ระแวงแฟนสาวมีชายอื่น ย่องเงียบเข้าบ้าน คว้าปืนยิงดับ ก่อนยิงตัวเองตามสาหัส

เมื่อเวลา 12.45 น. วันที่ 18 ก.พ. 66 ขณะ ร.ต.อ.พินัย เหรา รองสารวัตรสอบสวน สภ.ช่อแฮ ปฏิบัติหน้าที่พรักงานสอบสวน สภ.พระธาตุช่อแฮ ได้รับแจ้งว่ามีเหตุคนถูกยิงด้วยอาวุธปืนที่บ้าน ม.2 บ.พันเชิง ต.ช่อแฮ อ.เมืองแพร่ จ.แพร่ เบื้องต้นมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต

ที่เกิดเหตุ ผู้บาดเจ็บอาการสาหัสเป็นชาย นอนดิ้นทุรนทุรายอยู่พื้นบ้าน ถูกยิงเข้าที่บริเวณศีรษะ ทราบชื่อในเวลาต่อมา คือ นายธิติพงศ์ อายุ 47 ปี จึงช่วยเหลือนำส่ง รพ.แพร่ อย่างเร่งด่วน เนื่องจากอาการสาหัสหายใจรวยริน

นอกจากนั้น บนโซฟาภายในบ้านพบร่างนางนภัสร์ อายุ 43 ปี สภาพศพสวมเสื้อสีเทาดำ ถูกยิงด้วยอาวุธปืนสั้นไทยประดิษฐ์ ขนาด 11 ม.ม. เข้าบริเวณหน้าอก เสียชีวิตคาที่ เบื้องต้นทราบว่า ผู้ก่อเหตุคือ นายธิติพงษ์ ที่บาดเจ็บสาหัส นำส่ง รพ. ไปก่อนหน้านี้

จากการสอบสวน นางภาวนา อายุ 62 ปี เพื่อนบ้านให้การว่า ระหว่างเกิดเหตุ ตนได้ยินเสียงปืนดัง 2 นัด จากนั้นได้ยินเสียงร้องจากคนในบ้าน จึงเข้าไปดู พบคนถูกยิงในบ้าน 2 คน จึงได้วิ่งออกมา ตะโกนขอความช่วยเหลือ และบอกชาวบ้านให้ช่วยแจ้งตำรวจดังกล่าว

สำหรับฝ่ายหญิงที่เสียชีวิตเป็นเจ้าของบ้าน มีลูกสาว อายุ 5 ขวบ และมีหลานสาววัยรุ่นอยู่ด้วยในบ้าน ส่วนฝ่ายชาย ที่ก่อเหตุ คบหากันไม่นาน หลังจากที่ฝ่ายหญิงแยกกันอยู่กับสามีคน จ.ลำปาง ที่มีอาชีพหมอดูไปแล้ว แต่ตอนหลังฝ่ายชายที่ก่อเหตุได้เดินทางไปทำงานที่ประเทศไต้หวัน แต่ก็ติดต่อ ส่งเสียมาให้ตลอด แต่ระยะหลังฝ่ายชายระแวงว่า ผู้หญิงจะมีคนอื่น หรือกลับไปสานสัมพันธ์กับแฝนเก่าที่เป็นหมอดู จึงมักจะโทรมาถามญาติ ๆ หรือข้างบ้านของฝ่ายหญิง ว่ามีพฤติกรรม อย่างไรบ้าง

จนกระทั่งวันนี้ ไม่ทราบว่า ฝ่ายชายกลับมาจากประเทศไต้หวัน เมื่อไหร่ เพราะไม่มีใครรู้ ไม่มีใครเห็น แม้กระทั่งบ้านพ่อแม่ฝ่ายชายก็ไม่ทราบว่า ลูกชายมาตั้งแต่เมื่อไหร่ มาทราบก็ต่อเมื่อ พบว่าก่อเหตุยิงนางนภัสร์ เสียชีวิตในบ้าน แล้วยิงหัวตัวเองสาหัสดังกล่าว ซึ่งทุกคนต่างก็งง ว่าเกิดเหตุแบบนี้ได้อย่างไร แล้วฝ่ายชาย มาถึงบ้านฝ่ายสาวอย่างไร

จากนั้นแพทย์เวร รพ.แพร่ พร้อม ตร.พิสูจน์หลักฐาน จ.แพร่ ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ เพื่อหาวิถีกระสุน และพยานหลักฐานต่าง ๆ ในการดำเนินการทางคดีต่อไป