เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ปีนหนีออกหลังบ้าน ขึ้นไปหลบอยู่บนหลังคาบ้านข้างเคียง โดยถือมีดติดมือตลอดเวลา และไม่ยินยอมให้ใครเข้าใกล้ ถึงแม้ว่าแม่ของผู้ก่อเหตุ เข้ามาขอร้องให้วางมีด ลงมามอบตัวกับตำรวจฯ แต่ไม่เป็นผล โดยใช้เวลาเจรจาอยู่นานกว่า 2 ชั่วโมง

กระทั่งเวลาประมาณ 02.30 น. พ.ต.อ.โสภณ มงคลโสภณรัตน์ ผกก.สภ.บางเสาธง หรือ ผกก.โอ๋ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน เตรียมความพร้อมใช้ยุทธวิธี ดูจังหวะที่ผู้ก่อเหตุเผลอ ใช้กระสุนยางยิงเข้าใส่เพื่อสยบคนร้าย และสามารถเข้าจับกุมตัวได้สำเร็จ จากนั้นจึงควบคุมตัวผู้ก่อเหตุฯ ไปให้แพทย์ รพ.บางบ่อ รักษาอาการบาดเจ็บจากการถูกกระสุนยางยิง ก่อนจะควบคุมตัวไว้ที่ สภ.บางเสาธง ทำการสอบสวน เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

ด้าน นางมณี (นามสมมติ) มารดาของผู้ก่อเหตุ กล่าวว่า ลูกชายเป็นผู้ป่วยจิตเวช มีประวัติการรักษาอยู่ที่ รพ.เจ้าสมเด็จเจ้าพระยา แล้วขอย้ายมารับยาที่ รพ.บางพลี ซึ่งอยู่ใกล้บ้าน แต่มาในระยะหลัง 2 ปีที่ผ่านมา ลูกชายไม่ยอมกินยาตามที่หมอสั่ง มักแอบทุบ โยนทิ้ง แล้วหันกับไปเสพกัญชาทุกวัน กระทั่ง 2 เดือนมานี้ เริ่มมีอาการ ทางจิตประสาทหนักขึ้น ชอบคุยคนเดียว หงุดหงิด โมโหร้าย แต่ก็ไม่เคยคุมคลั่งทำร้ายใครมาก่อน เพิ่งมาเกิดเรื่องรุนแรงที่สุดครั้งนี้