มอบตัว หนุ่มกร่างนามกสกุลดัง ขับรถหรูชักปืนขู่กลางถนน ค้นบ้านเจอปืน 13 กระบอก

ผู้การเชียงใหม่ ร่วมสอบปากคำ หนุ่มกร่างลูกหลานนักการเมืองนามสกุลดังเชียงใหม่ หลังขับเบ็นซ์ปาดหน้าจอดขวางชักปืนขู่หนุ่มนักธุรกิจลูกครึ่ง กลางถนน ล่าสุดเข้ามอบตัวกับตำรวจแล้ว ขณะที่ตำรวจขอหมายศาลเข้าตรวจค้นบ้านพักพบอาวุธปืนหลายขนาด 13 กระบอก และเครื่องกระสุน จำนวนมากอายัดไว้ตรวสอบ พร้อมดำเนินคดีพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่มีใบอนุญาต และข้อหาทำให้ตกใจกลัว

ความคืบหน้กรณีที่หนุ่มลูกหลานนักการเมืองชื่อดังเชียงใหม่สุดกร่าง ชักปืนขู่คู่กรณีกลางสี่แยกไฟแดง เหตุไม่พอใจถูกบีบแตรใส่เพราะขับปาดหน้า ขณะที่ผู้เสียหายนักธุรกิจลูกครึ่งเยอรมันหวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรมหลัง นำหลักฐานคลิปกล้องหน้ารถเข้าแจ้งความเอาผิดแล้ว แต่ตำรวจกลับนำภาพคนอื่นมาให้ชี้ตัว หวั่นมีการสลับตัว แถมผู้ก่อเหตุโพสต์เย้ยอ้างเคลียร์ตำรวจได้ พร้อมข่มขู่จะยิงทิ้ง จนเกรงกลัวไม่รับความปลอดภัย ขุดโซเชียลพบโพสต์ภาพถ่ายกับอาวุธปืนเป็นประจำ แม้กระทั่งพกเข้าไปเที่ยวในสถานบันเทิงชื่อดังย่านนิมมานฯ ชนิดไม่ยำเกรงกฎหมาย ชี้ชัดปล่อยปละละเลยอาจกลายเป็นภัยสังคมร้ายแรงก่อเหตุสลดอย่างไม่คาดฝัน จี้ต้องเร่งกำจัดตัดไฟแต่ต้นลม

โดยช่วงเช้าที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ดอยสะเก็ดได้ขออนุมัติหมายศาลเข้าตรวจค้นบ้านของผู้ที่ก่อเหตุ ในพื้นที่อำเภอดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ผลจากการตรวจต้นไม้พบตัวผู้ต้องหาแต่พบอาวุธปืนจำนวนมากทั้งปืนสั้น ปืนยาวหลายขนาด จำนวนมากถึง 13 กระบอกด้วยกัน เบื้องต้นพบว่าเป็นปืนที่มีใบอนุญาตซึ่งของผู้ก่อเหตุจำนวน 3 กระบอก และของพ่อของผู้ก่อเหต และมี 8 กระบอกที่เป็นชื่อผู้อื่นซื้อขายแล้วไม่มีการโอน จึงได้ตรวจยึดและดำเนินคดี ในข้อหาครอบครอบอาวุธปืนของผู้อื่นเพิ่มเติม

หลังจากนั้นแม่ของผู้ก่อเหตุได้พาลูกชายซึ่งเป็นคนในคลิปอายุ 25 ปี เข้ามอบตัวกับ สภ.แม่ปิง จ.เชียงใหม่ หลังจากนั้นก็ได้ให้ผู้เสียหายชี้ตัว ซึ่งผู้ก่อเหตุเองกยอมรับว่าตนเองเป็นคนในคลิปภาพ

หลังจากนั้นช่วงเวลาประมาณ 15.00 น. พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ได้เดินทางมาร่วมสอบปากคำเพิ่มเติม โดยผู้ต้องหารับสารภาพว่า ที่ก่อเหตุไปเพราะเกิดจากความโมโห ที่มีการบีบแตรรถใส่กันโดยอ้างว่าผู้เสียหายได้ชูนิ้วกลางให้ตนเอง และมีการเปิดกระจกตะโกนต่อว่ากัน แต่พอจอดรถปาดหน้าแล้วตนเองก็เตรียมอาวุธปืนไว้เพื่อป้องกันตัวหวั่นว่าจะถูกทำร้ายร่างกายด้วยจึงได้นำอาวุธปืนออกมาเตรียมไว้

หลังจากนั้น พล.ต.ต.ธวัชชัย ได้เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า ผู้ก่อเหตุรับสารภาพทั้งหมดว่าเป็นคนในคลิป จริง เบื้องต้นบอกว่าไม่ได้ตั้งใจก่อเหตุ ฝากขอโทษสังคม และชาวเชียงใหม่ที่ทำให้เกิดความเสื่อมเสีย ส่วนอาวุธปืนทั้ง 13 กระบอกนั้น เป็นของพ่อผู้ผู้ก่อเหตุ 2 กระบอก ของผู้ก่อเหตุ 3 กระบอก และอีก 8 กระบอกเป็นของผู้อื่นแต่มีการซื้อขายกันแล้วยังไม่ได้โอน แต่ก็ถือว่ามีความผิดที่ครอบครองอาวุธปืนของผู้อื่น

ทั้งนี้ได้แจ้งข้อหา พกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่มีใบอนุญาต และข้อหาทำให้ตกใจกลัว ทั้งนี้ก็ได้สั่งให้เจ้าน้าที่ตรวจ ท้องที่ สืบสวนเพิ่มเติม กรณีที่มีการโพสต์ภาพคู่อาวุธปืน นั้น สืบเนื่องมากจากที่บ้านทั้งพ่อ และผู้ก่อเหตุชอบอาวุธปืน และพ่อเป็นนักกีฬายิงปืน แต่ในส่วนจองผู้ก่อเหตุก็จะให้เจ้าหน้าที่ทำเรื่องเพิกถอนในอนุญาตครอบครองอาวุธปืนด้วย

อย่างไรก็ตามมีรายงานว่าตอนนี้มีผู้เสียหายเพิ่มเติม ซึ่งพบว่าเป็นผู้ก่อเหตุรายเดียวกัน ก่อเหตุในลักษระเดียวกัน ที่มีการขับรถปาดหน้าจอดขวางและใช้อาวุธปืนข่มขู่ ตอนนี้กำลังมาแจ้งความที่สภ.แม่ปิงเพิ่มเติม