จับคาวัด พ่อค้ายาหนีมาบวช เสพไม่เว้นวันเป็นนาค อ้างตั้งใจเลิกตอนเข้าพรรษา

บุกจับหลวงพี่ เพิ่งบวช 3 วัน พร้อมเพื่อนร่วมแก๊ง ได้ของกลางยาบ้าซุกศาลาการเปรียญ ร่วม 3,000 เม็ด สารภาพทั้งขายและเสพก่อนจะมาบวชพระ รับเสพวันทำขวัญนาค เพราะสติดีไม่วอกแวก ตั้งใจจะเลิกยาเข้าพรรษา แต่ถูกจับก่อน    



เมื่อวันที่ 27 ก.ค. 66 พ.ต.ท.วิชาญ กระจ่างโพธิ์ รอง ผกก.ฯ หัวหน้าชุดปฎิบัติการปราบปรามยาเสพติด(ชป.ปส.) ภ.จว.บุรีรัมย์ ,พ.ต.ต.สุวัฒน์ นามมงคล สว.ฯรองหัวหน้า ชป.ปส.ฯ ,ร.ต.อ.วินัย แสงอรุณ รอง สว.ฯหัวหน้า ชปส.ตชด.215 และ ร.อ.รัชกฤต อุ่นธรรม หัวหน้าหน่วยปราบปรามยาเสพติด ขกท.ศปก.ทบ.(นฝด.22, ขกท.กกล.สุรนารี) พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชป.ปส.ภ.จว.บุรีรัมย์ ร่วมกับ ชปส.ตชด.215 , ชปส.ตชด.216 ,ชปส.กก.ตชด.21 , หน่วยปราบปรามยาเสพติด ขกท.ศปก.ทบ.(นฝด.22, ขกท.กกล.สุรนารี) ,เจ้าหน้าที่ทหาร สขว.กอ.กรมน. หน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารพราน ที่ 26 , ชุดสืบสวน สภ.ทะเมนชัย และฝ่ายปกครอง อ.เมืองบุรีรัมย์



เข้าดักจับกุมนายสมบูรณ์ หรือเล็ก อายุ 36 ปี ชาว ต.หนองบัวโคก อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ ขณะขับรถออกจากที่ทำงานเป็นฟาร์มหมูชื่อดังแห่งหนึ่งในตัวเมืองบุรีรัมย์ หลังสืบทราบว่าอยู่ในกระบวนการนักค้ายาบ้า จากการตรวจค้นรถได้ของกลางเป็นยาบ้า จำนวน 316 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในรถยนต์



จากนั้นได้ขยายผลไปเข้าจับกุมนายณัฐวุฒิ หรือพระต่อ อายุ 26 ปี เป็นพระลูกวัดแห่งหนึ่งใน ต.หนองบัวโคก อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ ได้ของกลางยาบ้าจำนวน 2,389 เม็ด



จากการสอบสวนนายเล็ก สารภาพว่าเป็นคนเลี้ยงไก่ตี แต่เอายาบ้ามาขาย ยืนยันไม่ได้เอายาบ้าให้ไก่กิน แต่ยอมรับเสพยาบ้าจนติดแล้ว โดยเฉพาะนายณัฐวุฒิ หรือพระต่อ ให้การยอมรับสารภาพว่า



ตนเองรู้จักสนิทสนมกับนายเล็กมานานแล้ว โดยก่อนบวชตนเป็นผู้ดูแลไก่ชนให้กับนายเล็ก ได้ค่าจ้างเป็นยาบ้าเอาไว้เสพ คิดอยากเลิกหลายครั้งแต่เลิกไม่ได้ จึงปรึกษาพ่อแม่ย่าอยากจะบวชเป็นพระ ก่อนพ่อแม่จัดพิธีบวชให้ เมื่อ 3 วันก่อนหน้านี้ ส่วนหนึ่งอยากจะบวชเพื่อทดแทนบุญคุณพ่อแม่ แต่ความอยากยาบ้ายังไม่หาย



เสพทุกวันเช้า-เที่ยง-เย็น เฉลี่ยวันละ 3-4 เม็ดหรือมากกว่าหากมีของ วันเป็นนาคก่อนจะบวช เสพอีก 4 เม็ด เพื่อให้สมาธินิ่ง ไม่วอกแวกตอนพิธีการบวช และตั้งใจไว้ว่าจะเลิกยาเข้าพรรษา แต่มาถูกจับก่อน



หลังสอบสวน จนท.นำตัวพระต่อมาให้เจ้าอาวาสวัดทำการสึก ก่อนจะส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองบุรีรัมย์ ดำเนินคดีในข้อหากระทำผิดฐาน “ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยกระทำเพื่อการค้า และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน)โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย”