รวบดาบตำรวจ อคฝ. ครอบครองรถถูกขโมยจากมาเลฯ พร้อมเครื่องตัดสัญญาณ-ทะเบียนปลอม

วันนี้ (29 มี.ค.) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. ผอ.ศปจร.ตร. พ.ต.อ.สุรพันธ์ มั่งคงดี รองผบก.ปพ. หัวหน้าชุดปฏิบัติการที่ 2  พ.ต.อ.บริพัตร คงเพชร เจ้าหน้าที่ ประจำชุดปฏิบัติการที่ 2 ศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปจร.ตร.) สั่งการให้ ร.ต.อ.หญิงชมพูนุช แสงชมภู ด.ต.โกสินทร์ สุดถนอม เจ้าหน้าที่ ประจำชุดปฏิบัติการที่ 2 ศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปจร.ตร.) ร่วมกับ พ.ต.ท.ไชยา ภูละมุล รอง ผกก.สส.สน.บางเขน พ.ต.ต.พรชัย ว่องประเสริฐการ สว.สส.สน.บางเขนและชุดสืบสวนสน.บางเขน จับกุม ด.ต.ไอศูรย์ งามสอน อายุ 50 ปี ผบ.หมู่ กองร้อยที่ 4 กก.อารักขาฯ 2 บก.อคฝ.

พร้อมของกลาง รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน (ร.ย.1) ยี่ห้อ TOYOTA รุ่น HILUX  สีดำ ติดแผ่นป้ายทะเบียน หน้า-หลัง หมายเลข 3 กฒ 3798 กรุงเทพมหานคร  1 คัน แผ่นป้ายทะเบียน 3 กฒ 3798 กรุงเทพมหานคร  จำนวน 2 แผ่น ( ติดอยู่บริเวณด้าน หน้า – หลัง ) แผ่นป้ายทะเบียน ก 3225 สุราษฎร์ธานี (ป้ายแดง) 1 แผ่น (วางอยู่เบาะหลัง) แผ่นป้ายทะเบียน ฬ 6366 กรุงเทพมหานคร (ป้ายแดง) 1 แผ่น (วางอยู่เบาะหลัง) กุญแจรีโมท เปิด-ปิด รถยนต์ จำนวน 1 ดอกอุปกรณ์ตัดสัญญาณคลื่นเครือข่ายมือถือ 1 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง

สืบเนื่องจาก ชุดปฏิบัติการที่ 2 ศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปจร.ตร.) ได้รับแจ้งว่า มีรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน (ร.ย.1) ยี่ห้อ TOYOTA รุ่น HILUX  สีดำ ต้องสงสัยเป็นรถยนต์ที่ถูกโจรกรรมและลักลอบนำเข้าจากประเทศมาเลเซีย เจ้าหน้าที่จึงได้เร่งติดตามตรวจสอบรถต้องสงสัยดังกล่าวทราบว่า หลังพบข้อมูลว่ามีเจ้าของรถยนต์ดังกล่าวเป็นชาวมาเลเซียให้ข้อมูลว่า มีชายชาวมาเลเซียคนหนึ่ง เช่ารถจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ ก่อนพบว่ารถยนต์ถูกขับข้ามมาอยู่ประเทศไทยในวันที่ 27 มี.ค.ที่ผ่านมา

จากการตรวจสอบพบว่า มีการขับขี่รถยนต์ดังกล่าวมาจอดที่คอนโดมิเนียมที่เกิดเหตุในช่วงเช้าวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา จากการลงพื้นที่ตรวจสอบพบรถยนต์คันดังกล่าว โดยมีผู้ครอบครอง ด.ต.ไอศูรย์  งามสอน ตำรวจสังกัดบช.น. อยู่ภายในบริเวณดังกล่าว

นอกจากนี้ จากการตรวจค้นภายในรถยนต์พบเครื่องตัดสัญญาณ 1 เครื่อง ป้ายทะเบียนสีแดง 2 แผ่น มีเป็นป้ายทะเบียนปลอมรวมอยู่ด้วย และป้ายทะเบียนที่ติดอยู่บนตัวรถ เจ้าหน้าที่แจ้งว่า ไม่มีเลขทะเบียนในระบบและเป็นป้ายทะเบียนปลอม จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้ปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จะขยายผลกรณีดังกล่าวเกี่ยวข้องกับคดีก่อเหตุโจรกรรมรถข้ามชาติหรือไม่

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ แจ้งข้อหาปลอมและใช้เอกสารราชการปลอมก่อนนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่ง สถานีตำรวจนครบาลบางเขน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป