อาชญากรรม

ลูกจ้างหลอนยา ใช้เลื่อยยนต์ตัดคอนายจ้าง มีดพร้าฟันซ้ำ ฝังดิน อำพรางศพในสวนยาง

โดย panisa_p

11 มี.ค. 2566

641 views

เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรบ้านนา​เดิม รับแจ้งเหตุฆ่ากันตาย ในสวนยางพารา ในพื้นที่บ้านหนองเรียน ตำบลนาใต้ อำเภอ บ้านนาเดิม สุราษฎร์ธานี ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พัน ตำรวจเอกณรงค์ รักประทุม ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบ้านนาเดิม พิสูจน์หลักฐาน 8 และกู้ภัยสุราษฎร์ธานี


ที่เกิดเหตุภายในสวนยางพารา  พบต้นยางพารามีร่องรอยการใช้เลื่อยยนต์ตัดล้มอยู่ ใกล้กับโคนต้น พบมีรอยเลือดอยู่จำนวนมาก นอกจากนั้นพื้นดินยังมีรอยขุดและเกลี่ยดินถมไว้ และพบจอบ  เลื่อยยนต์ มีดพร้า เปื้อนเลือดอยู่บนรถบรรทุกไม้ยางพารา


เจ้าหน้าที่จึงได้ขุดดินลึกลงไปประมาณ 20 เซนติเมตร พบร่างนายพงษ์​ศักดิ์​ อายุ 55 ปี  ชาวตำบลนาใต้อำเภอ บ้านนาเดิม  เป็นนายจ้างโค่นไม้ยางพารา สภาพศพมีร่องรอยถูกเลื่อยยนต์ตัดที่ต้นคอ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจึงได้ตรวจสอบสภาพศพเบื้องต้นและเก็บหลักฐานที่เกิดเหตุก่อนนำร่างส่งชันสูตรต่อที่โรงพยาบาลบ้านนาเดิมต่อไป


ส่วนผู้ก่อเหตุ คือนายวรพจน์ อายุ 30 ปี ลูกจ้างโค่นไม้ยางพารา ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถควบคุมตัวได้ขณะที่กำลังเก็บของเพื่อที่จะหลบหนี หลังจากนั้นได้คุมตัวนายบอยเพื่อไปสอบปากคำที่ สถานีตำรวจ บ้านนาเดิม


จากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่า ในขณะที่ผู้ก่อเหตุและผู้เสียชีวิตกำลังตัดต้นไม้กันอยู่  ผู้เสียชีวิตได้ก้มลงไปเพื่อจะใช้มีดพร้าฟันกิ่งไม้ ผู้ก่อเหตุจึงได้ใช้เลื่อยยนต์ตัดเข้าไปที่ต้นคอ จนผู้เสียชีวิตล้มฟุบลง แล้วใช้มีดพร้าฟันซ้ำจนคอเกือบขาด ก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะเดินไปยืมจอบที่บ้านของชาวบ้านที่อยู่ห่างกันเพียง 50 เมตรมาขุดหลุมและฝั่งร่างผู้เสียชีวิต


ทางด้านนายชัย เจ้าของบ้านที่ผู้ก่อเหตุไปยืมจอบ เล่าให้ฟังว่า ขณะที่ตนกำลังนั่งอยู่หน้าบ้าน ตนได้ยินเสียงเลื่อยยนต์ดัง ก็คิดว่าคนงานตัดไม้กันตามปกติ  พอเสียงเลื่อยยนต์เงียบลง ก็ได้ยินเสียงผู้ก่อเหตุพูดว่า ขาดแล้ว หลังจากนั้นประมาณ 4 ถึง 5 นาที ลูกจ้างตัดไม้อีกคน ได้วิ่งมาบอกตนว่าให้โทรแจ้งตำรวจให้หน่อย มีเหตุฆ่ากัน แต่ผู้ก่อเหตุได้เดินตามหลังมาติดๆ  และได้ขอยืมจอบของตน ก่อนจะเดินกลับไปขุดหลุมฝังร่างของผู้เสียชีวิต โดยใช้เวลาขุดอยู่ประมาณ 20 นาที กว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะไปถึง  หลังจากนั้นผู้ก่อเหตุได้เก็บเลื่อยยนต์ขึ้นรถ เพื่อที่จะขับหลบหนีไป แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถควบคุมตัวไว้ได้


นางจารีย์ อายุ 49 ปี ภรรยาผู้เสียชีวิตกล่าวว่า ผู้ก่อเหตุมาทำงานอยู่กับสามีตนได้ประมาณ 1 ปี ปกติแล้วเป็นคนร่าเริง แต่บางครั้งก็มักจะมีพฤติกรรมคล้ายคนเมายา  ที่ผ่านมาก็ไม่เคยเห็นว่ามีปัญหาหรือทะเลาะกับสามีตน ส่วนปมก่อเหตุนั้นตนคาดว่าน่าจะเพราะเมายา จึงลงมือก่อเหตุ ซึ่งตนก็คงต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของกฎหมายลงโทษ เพราะต่อให้แลกด้วยชีวิต สามีตนก็คงไม่กลับมา ตอนนี้ก็ยังไม่สามารถทำใจได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

คุณอาจสนใจ

Related News